แม่ และยายเด็กถูกถีบหัวบนรถเมล์ ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ลั่นไม่ขอรับเงินชดใช้ค่าเสียหาย ไม่อยากเห็นทำกับใครอีก เล่า พลเมืองดีช่วยล่าตัว หลังตำรวจชี้ คงจับตัวได้ยาก
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ สน.หนองแขม นางชมพูนุช ขอสงวนนามสกุล (แม่) และ นางสาวิตรี อายุ 61 ปี (ยาย) ได้พาน้องกัปตัน อายุ 17 ปี ที่ถูกชายวัยรุ่นก่อเหตุถีบศรีษะอย่างแรงขณะนั่งรถประจำทางสาย 80 ซึ่งวิ่งระหว่างสนามหลวง- หนองแขม ขณะเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน เข้าพบ ร.ต.อ. เอกชัย สุรวิกรานต์ รอง สว.สอบสวน สน.หนองแขม พร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อให้ปากคำและดำเนินคดีกับชายวัยรุ่นที่ก่อเหตุ
โดยนางชมพูนุช กล่าวว่า เดินทางมาให้ปากคำและติดตามคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุลูกชายได้รับบาดเจ็บ พกซ้ำ บริเวณลำคอ และปวดศรีษะ ตนและครอบครัวจึงพยายามหาข้อมูลหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดบนรถเมล์ และเบาะแสจากคนในพื้นที่รวมถึงข้อมูลจากโซเซียลมีเดีย ซึ่งตนเองไม่รู้เลยว่าจะสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้หรือไม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม ที่รับแจ้งความบอกว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นภาพตอนกลางคืน เห็นลักษณะใบหน้าไม่ชัด ขณะผู้ก่อเหตุก็สวมหน้ากากอนามัย อาจจะใช้เวลาในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้ยาก
จนกระทั่งมีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสกับตำรวจ และสามารถติดตามไปถึงบ้านและจับกุมผู้ก่อเหตุได้ โดยทราบว่าเป็นเด็กช่างกล ในย่านเพชรเกษม อายุ 22 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างการนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคู่กรณีเข้าพบพนักงานสอบสวน จากการตรวจสอบพบว่า คู่กรณีได้มีการเสพยาเสพติด ประเภทกัญชา ในช่วงก่อเหตุ เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดทำร้ายร่างกาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา)
นางสาวิตรี ยายผู้ถูกทำร้าย กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุอ้างว่า เมากัญชา เข้าใจผิดว่าเป็นคู่กรณี และพยายามไกล่เกลี่ยด้วยการขอชดใช้ค่าเสียหาย แต่ครอบครัวไม่ได้รับ และมองว่า ไม่ควรทำกับใครแบบนี้ อยากให้เป็นบทเรียน ว่าการทำอะไรต้องมีสติ และจะ ไม่ขอรับเงินจากคู่กรณี แต่จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นางสาวิตรี กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าหลานชายเป็นเด็กเรียบร้อย ผลการเรียนดีได้เกรด 3.50 ไม่ใช่เด็กเกเร ไม่ค่อยออกจากบ้านไปเที่ยวไหน เพราะทุกวันนี้เรียนในระบบออนไลน์ หากจะไปไหนก็มีแม่และผู้ปกครองไปรับ-ส่ง ไม่เคยออกนอกลู่ทางหรือไปมีปัญหากับใคร ในวันที่เกิดเหตุน้องเดินทางกลับบ้านด้วยรถเมล์สาย 80 หลังทำงานพาร์ทไทม์ ได้เพียง 4 วัน โดยให้แม่ออกมารับที่หน้าปากซอย ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ก็นั่งรถเมล์อยู่ดีๆ คู่กรณีเป็นใครไม่รู้มาถีบที่ศรีษะหลานชายอย่างรุนแรง ครอบครัวเองก็รับไม่ได้ ขณะหลานชาย ก็ได้รับบาดเจ็บ ฟกซ้ำบริเวณลำคอ และปวดศรีษะ ซึ่งหลังเกิดเหตุหลานชายรู้สึกกลัวและไม่กล้าออกไปทำงาน และไม่กล้านั่งรถออกไปนอกบ้านคนเดียวเพราะยังกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมาเวลา 14.00 น . เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หนองแขม ได้นำตัวนายนัด อายุ 22 ปี อดีตนักเรียช่างกล แต่เรียนไม่จบ ซึ่งพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรรษามาเจริญ (ซอย สนอง) แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม เข้ามาทำประวัติ ก่อนปล่อยตัวกลับไป โดยมีญาติขับรถมารับออกไป ซึ่งมีรายงานว่าตัวผู้ก่อเหตุได้เข้าพบพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายแล้วเมื่อช่วงกลางคืนที่ผ่านมาและได้มีการขอโทษกันแล้ว โดยทางพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวผู้ก่อเหตุเข้ามาสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดทำร้ายร่างกาย ส่วนข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) หรือไม่ อยู่ระหว่างรอผลตรวจหาสารเสพติด