เหมือนตกนรกตั้งแต่อายุ 14 น้าเขยย่ำยี จนซึมเศร้า ไม่มีใครเชื่อ ฟังคำตอบแม่ทำเอาอึ้ง

Home » เหมือนตกนรกตั้งแต่อายุ 14 น้าเขยย่ำยี จนซึมเศร้า ไม่มีใครเชื่อ ฟังคำตอบแม่ทำเอาอึ้ง


เหมือนตกนรกตั้งแต่อายุ 14 น้าเขยย่ำยี จนซึมเศร้า ไม่มีใครเชื่อ ฟังคำตอบแม่ทำเอาอึ้ง

เหมือนตกนรกตั้งแต่อายุ 14 น้าเขยย่ำยี จนซึมเศร้า ไม่มีใครเชื่อ ฟังคำตอบแม่ทำเอาอึ้ง

วันที่ 1 พ.ค.65 ได้มีหญิงาสวรายหนึ่ง เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังเธอถูกน้าเขยข่มขืนตั้งแต่อายุ 14 ปี จนป่วยซึมเศร้า โดยเธอระบุสาเหตุที่เปิดทวิตเตอร์นี้ขึ้นมาเพื่อ ทวงความยุติธรรม เพราะโดนข่มขืนจากน้าเขย แล้วทุกอย่างดูยากไปหมดถ้าไม่เป็นข่าวดัง

โดยเธอได้เล่าว่า โดนน้าเขยข่มขืนตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนนั้นตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาโดยไม่มีใครรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับเรา เพราะกลัวมาก คนที่บ้านคิดว่าเราหนีตามผู้ชาย จนอายุประมาณ 17-19 เรากลับมาที่บ้านนี้อีกครั้งเพราะน้าสาวเราให้กลับมาช่วยเลี้ยงลูกเขาก็ทำอีก

โดยที่เราหลับอยู่ พอเราตื่นขึ้นมา เราผลักเขาออก เขาบอกว่าเขาคิดถึงอย่างนู้นอย่างนี้แล้วก็ทำต่อโดยไม่สนใจเราเลย ชีวิตเราต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง ต้องคอยกลัวว่าเขาจะมาทำอะไรเราอีกมั้ย ซึ่งเขาก็มาทำอะไรแบบนั้นกับเราเรื่อยๆ มาตลอด

จนเราอายุ 24 เขาก็ทำอีก ครั้งนี้เราตัดสินใจออกมาเช่าห้องอยู่เอง แต่น้าสาวก็ให้หลานโทรมาตามกลับบ้าน เราสงสารหลานๆ จึงกลับไปช่วยเขาเลี้ยง จนเราอายุ 26 เราเริ่มไม่ไหว เริ่มปรึกษาจิตแพทย์ และเราเป็นซึมเศร้าตั้งแต่นั้นมา และความอดทนครั้งสุดท้ายคือวันที่ 31 มี.ค.65 เราเครียดมาก ทำให้เราตัดสินใจกินยานอนหลับหลายร้อยเม็ด แต่ก็โชคดีที่ล้างท้องทัน จนวันที่ 3 เม.ย.65 เราก็กินยาเกินขนาดอีก มันเกิดขึ้นโดยที่เราไม่มีสติรู้ตัวเลย

จนวันที่ 25 เม.ย.65 เราตัดสินใจจะจบทุกอย่าง เราระเบิดลงกับที่บ้าน เราโทรคุยกับน้าเขยเขาก็ปฏิเสธ (มีคลิปเสียง) แต่ที่บ้านกลับบอกว่าแน่ใจนะว่าจะแจ้งความ ถ้าหลักฐานไม่มีมากพอเขาฟ้องกลับจะปล่อยให้เราติดคุกเลย เราเลยเริ่มทำร้ายตัวเองมาเรื่อยๆ จนวันที่ 29-30 เม.ย.65 เราทำร้ายตัวเองด้วยการกินยาเกินขนาดและกรีดแขนตัวเอง และทะเลาะกับเขา (มีคลิปเสียง) วันที่ 1 พ.ค.65 เราก็มา รพ.ทำแผล เราหนีออกมาจากบ้านด้วยเงินก้อนนึง

คือเราไม่ไหวแล้ว ไม่งั้นเราจะเป็นบ้าแน่ๆ ทุกคนเข้าข้างเขาแม้กระทั่งแม่เรา แล้วน้าแท้ๆ ก็บล็อกเราทุกช่องทาง หมอนัดเรา 27 เม.ย.65 หมอถามแม่เราว่าทำไมไม่เชื่อลูกว่าโดนข่มขืน แม่เราตอบหมอไปว่าไม่เคยเห็นเขาทำพฤติกรรมแบบนั้น เราอึ้งมาก

พอออกจากรพ.มา เราแจ้งความ 27 เม.ย.65 และทางตำรวจก็ให้ใบมาตรวจร่างกาย เราก็ไลน์ไปหาพวกเขาว่าเข้ามาเคลียร์ ยอมรับความจริงจะถอนแจ้งความให้เพราะสงสารหลานที่จะมีพ่อติดคุก น้าเราแท้ๆ ด่าเราว่ามึงจะอะไรกับเขานักหนาแจ้งความแล้วก็ควรพอแล้ว แม่เราก็บอกว่าจะไปวุ่นวายทำไม แล้วคุยกับเขาปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่แผลที่เรากรีดข้อมือยังเลือดเยิ้มอยู่เลย แล้วน้าเราบอกว่า แค่นี้ไม่ตายหรอก ทุกคนคะ เราถูก “ข่มขืน” นะ จะให้เราอยู่เฉยๆ ได้ไง เราอดทนไม่ไหวแล้ว เรารังเกียจ เราขยะแขยง

เราเลยออกจากบ้านมาด้วยเงินก้อนนึง มาเช่าห้องมัดจำ 6000 บาท แล้วเหลือเงินติดตัวนิดหน่อย วันที่ 1 พ.ค.65 เราพยายามติดต่อไปตามเพจ ตามมูลนิธิต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ตอนนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับ เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ ค่ะ เพราะทุกๆ อย่างมันต้องใช้เงิน ทั้งค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าเอกสาร ฯลฯ อีกมากมาย ถ้าเราจะขอรับบริจาค จากทุกคนคนละเล็กละน้อยเพื่อสู้คดีต่อไปจะได้มั้ยคะ ช่วยเราด้วยเถอะนะคะ ถือว่าเมตตาเราเถอะนะคะ

นอกจากนี้เธอยังได้แนบเอกสารส่งไปตรวจร่างกายที่ ร.พ.บางพลี จากพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ ลงวันที่ 27 เม.ย. ซึ่งก็คือวันที่เข้าไปแจ้งความ

ดูทวีตต้นฉบับได้ที่นี่



แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ