กลับมาพบกันอีกครั้งกับพวกเราทีมงาน Sanook! Hitech และบทความรีวิวสินค้าใหม่ๆ ที่เปิดตัวและวางขายกันในตลาดบ้านเรา สำหรับบทความนี้ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กอย่าง Redmi 12 จัดว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นของยี่ห้อนี้ในปี 2023 เห็นว่าแล้วจะเป็นอย่างไรและน่าสนใจแค่ไหน

 

คุณสมบัติ-สเปกของ Redmi 12

• ขนาดตัวเครื่อง 168.6 x 76.3 x 8.2 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 198.5 กรัม
• หน้าจอขนาด 6.79 นิ้ว ใช้หน้าจอ IPS-LCD
• ความละเอียดหน้าจอ : 1080 x 2460, Refresh Rate 90Hz ความสว่าง 550 nits
• กระจกหน้าจอ : ไม่ได้ระบุ
• มาตรฐานการกันน้ำ IP53
• ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G88 | GPU: Mali-G52
• RAM: 8GB แบบ LPDDR4x
• ความจำในตัว :128GB แบบ UFS 2.2
• เพิ่มความจำผ่าน MicroSD ความจุสูงสุด 1TB
• ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + MIUI 14
• การเชื่อมต่อ 4G / WiFi 5 (AC), GPS, Bluetooth 5.0- A-GPS, GPS
• ช่องเสียบ USB-C + ช่องเสียบหูฟัง
• รองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง + MicroSD (Triple Slot)
• ระบบเสียง : เฉพาะด้านล่าง
• ระบบไมโครโฟน : 2 ด้านบนและล่าง
• กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล PDAF F/1.8
  • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา
  • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • รองรับการถ่ายวิดีโอ FHD 30FPS
  • LED Flash
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล FHD 30 FPS
• แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 18W
• ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนนิ้วมือในหน้าจอ
• สี : Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• ตัวเครื่อง Redmi 12
• อะแดปเตอร์จ่ายไฟ 33W
• สาย USB Type-C To Type-A
• เคสซิลิโคน
• เข็มนำถาดซิมออก
• คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

รูปลักษณ์ภายนอกและดีไซน์ภายนอกของ Redmi 12

เรามาเริ่มต้นกับดีไซน์หน้าจอกันดีกว่ากับขนาด 6.79 นิ้ว ถือว่าใหญ่กว่ารุ่นพี่อย่าง Redmi Note 12 Series ทุกตัวที่ออกมาก่อนหน้านี้ และเป็นจุดเด่นของเขาเลยก็ว่าได้ ความละเอียด 2460 x 1080 พิกเซล หรือ FHD+ และยังมีขอบหน้าจอที่ไม่ได้ดูหนาจนเกินไป

ส่วนบนจะมีกล้องหน้าหน้าแบบลอยเพื่อให้สูญเสียพื้นที่น้อยลง หรือ DotDisplay ความละเอียดที่ได้คือ 8 ล้านพิกเซล และยังได้ใส่เซ็นเซอร์ที่จำเป็นในหน้าจอมาให้แบบครบครัน

ส่วนล่างมีปุ่มควบคุมระบบปฏิบัติการ Android สามารถเลือกได้ทั้งปุ่มปกติ หรือ การปัด โดยเปลี่ยนได้ในตั้งค่า > ค้นหาคำว่า การควบคุมหรือ Navigate

รอบตัวเครื่องจะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่องทั้งหมด จะหนาสักหน่อยแต่จับถนัดมือ มาพร้อมกับถาดใส่ซิม 2 ช่อง (Nano SIM 1ช่อง + Hybrid Slot สลับได้ระหว่าง Nano SIM หรือ MicroSD)

ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่ม Power พร้อม ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง และ ปุ่มเพิ่ม / ลด ระดับเสียง สามารถ Capture หน้าจอโดยการกดปุ่ม Power + ลดเสียง แต่ถ้าจะปิดเครื่อง หรือ รีสตาร์ท กด Power + เพิ่มเสียง

ด้านบนมี IR Blaser ทำงานร่วมกับ Mi Remote ช่วยสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้หลากหลายชนิด และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างติดตั้ง ไมโครโฟน, USB-C และลำโพงตัวหลักของเครื่อง

พลิกมาด้านหลังจะมีการออกแบบเพื่อวางตำแหน่งกล้องได้ โดยความละเอียดนั้นอยู่ที่ 50 ล้านพิกเซล และมีกรอบเหมือนกับ Redmi Note 12 Series เพียงแต่จะมีการกำหนดคำว่า AI มาให้ ผิวสัมผัสจะเป็นแบบเรียบเหมือนกับกระจก อยู่เหมือนเดิม

ภาพรวมการออกแบบ

ด้วยน้ำหนักเกือบ 200 กรัมก็ทำให้ไม่ได้รู้สึกหนักเพราะเป็นมือถือที่ได้หน้าจอใหญ่และยังมีความบางที่ 8.17 นิ้วถือว่าทำได้ดีขึ้นกว่าเดิม จนเรียกว่านี่คือมือถือที่มีราคาไม่แรงแต่ได้ขอบเครื่องที่บาง แต่ถ้าอยากเพิ่มเติมสักนิดก็จะเป็นผิวที่ทำให้จับแล้วอยู่มือแทนเพราะตัวเครื่องค่อนข้างเงาและลื่นไปหน่อย แต่อย่างไรก็ดี สีสันของมันก็จัดว่าสวยเพราะมีให้เลือกหลากหลายสี ทั้ง Midnight Black, Sky Blue, Polar Silver โดยสีที่เราได้มาเป็น Polar Siliver ออกเป็นสีม่วงเล็กๆ มันก็สวยแปลกออกไปจากรุ่นอื่นๆ ชัดเจน

การแสดงผลผลภาพ / ระบบเสียง

Redmi 12 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล FHD+ DotDisplay ขนาด 6.79 นิ้ว ซึ่งนับว่าใหญ่ที่สุดในซีรีส์นี้ซึ่งจะมอบประสบการณ์การรับชมอันดีเยี่ยม และด้วยความละเอียด 2460×1080 พร้อมอัตราการรีเฟรช AdaptiveSync 90Hz ทำให้ Redmi 12 โดดเด่นกว่าคู่แข่งในแง่ของการแสดงผลที่มีความละเอียดและคมชัดเล่นเกมส์สนุกและก็ยังสัมผัสแม่นยำ

นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับสีและพื้นผิวของเนื้อหาบนหน้าจอและโหมดการอ่าน 3.0 เพื่อให้การอ่านและการเรียกดูของคุณสบายตามากยิ่งขึ้น และ Redmi 12 ยังได้รับการรับรอง SGS Low Blue Light อีกด้วย 

 

ระบบเสียงไม่ได้ให้ลำโพงคู่มาให้แต่ว่าเสียงที่ได้ถือว่าดัง และยังรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม / การเชื่อมต่อไร้สาย

 

Redmi 12 ใช้โปรเซสเซอร์ octa-core MediaTek Helio G88 ที่มีประสิทธิภาพใช้คำว่ากำลังดี แต่ว่าการเล่นเกมอาจจะใช้คำว่ายังมีอาการกระตุกอยู่บ้างเพราะไม่ได้เน้นแรงมาก แต่เน้นประหยัดไฟมากกว่าอย่างน้อยเก็บหนักๆ อย่าง Genshin Impact ยังสามารถเข้าได้แต่ Preset ต้องปรับระดับกลางเท่านั้น น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่ได้ติดตั้งตัวช่วยเล่นเกมให้เท่าไหร่

ด้านการเชื่อมต่อรองรับ 4G, Wi-Fi AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS มาแบบครบครันเลยครับดังนั้นเลยไม่น่าเป็นห่วงสำหรับมือถือรุ่นนี้ แถมยังบอกพิกัด GPS ได้ทั้งอยู่ใต้สะพานหรือ ข้างบนได้รวดเร็ว

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน และ ระบบความปลอดภัย

Redmi 12 มาพร้อมกับ MIUI 14 ใช้พื้นฐาน Android 13 ที่มีความคล่องตัวกินพลังงานน้อย แถมยังสามารถปัดทางซ้ายเพื่อเรียกเมนูด่วนสำหรับการเปิดโปรแกรมเพิ่ม หรือใช้นิ้วสั่งงานเช่นการ Capture Screen เป็นต้น 

การแบ่งหน้าจอยังคงทำได้แต่รองรับแค่บาง Apps เท่านั้น

นอกจากนี้เครื่องมืออื่นๆ ก็ยังมีติดตั้งมาให้เช่น Apps กระจกส่องหน้า, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, ระบบดูแลอุปกรณ์และอื่นๆ รวมถึงบริการที่สามารถดาวน์โหลด Apps ผ่าน Google Play Store  

 

ส่วนระบบความปลอดภัย มาพร้อมกับระบบสแกนนิ้วทางด้านข้าง และสแกนใบหน้าแบบ 2D และยังมีโหมดสามารถซ่อน Folder ที่เราไม่ต้องการให้คนอื่นที่มายุ่งกับมือถือของเราเปิด

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ

• กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล PDAF F/1.8
  • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 120 องศา
  • กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
  • รองรับการถ่ายวิดีโอ FHD 30FPS
  • LED Flash
• กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล FHD 30 FPS

ฟีเจอร์ภายในของกล้อง Redmi 12

การจัดวางเมนูของ Redmi 12 กับเรื่องกล้องแม้ว่าจะคล้ายกับ Xiaomi ในรุ่นหลังๆ แล้วแต่ยังมีลูกเล่นของกล้องที่มาครบเครื่องไม่ว่าจะเป็น โหมดโปร สามารถวัดระดับน้ำและยังสามารถ และยังมีฟิลเตอร์เยอะมาก ลูกเล่นต่างๆ มีให้ครบและยังถ่ายภาพแบบโคลนได้และมีกล้องคู่ มาให้ด้วย ที่สำคัญเรื่องใส่ใจรายละเอียดเช่นการปรับรูปแบบของ Timelaspe ให้เลือกใช้ความเร็วที่ง่ายมากขึ้น แต่ว่า ปุ่มเป็นสีขาวค่อนข้างกลืนกันเวลาใช้งานจริง

 

ด้านลูกเล่นกล้องหน้าจัดว่าครบทุกโหมด แต่ Beauty ยังปรับได้ในระดับ Level โดยจะเปลี่ยนผิวให้เรียบและขาวขึ้นนั่นเอง ฟิลเตอร์มาแบบเดียวกับกล้องหลังเลยครับ

 

ต่อกันที่การทดสอบกล้องในสถานะแสงต่างๆ

 



ภาพกลางวัน

สภาพแสงน้อย

ส่วนกล้องหน้าจะมีแม้จะได้ความละเอียดแค่ 8 ล้านพิกเซล แต่ยังคงเก็บรายละเอียดได้ดี

 

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

จุดเด่นสำคัญของ Redmi 12 คือขนาดแบตเตอรี่ เพราะรอบนี้มีขนาดที่ใหญ่ถึง 5,000mAh โดยมีการเคลมจตากทาง Xiaomi ว่า สามารถสแตนด์บายได้ถึง 23 วัน เล่นเพลงได้ 133 ชั่วโมง อ่านหนังสือออนไลน์ได้ 26 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอได้ 16 ชั่วโมง แต่จากการทดลองจริงแล้วพบว่าถ้าเปิดและใช้งานอย่างหนักทั้งวัน แบตเตอรี่ลดเหลือ 56% เท่านั้น และยังเหลือต่อให้ใช้ในวันรุ่งขึ้นอีกราวๆ 8 ชั่วโมง ดังนั้น การที่เคลมแบบนี้ถือว่าไม่เกินจริงครับ ก็ตรงตามที่ทดสอบ PCMark ที่ทำได้ 10:36 ชั่วโมง

ส่วนระบบชาร์จไฟถึงแม้ในกล่องจะติดที่ชาร์จ PD กำลัง 33W มาให้แต่น่าเสียดายครับ ตัวเครื่องรองรับกำลังชาร์จไฟสูงสุด 18W เท่านั้น ถือว่าน้อยไปนิด

เล่นแล้วเล่ากับประสบการณ์หลังได้ลองเล่น Redmi 12 รวมไปถึงราคา และการจัดจำหน่าย

โดยรวมแล้ว Redmi 12 จัดว่าเป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นที่คุณไว้ใจได้อีกตัวหนึ่งสำหรับงบประมาณในช่วง 5,000 บาทกับลูกเล่นครบครัน ระบบปฏิบัติการให้ อัปเดตยังพอมีอยู่เรื่อยๆ และยังได้กล้องที่ใช้คำว่าเซนเซอร์ไพรส์เพราะฟิลเตอร์เยอะและยังมีความลื่นและความปลอดภัยในตัวเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการความคุ้มค่าเป็นหลัก แต่อาจจะมีข้อสังเกตที่บอดี้ที่ลื่นง่าย แต่ใส่เคสแล้วก็จะเกาะมือกำลังดีเลยครับ

สำหรับราคานั้น Redmi 12 รุ่นความจุ 8GB+128GB วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Sky Blue และ Polar Silver ในราคาเพียง 5,299 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ

จุดเด่น

• งานออกแบบทำได้ดีทั้งบางและสวย
• หน้าจอสวยคมชัด
• ของติดกล่องให้ดีเกินราคา
• ระบบปฏิบัติการใหม่
• กล้องสวยและใช้งานได้เลย
• แบตเตอรี่อึดมาก

ข้อสังเกต

• กำลังชาร์จไฟ 18W
• ตัวเครื่องค่อนข้างลื่นง่ายไปหน่อย
• ไม่มีการปรับเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม