อาจารย์ไสยเวทดัง นำทีมหมอฆราวาสภาคใต้ ปลุกเสกเหรียญพรายกระซิบ กลางป่าช้าที่ถูกร่ำลือเฮี้ยนที่สุดในจังหวัดตรังกลางดึก ชาวบ้านแห่ร่วมพิธีอย่างล้นหลาม ไม่พลาดส่องเลขหางประทัด

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 ก.ค.2565 ที่ศาลาภายในป่าช้าเกาะพระเศษ หลังวัดควนนาแค ต.บ้านควน อ.เมืองตรัง นายประเทือง อินทร์ทอง หรือาจารย์เทือง ฆราวาสชื่อดัง เป็นประธานครูบาอาจารย์ฝ่ายฆราวาส ในพิธีปลุกเสกเหรียญพรายกระซิบ รุ่นแรกของสำนักอาจารย์เณรดอยเมืองตรัง

โดยมีเหล่าบรรดาครูหมอฝ่ายฆราวาสจำนวนมากเข้าร่วมในพิธี ซึ่งเดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และใน จ.ตรัง และยังคงมี นายปิยภัทร สุดศิริ หรือ “อาจารย์เณรดอยเมืองตรัง” ฆราวาสจอมขมังเวทย์ และยังเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการไสยเวท หนึ่งในผู้ร่วมปลุกเสกในครั้งนี้ด้วย ท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างจะมืด มีชาวบ้าน และผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าร่วมในพิธีอีกจำนวนมาก

ก่อนพิธีมีการบวงสรวงสถานที่ เจ้าที่เจ้าทาง ก่อนจะมีพิธีการปลุกเสกเหรียญพรายกระซิบ ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้นพิธี และมีการจุดประทัด ก่อนที่ชาวบ้านจะแห่ส่องหางประทัด เพื่อนำเลขไปเสี่ยงโชคเสี่ยงดวงงวดวันที่ 16 ก.ค.ที่จะถึงนี้ โดยเลขในหางประทัด คือ 823 และ 88 ก่อนที่อาจารย์เณรดอยเมืองตรัง จะแจก เหรียญพรายกระซิบ รุ่นแรก ที่เพิ่งผ่านการปลุกเสกให้กับผู้เข้าร่วมพิธี

อาจารย์เณรดอยเมืองตรัง ระบุ วันนี้เป็นการทำพิธีปลุกเสกเหรียญพรายกระซิบ หากพูดในเชิงของคำสอนเป็นเหรียญมรณานุสติ ให้มีสติระลึกถึงความตายตลอดเวลา ส่วนความเชื่อในทางด้านของขลัง ก็เป็นเครื่องรางชนิดหนึ่ง ทางคณะลูกศิษย์มีการอยากที่จะจัดสร้างขึ้นมา ก็เลยดำเนินการสร้าง เพราะในสมัยอดีตช่วงปี พ.ศ.2500 วัดดอนยานนาวา ก็เคยมีการสร้างเหรียญพรายกระซิบ ซึ่งมีมูลค่าต่อเหรียญสูงมาก

ทางภาคใต้จึงคิดอยากจะสร้างบ้าง ก็เลยปรึกษาหารือและจัดการออกแบบ และปลุกเสกมาแล้ว 2 วาระ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยมีคนปลุกเสกเป็นเหล่าฆราวาสทั้งหมด ไม่มีพระสงฆ์ในการร่วมปลุกเสก เนื่องจากในยุคปัจจุบันศิษย์สายวัดเขาอ้อ จะแน่นฆราวาสเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการปลุกเสกครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา มีอาจารย์เทียม พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม อาจารย์เกจิชื่อดังจากวัดในเตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เป็นผู้ปลุกเสก

ในอดีตเหรียญพรายกระซิบ มีอีกชื่อหนึ่งคือเหรียญล้างป่าช้า หรือเหรียญหัวกะโหลก เพราะมีคุณวิเศษ มีพุทธคุณ มีประสบการณ์ ในเรื่องของพรายกระซิบ และจะเด่นในเรื่อง ในเรื่องของการให้โชคให้ลาภ การค้าการขาย การบนบานศาลกล่าว ตามความรู้เหรียญพรายกระซิบ มีการระบุไว้ว่า

หากขอจากฟ้าไม่ได้ ก็ให้ขอดิน คือถ้าขอพรหรือบนบานศาลกล่าวอะไรจากเทพเทวดาไม่ได้ ก็ให้บูชาภูตผีเหล่าวิญญาณต่างๆ ภูตผีปีศาจก็จะมาช่วยเหลือ หากยึดมั่นคำว่า “คนดีผีคุ้ม” ยังไงก็ต้องมาช่วยก่อน เพื่อความไม่ประมาทในชีวิตเช่นพระพุทธเจ้าสอนให้นึกถึงความตายไว้ตลอด

อดีตช่วงปี พ.ศ.2506 ถึง พ.ศ.2516 วัดควนนาแค เคยมีการปลุกเสกเหรียญพรายกุมารกระซิบ ขุนแผนวัดควนนาแค เหรียญโหงพราย ภายในป่าช้าแห่งนี้มาแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งถือว่าโด่งดังมากสุดของภาคใต้ในขณะนั้น ส่วนป่าช้าแห่งนี้เป็นป่าช้าที่เฮี้ยนที่สุดใน จ.ตรัง สมัยก่อนมีเรื่องเล่าหากใครขับรถผ่านไปมาจะถูกผีหลอก เรียกให้จอดแหละขอขึ้นรถไปด้วย ในปัจจุบันนี้การปลุกเสกในป่าช้ายังคงมีให้เห็นอยู่ แต่ไม่มีการเปิดเผยเท่าไรนัก