แก้ม วิชญาณี หวงชีวิตโสด ยังไม่พร้อมมีแฟน ตอนนี้รู้ชีวิตทำเพื่อใคร สเป๊กไทยหรือเทศไม่ติด

น้องสาว เกต จิณภัค หรือ เกต เดอะสตาร์ 6 เพิ่งแต่งงานไปไม่นาน แถมยังโชว์หวานแบบไม่เกรงใจพี่สาวที่ยังโสดอยู่ ล่าสุดเจอนักร้องสาว แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “4 โพดำปะทะ 3 ดอกจิก” ที่ตึกแกรมมี่ ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นักร้องสาวว่าเห็นความสวีตของน้องแล้วอยากมีแฟนบ้างหรือยัง

“ในฐานะพี่สาว เรารู้สึกดีใจกับน้อง ส่วนตัวเราไม่ได้มีประสบการณ์ด้านนี้เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นน้องเขาจะมีแฟนตลอด แล้วอันนี้เขาแฮปปี้มาก ไม่ผิดเลยที่จะหวานขนาดนั้น เพราะได้แฟนดีจริงๆ อันนี้คือคอนเฟิร์มจากพี่สาวและคุณแม่เลย เกดเขามีความสุข เราก็มีความสุข อันนี้คือสำคัญที่สุดเลย”

การเจอกันของเขาก็เป็น destiny เหมือนกัน? “ใช่ๆ เขาเป็นเพื่อนกันมาก่อนในเฟซบุ๊ก แล้ววันหนึ่งพอเห็นว่าเกดโสด เขาก็ไปคุยกัน”

เราอยากจะมีเหมือนน้องไหม? “destiny มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกำหนดได้ เพราะฉะนั้นการที่เราจะเจอคู่สักคนหนึ่ง หรือคนที่จะมาอยู่กับเราได้ เขาต้องเป็นคนที่ใช่จริงๆ เราไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องมี

ณ ตอนนี้หรือตอนไหน เรามองว่าถ้าคนที่เข้ามาแล้วรู้สึกว่าใช่ คนที่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ สิ่งที่เรารัก เพราะเราไม่หยุดทำงานแน่นอน อันนี้มันสำคัญมาก แล้วก็การที่จะเข้ากับครอบครัวได้ ทุกๆ อย่าง มันต้องเป็นคนแบบนั้น มันถึงจะเก็ตกัน”

เราเปิดใจหรือมีกำแพง? “แก้มว่ามันมีอยู่แล้วค่ะกำแพง โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่โสดมาตลอด เหมือนเรารู้สึกว่าเราอยู่ได้ ดูแลตัวเองได้ ไปไหนคนเดียวได้ ดูแลแม่ได้ ทำอะไรที่อยากทำได้ โดยไม่ต้องมีการตัดสินใจจากอีกคนหนึ่ง แต่ในวันหนึ่งถ้าเราเจอคนที่เข้าใจเรา และเราเข้าใจเขา มันก็ไม่แปลกค่ะ เพียงแค่ตอนนี้เรายังไม่เจอ”

งานแต่งน้องทำให้เราเชื่อในความรักมากขึ้นไหม? “เราเชื่อในความรักอยู่แล้ว เราไม่เคยบอกว่าความรักมันยาก แต่มันอยู่ที่เราเริ่มรักตัวเองหรือยัง อันนี้สำคัญที่สุด”

สเป๊กเราเป็นยังไง? “ไม่ติด เมื่อถึงเวลาเราไม่ได้มองหรอกว่า คนนี้หน้าตาเป็นยังไง เรามองว่าจิตใจเขาเข้ากับเราจริงๆ ไหม”

คนเชียร์ให้เราสายฝ. เหมือนน้อง? “ก็ไม่ติดไง ไม่ได้กลัวการมีแฟนค่ะ ยิ่งโตเรายิ่งเข้าใจตัวเองมากขึ้น เรารู้สึกว่าถ้าเรายังรักตัวเองไม่เต็มที่พอ แล้วเราจะรักคนอีกคนหนึ่งได้ยังไง ไม่ได้กลัว แต่ยังไม่เจอ (มีแผนสำรองไหม ถ้าไม่มีคู่จริงๆ?) อันนี้เป็นสิ่ที่ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะต้องเกิดหรือไม่เกิด และรู้สึกว่ามันโอเคมาก

ถ้ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่รู้สึกว่ามันแปลกเลย ในยุคนี้ถ้าดูแลตัวเองได้ ก็อยู่ได้ ถ้าในอนาคตจะไม่มีคู่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่รู้สึกว่ามันไม่ไหว เรามีหลานแน่นอนในอนาคต เรามีคนให้เราเราต้องดูแลอยู่แล้ว ทั้งแม่และครอบครัว แม่ก็ถามนะ ถามเกด ว่าพี่ไม่มีเลยเหรอ แต่แม่ไม่ได้กดดันเรา แม่เข้าใจเรา”

น้องมีแนะนำไหม? “เขารู้จักเรา การแนะนำจากเขามันจะไม่ใช่การแนะนำคน จะเป็นการแนะนำวิธี ว่าเธอ…แบบนี้เขาชอบเธอนะ เพราะนี่ไม่รู้ เซ้นส์น้อยเหลือเกิน แต่ตอนนี้โตขึ้นแล้ว เข้าใจแล้ว เราก็รู้วิธีหนี (หัวเราะ) คือมีคนที่ส่งสัญญาณมา แต่เราไม่อยากให้เขามาเสียเวลาถ้ามันไม่ใช่”

ถ้าโสดก็อยู่ได้? “สบายนะคะ เราทำงานค่ะ จ้างดิฉันนะคะ พร้อมทำงานร้องเพลง”

คนโสดบางคนเขาจะไปดูสถานที่ดูแลตัวเองตอนแก่? “ชอบนะ นี่คือการวางแผนระยะยาว แต่เดี๋ยวเราก็มีหลาน มันไม่ต้องขนาดนั้น แต่ก็มีการคุยกันบ้างกับเพื่อน แบบแซวๆ หรือว่าหาบ้านวะ หรือว่าจะปลูกบ้านใกล้ๆ ไหม ดูแลกันเอง คือแม่เขาจะเป็นห่วงตรงนี้

เพราะเราก็โตแล้ว เขาก็ยังหวังแหละ ว่าลูกจะได้มีคนอยู่ข้างๆ นะ แต่ถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่มี หรือมันไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร เราต้องใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ สำคัญที่สุดคือเราต้องดูแลตัวเอง Money ก็สำคัญ สุขภาพก็สำคัญมาก”

ขอบคุณรูปจากไอจี : gamwichayanee