เหยื่อนับ100 ร้อง 'บริษัททัวร์ดัง' จ่ายเงินแล้วไม่ได้ไป แถมยังเปิดกิจการตามปกติ

Home » เหยื่อนับ100 ร้อง 'บริษัททัวร์ดัง' จ่ายเงินแล้วไม่ได้ไป แถมยังเปิดกิจการตามปกติ


เหยื่อนับ100 ร้อง 'บริษัททัวร์ดัง' จ่ายเงินแล้วไม่ได้ไป แถมยังเปิดกิจการตามปกติ

กลุ่มผู้เสียหายร้องปคบ. ถูกบริษัททัวร์เมืองปราจีนบุรี หลอกขายทัวร์ทิพย์ จ่ายเงินแล้ว แต่ไม่ได้เดินทาง แจ้งความตำรวจแล้วแต่ยังเปิดกิจการตามปกติ

วันที่ 29 มี.ค. 66 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พากลุ่มผู้เสียหาย 7 ราย เข้าพบ ร.ต.อ.หรรษา ศิริสารคร รอง.สว.(สอบสวน) กก.1.บก.ปคบ. เพื่อให้ช่วยติดตามคดีหลังถูกบริษัททัวร์ชื่อดังแห่งนึ่งที่ จ.ปราจีนบุรี หลอกลวงขายตั๋วทัวร์ต่างประเทศ

แต่เมื่อถึงกำหนดวันเดินทางกลับไม่เป็นไปตามที่กล่าวอ้าง มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเกือบ 100 ราย ความเสียหายนับ 10 ล้านบาท จึงอยากให้ทางตำรวจบก.ปคบ.ช่วยเหลือด้านคดีด้วย เพราะบริษัททัวร์ดังกล่าวก็ยังเปิดดำเนินกิจการตามปกติ

น.ส.จารุจันทร์ อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนกับเพื่อนอีก 6 คนไปซื้อทัวร์เพื่อเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น โตเกียว-ฟูจิคาว่า เพื่อเล่นหิมะและชมซากุระบาน กำหนดเดินทางวันที่ 15-19 มี.ค. 66 ราคาหัวละ 35,888 บาท จ่ายเงินมัดจำให้กับบริษัทไปแล้วจำนวน 84,000 บาท ต้องจ่ายอีก 95,328 รวมทั้งหมด 179,328 บาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีเจ้าของบริษัท

แต่พอถึงวันเดินทางกลับไม่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ เมื่อติดต่อกับบริษัททัวร์ ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อกับใครได้ จึงอยากให้บริษัทช่วยออกมารับผิดชอบด้วย เพราะพวกตนเองได้แจ้งความไว้แล้ว ก็ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น

ส่วน น.ส.สายเทียน อายุ 48 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนอีก 18 คน จองคณะทัวร์ไปหลวงพระบาง สปป.ลาว ราคาคนละ 10,000 บาท และโอนเงินไปแล้ว 123,000 บาท กำหนดออกเดินทางวันที่ 5-7 เม.ย. เมื่อเช็กที่พักและสายการบินแล้ว ปรากฏว่าไม่มีการจองแต่อย่างใด จึงเชื่อแน่ว่าถูกหลอกแน่นอน อีกทั้งในเพจเฟซบุ๊กของบริษัททัวร์ดังกล่าว ก็ยังเปิดให้จองท่องเที่ยวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เพราะไม่อยากให้ทางบริษัทแห่งนี้ไปเที่ยวหลอกลวงคนอื่นอีก

ด้าน ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งดำเนินคดีกับบริษัทดังกล่าวใน 3 ข้อหา คือฉ้อโกงประชาชน ,นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เรื่องขายทัวร์โดยไม่มีใบอนุญาต

เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนรายงานให้ผู้บังคังบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ