หลายประเทศทั่วโลก นำเห็นมาทำเป็นอาหารและยารักษาโรคกันตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว จนปัจจุบันเห็ดเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงนับพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในแต่ละปีมีการเพาะเห็ดกันเป็นจำนวนถึง 900 ปอนด์ ประเทศที่มีการเพาะเห็ดกันมากที่สุดก็คือจีน
ไม่ว่าคุณจะรับประทานเห็ดแบบไหน รับประทานสด ๆ หรือนำมาปรุงอาหาร เห็ดก็ยังคงเป็นอาหารที่มีคุณค่า และให้ประโยชน์ต่อร่างกาย และ 6 ประโยชน์ต่อไปนี้ นับว่าเป็นคุณค่าที่แทบไม่น่าเชื่อของเห็ด
- เห็ดมีส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยต่อต้านโรคมะเร็ง ในปี 2010 มีการเผยแพร่งานวิจัยในวารสาร Experimental Biology and Medicine ว่า ได้มีการนำเห็ด 5 ชนิดมาทดสอบ ได้แก่ เห็ดไมตาเกะ, เห็ดคริมมินิ, เห็ดกระดุมสีน้ำตาล, เห็ดนางรม และ เห็ดกระดุมสีขาว พบว่า พวกมันมีสรรพคุณในการต่อต้านการเติบโตของเซลมะเร็งเต้านม นอกจากนั้นยังพบว่า เห็ดชิตาเกะของญี่ปุ่น มี Lentinan ซึ่งเป็นน้ำตาลโมกุลประเภทหนึ่ง ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสรอดชิวิตให้กับผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดในระหว่างที่เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด แม้ว่า Lentinan จะไม่ได้ฆ่าเซลมะเร็งโดยตรง แต่มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งช่วงชะลอการเติบโตของเนื้อร้าย รวมทั้งยังฆ่าไวรัสและจุลินทรีย์ ได้โดยตรงในการทดสอบในห้องปฏิบัติการ
- เห็ดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เราทราบกันแล้วว่า Lentinan สามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังพบว่า Beta-glucan ซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบในเซลของรา ก็ช่วยการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้เช่นกัน Lentinan มาจากเห็ดหอม แต่ Beta-glucan พบได้ในเห็ดทั่วไปหลายชนิด
- เห็ดช่วยลดไขมันในเลือด โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว เห็ดนั้นไม่มีคลอเรสเตอร์รอล และยังมีไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอลเรสเตอร์รอลด้วย ในปี 2012 ได้มีการศึกษาและรายงานผลในวารสารนานาชาติ Medicinal Mushrooms ว่า เห็ด Oyster สีชมพูลดปริมาณไขมันในเลือด และไขมันเลว LDL ในหนูทดลองได้ที่มีระดับไขมันในเลือดสูงได้ ส่วนเห็ดหอม มีส่วนประกอบที่ช่วยการทำงานของตับ ขับคอลเรสเตอร์รอลจากเส้นเลือด ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดและรักษาระดับความดันโลหิตให้เห็นปกติ รวมทั้งกระตุ้นการระบบการไหลเวียนให้ทำงานดีขึ้น
- ในเห็ดมีวิตามิน B และ D สูง เห็นเป็นอาหารเพียงไม่กี่ชนิดที่มีวิตามิน D ซึ่งโดยปกติแล้ว ผิวหนังของเราจะสร้างวิตามิน D เมื่อถูกแสงแดด มีรายงานว่าเห็นกระดุม และคริมมินิ จะมีปริมาณวิตามิน D สูง และเห็ดคริมมินิ ก็มีวิตามินอื่นสูงด้วย รวมทั้งวิตามิน B 12 ซึ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่รับประทานมังสะวิรัติ เพราะวิตามินดังกล่าวมีอยู่ในเนื้อสัตว์ วิตามิน B นับว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นตัวช่วยนำอาหารเข้าไปให้พลังงานกับร่างกาย ส่วนวิตามิน D ก็ช่วยให้ร่างกายของเราดูดซึมแคลเซี่ยม ทำให้กระดูกแข็งแรง
- เห็ด ช่วยต่อต้านการอักเสบ เห็ดนั้นช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบของร่างกาย เห็ดหลินจือ เป็นเห็ดที่คนเอเชียนำมาใช้ทำยากันมานานนับปันปีแล้ว เพราะมันช่วยลดการอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเพิ่มเติมพบว่า มันมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น ต่อสู้กับเชื้อโรค ลดการอักเสบ ช่วยลดอาการภูมิแพ้ ชะลอการเติบโตของเนื้อร้าย
- เห็ดมีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ว มีการศึกษาและติดตามผลของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins พบว่า ผู้ป่วยมะเร็ง 80 คน มีความทุกข์ทรมานกับความวิตกกังวล กระวนกระวาย ความเครียด ความกลัวตาย พวกเขาได้รับยาซึ่งมีส่วนผสมของเห็ด 200 ชนิด และพบว่า ร้อยละ 80 ของพวกเขา มีความรู้สึกดีขึ้น คิดบวกมากขึ้น มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างและผู้ให้การรักษาดีขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้เราได้รับประโยชน์ที่มากมายจากเห็ด ก็อย่ารีรอที่จะรับประทานกัน เราสามารถนำเห็ดมาปรุงอาหารได้หลายชนิด ในการรับประทานเห็ดนั้น มีคำแนะนำจาก WebMD ด้วยว่า ผนังเซลของเห็ดนั้นแข็ง ทำให้ย่อยยากและการจะได้รับคุณค่าอาหารจากตัวของมันนั้นก็ยาก นอกจากนั้นส่วนประกอบทางเคมีของเห็ด ก็ยังรบกวนระบบการย่อยและการดูดซึม ในการที่จะทำลายผนังเซลของเห็นให้แตกตัวลง และทำให้องค์ประกอบทางเคมีและส่วนที่เป็นพิษสลายไป เราควรนำไปปรุงให้สุกก่อนการรับประทาน