วันที่ 31 ตุลาคม 2566 จากกระแสประเด็นร้อน กระทรวงสาธารณสุข จ่อแก้กฎกระทรวงใหม่ “พกยาบ้าน้อยกว่า 10 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ ไม่ต้องเข้าคุก” ดราม่าดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 66) ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมกล่าวถึง เรื่องการกำหนดจำนวนการครอบครองยาเสพติดให้โทษเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า คาดว่าจะได้ประกาศใช้ช่วงเดือน ธ.ค. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแยกแยะพฤติกรรมการเข้าข่ายว่าถือครองกี่เม็ดเป็นผู้เสพหรือเป็นผู้ค้า ขณะนี้ สธ. กำลังให้คณะกรรมการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดำเนินการตามขั้นตอนการประกาศเป็นกฎกระทรวง ซึ่งมีข้อสรุปว่า “การครอบครองยาบ้าน้อยกว่า 10 เม็ดให้ถือเป็นผู้เสพ ที่ต้องได้รับการบำบัดในฐานะผู้ป่วย แต่ถือครองมากกว่า 10 เม็ดให้ถือเป็นผู้ค้า ซึ่งจะต้องได้รับการบำบัดพร้อมกับการดำเนินคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราใช้เหตุผลในทุกมิติรองรับ ทั้งด้านการแพทย์ เรื่องฤทธิ์ของยา มิติทางด้านเศรษฐกิจ การบังคับใช้กฎหมายและพฤติกรรมของการเป็นผู้ค้าที่ส่วนใหญ่จะทำบรรจุห่อละ 10 เม็ด อย่างไรก็ตาม เมื่อตำรวจตรวจพบผู้ครอบครองยาบ้าแล้ว ก็จะต้องมีการสืบสวนคดีต่อไป”
จากประเด็นข้างต้นกลายเป็นกระแสดราม่าอย่างรุนแรงในโลกโซเชียล เนื่องจากประชาชนจำนวนมากต่างมองเห็นปัญหาเรื่องยาเสพติดที่ในปัจจุบันพบว่า ราคายาบ้า มีราคาถูกลงเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขัดอย่างเข็มงวด จับล็อตหนึ่งได้เป็นจำนวนมหาศาล แต่ก็ยังมีแพร่หลายในท้องตลาด ซึ่งเมื่อราคายาเสพติดที่ถูกลง ทำให้ผู้เสพมีกำลังซื้อในจำนวนเยอะขึ้น ซึ่งหากใครที่ติดตามข่าวสารอยู่เป็นประจำคงจะพอทราบดีว่า มีการก่อเหตุอาชญากรรมบ่อยครั้ง และบ่อยครั้งมักมาจากสาเหตุการเสพยาเสพติด ทั้งนี้ ประชาชมมองว่า การที่จะแก้กฎกระทรวงใหม่ จะทำให้ปัญหายาเสพติดมีจำนวนเยอะขึ้นหรือไม่ อีกทั้งยังมองว่าแบบนี้เป็นการออกกฎสวนทางกับนโยบายที่หาเสียง หรือ ที่แถลงนโยบายรัฐบาล ในรัฐสภาหรือไม่
- ชาดา บุกช่วยหญิงสูงอายุ ที่ติดอยู่ในอาคาร ที่ไฟกำลังไหม้
- ควบรวมทรู-ดีแทค วุ่นหนัก! ศาลปกครองฯ รับคำฟ้อง ถอนมติ กสทช.
- ชลน่าน รมว.สธ จ่อออกกฎ มียาบ้าไม่ถึง 10 เม็ด ถือเป็นผู้เสพไม่ต้องเข้าคุก
ซึ่งหากย้อนกลับไปช่วงที่ พรรคเพื่อไทย ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ จะพบว่า พรรคเพื่อไทย เคยมีการกล่าวถึงนโยบายพรรค ระบุรายละเอียดว่า “พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มุ่งมั่นที่จะแก้วิกฤตให้พี่น้องประชาชน ปราบยาเสพติด ให้เห็นผลใน 1 ปี” เราจะเร่ง “ปราบปรามผู้ผลิตและผู้ขาย” อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการ “ยึดทรัพย์” ผู้ผลิตและผู้ขาย นอกจากนี้ยังมีนโยบาย “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” บำบัดผู้ติดยาเสพติดอย่างทั่วถึง นำการบำบัดทางจิตวิทยาที่ทันสมัยมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการกลับไปใช้ยาเสพติดอีกครั้ง เพื่อคืนชีวิตพี่น้องลูกหลานกลับคืนสู่ครอบครัว เรามีแนวทางในการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อร่วมมือกันจัดการทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดอย่างถาวรต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อย้อนกลับไปดูคำแถลงนโยบายรัฐบาล จะพบว่า คณะจัดตั้งรัฐบาล ได้มีการแถลงนโยบายปราบปรามยาเสพติด โดยมีใจความ ดังนี้ นโยบายด้านความปลอดภัย รัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร นอกจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY