เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา หายงอนแฟนหนุ่ม เคน ภูภูมิ แล้ว แจงเหตุทำไมยังซ่อนรูปคู่ในไอจี รับจับเข่าคุยเคลียร์ใจกันแล้ว ยังไร้แพลนแต่ง ขอสร้างธุรกิจมั่นคงก่อน

วันที่ 22 พ.ย. 2564 ที่อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นางเอกสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เปิดใจหลังมาร่วมงานบวงสรวงละคร วิมานทราย ถึงฟีดแบ็กการขายต้นไม้มีรายรับที่ดี พร้อมเผยถึงชีวิตคู่รักที่เคยผิดใจกัน หลังหวานใจหนุ่มเอียงใจมอบความรักให้กับต้นไม้ ถึงขั้นเจ้าตัวซ่อนรูปในไอจี จนต้องจับเข่าเคลียร์ใจกับ เคน ภูภูมิ

ธุรกิจต้นไม้เป็นยังไงบ้าง? “ธุรกิจต้นไม้ก็เรื่อยๆค่ะ เริ่มเพาะได้เองแล้วขายเองด้วย กระแสตอบรับดีค่ะ (รวยหรือยัง?) หวังอยากให้เป็นอย่างนั้นนะคะ แต่ว่าก็ยังอยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มต้นค่ะ เพราะลงทุนไปเยอะ ส่วนมากจะเป็นการซื้อไม้เข้ามา ดูเรื่องการดูแลและสถานที่ที่เลี้ยงเขาค่ะ มันก็จะหนักตรงนี้ค่ะ”

ตอนนี้กระแสมันไม่ได้เหมือนช่วงที่คนเห่อกันแรกๆ มันทำให้ยอดลดลง? “พอเริ่มได้เข้ามาอยู่ในวงการต้นไม้จริงๆ เราก็เริ่มรู้ว่ามันจะมีวงจรของมัน ไม้ถูก แล้วช่วงหน้าที่ราคาจะแพงขึ้น มันก็จะมีวัฏจักรในวงจรของมัน”

ตอนนี้ใครเป็นคนดูแล? “ส่วนใหญ่พี่เคนจะเป็นคนดูแลถ้าเรื่องต้นไม้”

มีการตลาดยังไง? “ถ้าว่างก็จะเป็นแอดมินตอบ บางทีก็จะมีไลฟ์ขายในเฟซบุ๊กด้วย ก็จะช่วยปักหมุด ตอบอินบ็อกซ์ค่ะ”

พี่เคนเขาไม่เล่นละครแล้วรึเปล่า? “ไม่ค่ะ เล่นอยู่ ตอนนี้ก็ถ่ายอยู่ แต่ด้วยความที่เขาเจอสิ่งที่ตัวเองรักแล้วค่ะ เขาเลยทุ่มเวลาส่วนใหญ่ให้กับต้นไม้ด้วย ยังทำงานอยู่ ถ่ายละครอยู่ค่ะ”

ขายต้นไม้ได้เยอะมาก เห็นมีนำเงินไปทำบุญ รายได้ที่ได้มันพอๆ กับงานในวงการ? “ด้วยความที่ต้นไม้ที่พี่เคนเล่นอาจจะเป็นต้นไม้ที่หายาก ราคามันค่อนข้างสูง รายได้ที่ได้เข้ามามันถือว่าโอเคเลยค่ะ ถ้าทำเป็นงานหลักได้มันก็ดีค่ะ แล้วก็เป็นสิ่งที่พี่เคนรัก ชอบด้วย มันก็ยิ่งมีความสุขค่ะ”

เขามองที่จะทำจริงจังไปเลยไหม? “มองค่ะ พี่เคนเป้าหมายของเขาคือชัดเจนแล้วว่าเขารักต้นไม้ แล้วเขาก็อยากที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับต้นไม้ เพราะว่าตอนนี้พี่เคนทำเรื่องดินด้วย ผลิตดินเอง แล้วมีพวกปุ๋ย เกี่ยวกับด้านการเกษตรเลย ล่าสุดก็เพิ่งจัดสัมมนาการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อไป ได้กระแสตอบรับที่ดีมากๆ ค่ะ”

ตอนนี้งานในวงการน้อยลง ดร็อปลง? “จริงๆ พี่เคนเขาก็อยากทำตรงนี้เป็นหลักด้วย แต่ว่าละครก็ยังทิ้งไม่ได้ เขาก็ยังชอบการแสดง ก็อาจจะถัวเฉลี่ยกัน กลางๆ รับทำต้นไม้บ้าง งานเขาก็รับบ้างค่ะ ไม่ทิ้ง”

เขาเสียดายเวลาในการทำงานวงการบันเทิงไหม? “ไม่แน่ใจค่ะ แต่ว่าพี่เคนเหมือนเขาอายุค่อนข้างเยอะแล้ว จะทำงานในวงการบันเทิงก็อาจจะทำได้อีกสักพักนึง มันก็ต้องหาอะไรรองรับ แล้วยิ่งเขาเจอสิ่งที่เขาชอบค่ะ อย่างที่บอกพอเจอสิ่งที่เขารักแล้ว ใจมันพุ่งไปทางนั้น”

จะไปถึงตลาดต่างประเทศไหม? “ตอนนี้มีบ้างค่ะ แต่ด้วยความที่ประเทศยังไม่เปิด เพราะฉะนั้นการส่งออกมันก็อาจจะยากนิดนึง”

ร้านกาแฟยังทำอยู่? “ทำอยู่ค่ะ ทำร้านกาแฟ ร้านอาหารด้วย เปิดปกติแล้วค่ะ”

รายได้มันกลับมาเท่าเดิม? “รายได้เหรอคะ ก็เรื่อยๆ ค่ะ ถ้าร้านกาแฟก็อยู่ด้วยตัวเองได้เรื่อยๆ เพราะว่าเปิดมาตั้งนานแล้ว แต่ร้านอาหารเราก็ยังพยุงอยู่ ต้องสู้ค่ะ ร้านอาหารยังไม่กลับมาเลยเพราะว่าเปิดปุ๊บก็ปิดปั๊บเพราะโควิดมาพอดีค่ะ ตอนนี้ปีนึงแล้ว”

ในรายการเหมือนให้สัมภาษณ์เรื่องแต่งงาน มีแพลนอนาคตไหม? “เหมือนตอนนี้ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่าง มันยังไม่พร้อม ธุรกิจที่เราทำอยู่ เราอยากให้มันประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวมันก็คงมาเองค่ะ”

คู่เรามีเป้าหมายยังไง ถึงจะคุยเรื่องแต่งงานกัน? “ไม่มีเลยนะคะ เรื่อยๆ เลยค่ะ ปล่อยให้ไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน (ตามน้ำไปก่อน) ใช่ค่ะ อยากให้ทุกอย่างมันคงที่โดยที่เราไม่ต้องไปกังวลค่ะ”

ระหว่างคลั่งต้นไม้กับคลั่งเอสเธอร์ ตอนนี้คลั่งอะไรมากกว่ากัน? “ตอนนี้น่าจะคลั่งไม้นะคะ (หัวเราะ) (ไม่น้อยใจต้นไม้) ไม่น้อยใจค่ะ เข้าใจ”

แต่ก่อนหน้านี้เราก็มีแอบน้อยใจ? “ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็คือเข้าใจแล้ว คือด้วยความตอนนั้นเป็นช่วงที่เขากำลังโฟกัสกับต้นไม้มาก แล้วด้วยความที่เขาโฟกัสเรื่องต้นไม้มากๆ มันก็จะมีความฉุนเฉียว ใครขัดอะไรหน่อยนึงก็มีความฉุนเฉียว เราเลยมีความรู้สึกว่าทำไมเขาเหมือนเปลี่ยนไป นี่แค่ความรู้สึก แต่ก็มีโอกาสได้นั่งคุย จับเข่าคุยกัน แล้วก็นั่งเคลียร์ก็เข้าใจค่ะ”

มันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเลย? “ใช่ค่ะ ปัญหาใหญ่ที่สุดในความสัมพันธ์ที่เคยเจอมา เพราะเราไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้ค่ะ”

เพราะเขาคิดว่าต้นไม้ทำให้เขาอารมณ์เย็นไง? “ร้อนกว่าเดิม (หัวเราะ) แรกๆ ก็เย็นอยู่ค่ะ สักพักพอเริ่มจริงจัง โอ้โหร้อนหนักเลยค่ะ ตอนนี้ก็เจอกันครึ่งทาง”

นั่งคุยเคลียร์ใจกันยังไง เขาง้อ? “เขาไม่ง้อเลยค่ะ ส่วนมากก็จับเข่าคุยกัน แต่เขาก็บอกว่าเขารู้ตัว เขาขอโทษนะ ประมาณนี้ค่ะ”

ได้ข่าวซ่อนรูปในไอจี? “ซ่อนนานค่ะ ยังไม่เอากลับมาเลยค่ะ กลัวพี่ว่า ถ้าจะเอากลับมาก็ไม่ต้องซ่อนหรอก ก็เลยยังใจแข็งอยู่ ยังไม่เอากลับมาค่ะ ใจแข็งอยู่ค่ะ (ทุกอย่างเหมือนเดิม) เหมือนเดิมค่ะ”