เอกชน ค้านขึ้น ‘ภาษีความหวาน’ เวลานี้ ชี้เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ วอนอยากให้มีการเลื่อนบังคับใช้ภาษีความหวานไปอีก 1 ปีก่อน
27 มี.ค. 2566 – นายเจริญ แก้วสุกใส ปธ.กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สอท.และผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม จะหารือกับกรมสรรพสามิตเพื่ออธิบายถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่ และยังมีปัจจัยภายนอกกดดันกำลังซื้อ-ส่งออก การปรับอะไรก็ตามที่มีผลต่อต้นทุนย่อมเป็นภาระธุรกิจ ในระยะยาวอาจกระทบถึงผู้บริโภคโดยปรับราคาสินค้า จึงอยากให้มีการเลื่อนบังคับใช้ภาษีความหวานไปอีก 1 ปี
ธุรกิจพร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐ แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เอื้อ อีกทั้งคนไทยรวมถึงทั่วโลกลดการกินหวานและปรับมาบริโภคสารแทนความหวานกันมากขึ้น คนผลิตก็ต้องปรับสูตรตาม วันนี้การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีความหวานแบบเดิมประมาณ 10%
ขณะที่สินค้าไทยรสชาติเดิมยังส่งออก และมีความต้องการเกิน 50% อาจได้รับผลกระทบด้วย เพราะความหวานก็มีผลต่อความเจริญอาหาร แม้ในญี่ปุ่น อาหารผู้สูงวัยยังมีความหวาน เพียงแต่คุมในอัตราที่เหมาะสมกับวัย
สำหรับในประเทศ อัตราเก็บค่อนข้างสูง ที่ต้องจับตาคือเมื่อสต๊อกเดิมที่ปกติมี 3-6 เดือน หมดลงแล้ว ต้นทุนจากภาษีที่ต้องแบกรับ อาจผลักไปผู้ซื้อได้ ส่วนอัตราจะไม่เท่ากัน ดังนั้นเอกชนจึงไม่เห็นด้วยจะเก็บภาษีไม่ว่าจะความหวานหรือความเค็ม
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิต จะเริ่มปรับขึ้นภาษีความหวานตามปริมาณน้ำตาล เข้าสู่ระยะที่สาม ในวันที่ 1 เม.ย. นี้