ฟุตซอลทีมชาติไทย เอาชนะ เวียดนาม 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ผงาดแชมป์ ฟุตซอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม โดยเป็นแชมป์สมัยที่ 5 และเป็นเพียงชาติเดียว ที่คว้าแชมป์ฟุตซอลซีเกมส์

หลังจบการแข่งขัน “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล ฝ่ายฟุตซอล เผยว่า ถือเป็นสองเหรียญทองของกีฬาฟุตซอล ที่เรายังครอบครองได้อยู่ เป็นสมัยที่ 5 แต่ก็ไม่ง่ายนัก เพราะการมาแข่งครั้งนี้ เป็นสภาวะไม่ง่ายเลย ชาติในอาเซียน ปรับปรุงพัฒนาขึ้นมามาก อีกทั้งเรายังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายด้วย แต่ก็ทำให้นักฟุตซอลทั้งทีมหญิง และทีมชายของเราได้ผ่านสถานการณ์คับขัน และกดดันมาตลอด ซึ่งมันจะมีประโยชน์มากมายกับทีมเรา

“จริงๆแล้วเกมนี้ เราอาจจะบอกได้ว่าเป็นมากกว่าการแข่งขันในอาเซียนด้วยซ้ำ เพราะ ไทย กับ เวียดนาม เป็นสองชาติที่ ไปเล่นในเวิลด์คัพ มาแล้ว เพราะฉะนั้นเกมนี้ก็ไม่ต่างจากการเล่นใน เวิลด์คัพ เลยทีเดียว และก็แน่นอนการที่เรามาเล่นในบ้านเขา ผ่านสถานการณ์คับขัน กดดัน นอกเหนือจากเแชมป์ที่เรารักษาได้ มันจะเป็นคุณค่า เป็นประโยชน์ต่อนักกีฬาฟุตซอลไทยทุกคนจริงๆ ที่ได้ผ่านสมรภูมิในลักษณะนี้ วันนี้ทุกคนได้แสดงให้เห็นว่าเรามีบุคคลากร มีวิธีการเล่น มีระบบทีมที่ยังยืนเป็นหนึ่งในอาเซียนได้ สถานีต่อไปก็คงเป็นชิงแชมป์เอเชีย ที่เราจะต้องกลับไปเข้มข้นมากกว่าเดิม

ส่วนคำถามที่ว่ากังวลหรือไม่ที่ ไทย ไม่สามารถเอาชนะอินโดนีเซียมา 3 เกมติดแล้ว ทั้งในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2 นัด และซีเกมส์ ครั้งนี้ อีก 1 นัด

บิ๊กป๋อม กล่าวว่า เราไม่ค่อยกังวลใดๆกับอินโดนีเซีย เพราะรู้ว่าในอาเซียน ขณะนี้ทุกทีมก็อาจจะยกระดับขึ้นมา เราเองที่ผ่านมาได้ใช้ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียน หรือซีเกมส์ ในการให้โอกาสเด็กเรา ตอนนี้เรารู้แล้วว่านักกีฬาเราคนไหนไปต่อได้ ในเอเชีย แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าในการแข่งขันที่ผ่านมาเราสอบผ่าน

ส่วน คาร์ลอส เซซาร์ เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นทุกคน เราเล่นเกมนี้เสมือนกับเป็นนัดชิงชนะเลิศ ดังนั้นผู้เล่นทุกคนก็จะได้รับประสบการณ์ในเกมนี้ จากนี้ไปก็จะเป็นการเตรียมตัวสู่การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียต่อไป ทัวร์นาเมนต์นี้ถือว่าเป็นการเตรียมทีมที่ดีเลยทีเดียว
เซซาร์ ยังกล่าวด้วยว่า ต้องบอกว่าทุกวันนี้ฟุตซอลในระดับอาเซียนนั้นเท่ากันหมดแล้ว ทุกทีมสามารถชนะ-เสมอหรือแพ้ได้ทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจคือการยกไทยเป็นเหมือนทีมที่ต้องกลัวในอาเซียน เพราะจากที่ที่ตัวเองมาเช่นยุโรปหรืออเมริกาใต้นั้น ทุกทีมจะมีความคิดว่าสามารถเอาชนะกันได้หมด ไม่มีใครกลัวใครอยู่แล้ว ดังนั้นอยากให้อาเซียนเป็นแบบนั้นเช่นกัน

ด้าน คาร์ลอส เซซาร์ เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่นทุกคน เราเล่นเกมนี้เสมือนกับเป็นนัดชิงชนะเลิศ ดังนั้นผู้เล่นทุกคนก็จะได้รับประสบการณ์ในเกมนี้ จากนี้ไปก็จะเป็นการเตรียมตัวสู่การแข่งขันชิงแชมป์เอเชียต่อไป ทัวร์นาเมนต์นี้ถือว่าเป็นการเตรียมทีมที่ดีเลยทีเดียว

เซซาร์ ยังกล่าวด้วยว่า ต้องบอกว่าทุกวันนี้ฟุตซอลในระดับอาเซียนนั้นเท่ากันหมดแล้ว ทุกทีมสามารถชนะ-เสมอหรือแพ้ได้ทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจคือการยกไทยเป็นเหมือนทีมที่ต้องกลัวในอาเซียน เพราะจากที่ที่ตัวเองมาเช่นยุโรปหรืออเมริกาใต้นั้น ทุกทีมจะมีความคิดว่าสามารถเอาชนะกันได้หมด ไม่มีใครกลัวใครอยู่แล้ว ดังนั้นอยากให้อาเซียนเป็นแบบนั้นเช่นกัน

ส่วน “กัปตันช้าง” กฤษดา วงษ์แก้ว กัปตันทีมโต๊ะเล็กช้างศึกไทย กล่าวว่า เกมนี้ทีมชาติไทยไม่มีทางเลือกต้องชนะเท่านั้นเพื่อเป็นแชมป์ทำให้ต้องเปิดเกมรุกตั้งแต่เริ่มเกม ซึ่งการที่นำได้ 2-0 ทำให้เกมมันเข้าทางทีมไทยและเล่นได้ง่ายขึ้น

กัปตันช้าง กล่าวต่อว่า น้องๆ ในทีมชุดนี้ถือว่ามีความสามารถกันหมด แต่ต้องให้เวลากับทุกคน เรารู้ว่าทุกคนมีศักยภาพที่ดีอยู่แล้ว แค่อยากให้มีเวทีการแข่งขันเพื่อพัฒนาตัวเองในระดับอาเซียน ไประดับเอเชียให้มากกว่านี้

กฤษดา กล่าวปิดท้ายว่า ปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าฟุตซอลในอาเซียนมันย้อนกลับไปสมัยตอนที่ขึ้นมาเล่นใหม่ๆ คือทุกทีมไม่ได้ห่างกันมากอีกแล้ว แต่ละทีมมีการนำเอาโค้ชต่างชาติเข้ามาพัฒนาฟุตซอลในบ้านตัวเองขึ้นมา ทำให้ทุกทีมทันกันหมด

ขณะที่ “เหม็ด” มูฮัมหมัด อุสมานมูซา กองหน้าไทยที่ทำได้ 1 ประตูในนัดสุดท้าย กล่าวว่า ประตูนี้ขอมอบให้กับแฟนฟุตซอลชาวไทยที่คอยให้กำลังใจกันมาโดยตลอด แม้ว่าในทัวร์นาเมนต์นี้ทีมชาติไทยอาจจะเล่นไม่ได้ดีในทุกนัด แต่ก็สามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย ต้องยอมรับว่าตอนนี้อาเซียนไม่ใช่หมูให้เคี้ยวกันได้ง่ายๆ อีกแล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการเตรียมตัวเพื่อแข่งขันชิงแชมป์เอเชียต่อไป