พรีเมียร์ลีก ออกแถลงการณ์ยืนยันการเข้าเทกโอเวอร์สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นำโดยกลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมีผลทันทีหลังเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบทางบัญชี
พับลิก อินเวสต์เมนท์ ฟันด์ (พีไอเอฟ), พีซีพี แคปิตอล พาร์ทเนอร์ส และ อาร์บี สปอร์ตส์ แอนด์ มีเดีย ได้เข้าครอบครองกิจการ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จำกัด และ สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จำกัด จากกลุ่มทุนเก่า เซนต์ เจมส์ โฮลดิง จำกัด อย่างเป็นทางการ
ผลจากการเข้าบริหารกิจการดังกล่าวทำให้ ยาซีร์ อัล-รูมายยาน ผู้บริหารของ พีไอเอฟ นั่งแท่นประธานสโมสรคนใหม่ ขณะที่ อแมนดา สเตฟลีย์ กรรมการผู้จัดการจาก พีซีพี จะมีที่นั่งในบอร์ดบริหารทัพสาลิกาดง และ เจมี รูเบน ตัวแทนจาก อาร์บี สปอตส์ แอนด์ มีเดีย นั่งตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสร
“พวกเรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าของใหม่สโมสร นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หนึ่งในทีมฟุตบอลชื่อดังของอังกฤษ” อัล-รูมายยาน กล่าว
“พวกเราขอขอบคุณแฟนบอล นิวคาสเซิล สำหรับการสนับสนุนทีมอย่างภักดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเราตื่นเต้นที่จะได้เริ่มต้นร่วมงานกับพวกเขา”
การเข้ามาเทกโอเวอร์ครั้งนี้หมายความว่า ทัพสาลิกาดง จะกลายเป็นสโมสรที่รวยที่สุดในโลกทันที เนื่องจาก พีไอเอฟ มีทรัพย์สินอยู่ที่ 4 แสนล้านเหรียญ และตั้งใจจะเพิ่มทรัพย์สินแตะ 1 ล้านล้านเหรียญภายในปี 2025
รายงานจาก เดลี เมล ยังวิเคราะห์ว่าจากนี้ไป นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สามารถควักเงินใช้จ่าย 200 ล้านปอนด์ตลอด 3 ปีถัดจากนี้โดยที่ไม่แหกกฏแฟร์เพลย์การเงิน สาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของเก่าบริหารสโมสรให้มีการเงินที่แข็งแกร่งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานั่นเอง
โดยหลังจากมีการยืนยันการเทกโอเวอร์นี้ออกมา ทำให้แฟนบอล เดอะ แม็กพายส์ กว่าหมื่นชีวิตออกมาฉลองบริเวณหน้าสนามเซนต์ เจมส์ พาร์ก รังเหย้าของพวกเขาอย่างมีความสุข ต้อนรับยุคใหม่ของทีมหลังจากไม่เคยได้แชมป์รายการใหญ่เลยมานานกว่า 50 ปี