นครราชสีมา ปธ.สมาพันธ์เอสเอ็มอีโคราช วอนทุกฝ่ายฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน โหวตพิธา นั่งนายกฯ จัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว มั่นใจรัฐบาลชุดใหม่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้แบบก้าวกระโดด
17 พ.ค. 66 – นางสาวฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการจับมือของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากว่า
ตนเองต้องแสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ และส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วประเทศ
เนื่องจากธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีซึ่งมีมากถึง 96% เฉพาะสมาชิกในสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ที่ จ.นครราชสีมา ก็มีอยู่จำนวน 2,560 ราย ส่วนที่ยังไม่เป็นสมาชิกก็มีอีกกว่า 3,000 ราย และนโยบายหลายอย่างของทั้ง 2 พรรคนี้ ก็เอื้อต่อการส่งเสริมให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโตได้แบบก้าวกระโดด
เพราะที่ผ่านมาหลังจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มคลี่คลายแล้ว หลายธุรกิจเริ่มมีออเดอร์สั่งเข้ามา แต่ธุรกิจเอสเอ็มอียังขาดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน การกู้เงินสถาบันการเงินมีอุปสรรคมากมาย
ขณะที่พรรคเพื่อไทย ถือว่าเป็นพรรคที่เคยบริหารประเทศประสบความสำเร็จทำให้เศรษฐกิจเติบโตมาแล้ว ส่วนพรรคก้าวไกล เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดก้าวหน้า และได้บรรจุวาระของธุรกิจเอสเอ็มอีไว้ใน 100 วันแรกที่จะทำด้วย
จึงทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีมีความเชื่อมั่นว่า ประสบการณ์บวกกับความคิดก้าวหน้า จะช่วยทำให้เศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ก็ยังเป็นห่วงเรื่องของอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของการยกมือสนับสนุนการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้สถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ชัดเจนเสียที ทั้งนี้ตนมองว่าถ้าเรายังยื้อเวลาไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งจะไม่ส่งผลดีต่อประเทศชาติ
ซึ่งตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ามติของประชาชนส่วนใหญ่ อยากให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นการที่ทุกฝ่ายจะทำอะไร ก็ขอให้เคารพเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนในประเทศที่เลือกตั้งมาแล้วด้วย