โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คือแฟรนไชส์บาสเกตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในทศวรรษที่ผ่านมาของ NBA ด้วยการเข้าชิง 5 ฤดูกาลติดต่อกัน และคว้าแชมป์ถึง 3 สมัย จากช่วงเวลานั้น

ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นกับวอร์ริเออร์สเพียงแค่ในสนามเท่านั้น แต่รวมถึงเรื่องนอกสนาม เพราะจากการประเมินโดย Forbes สื่อด้านธุรกิจชื่อดัง ทีมบาสเกตบอลจากเบย์แอเรีย คือทีมที่มีมูลค่าทีมเพิ่มขึ้นสูงสุดในทศวรรษที่ผ่านมา

จากมูลค่า 346 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2009 ได้เติบโตขึ้นมากกว่า 10 เท่าใน 10 ปี และปัจจุบัน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คือทีมที่มีมูลค่า มากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคช่วย แต่การวางแผนที่ยอดเยี่ยม ช่วยเปลี่ยนแฟรนไชส์บาสธรรมดาๆ กลายเป็นทีมที่ทรงอำนาจทั้งในและนอกสนาม

ความสำเร็จต้องมาก่อน

โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คงไม่มีทางมาถึงจุดนี้ หากพวกเขาเป็นทีมกีฬาไก่กาไร้ความสำเร็จ แต่การคว้าแชมป์อย่างต่อเนื่องตลอดทศวรรษที่ผ่านมา ช่วยให้ทีมบาสจากเบย์แอเรีย ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากในอดีตเป็นเท่าทวีคูณ

ย้อนไปก่อนจะเข้าสู่ยุครุ่งเรือง โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เป็นเพียงทีมไม้ประดับของ NBA และถูกบดบังความยิ่งใหญ่โดย ลอส แอนเจลิส เลเกอร์ส ทีมขาใหญ่ร่วมรัฐแคลิฟอร์เนีย 

อย่างไรก็ตาม ด้วยการเป็นทีมบาสเกตบอลประจำเบย์แอเรีย หรือพื้นที่ตอนเหนือของแคลิฟอร์เนีย ครอบคลุมเมืองใหญ่ทั้ง ซาน ฟรานซิสโก, โอคแลนด์ และ ซาน โฮเซ 

หมายความว่า วอร์ริเออร์สมีตลาดใหญ่ที่รองรับทีมอยู่ ขอเพียงแค่ทำผลงานให้ดี แฟนจำนวนมากพร้อมเข้ามาสนับสนุนทีม และมูลค่าของแฟรนไชส์จะเติบโตแบบก้าวกระโดดในทันที

โจ ลาค็อบ และ ปีเตอร์ กูเบอร์ สองนักธุรกิจที่มีประสบการณ์กับการบริหารทีมกีฬา เห็นความจริงที่ชัดเจนในเรื่องนี้ จึงร่วมลงขันซื้อ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส จาก คริส โคแฮน เจ้าของคนเก่า เป็นจำนวนเงิน 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2010 

การลงทุนครั้งนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทีมสะพานทองในเวลานั้น ยังมีมูลค่าทางการตลาดไม่ถึง 450 ล้าน อันเป็นจำนวนเงินที่ ลาค็อบ และ กูเบอร์ได้จ่ายไป หมายความถึงทั้งสองคนต้องมั่นใจอย่างมากว่า วอร์ริเออร์ส คือทีมที่มีอนาคต และสามารถประสบความสำเร็จได้ ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีหลังจากนี้

โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ในตอนนั้น มีพอยต์การ์ดดาวรุ่งที่ใครๆก็จับตามอง นั่นคือ “สเตฟเฟน เคอร์รี” ซี่งใน NBA การได้ผู้เล่นชั้นเลิศ คือโอกาสสำคัญที่จะประสบความสำเร็จในลีก และเจ้าของทีมทั้งสองรายก็เห็นแสงสว่างที่ชัดเจนว่า พวกเขาต้องสร้างทีมไปพร้อมกับการเติบโตของมือปืนสามแต้มรายนี้

สิ่งแรกที่เกิดความเปลี่ยนแปลงคือการผ่าตัด DNA ของทีม โจ ลาค็อบ เจ้าของคนใหม่ ประกาศกร้าวชัดเจนว่า หลังจากนี้ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส จะมีแต่คำว่าชนะเท่านั้น ใครในองค์กรนี้ที่เข้ามาทำงานด้วยเหตุผลอื่น เขาพร้อมจะเฉดหัวทิ้งทันที

เมื่อผู้นำฮึกเหิม มุ่งหน้าล่าชัยชนะ สิ่งดีๆจึงเริ่มวิ่งเข้าหาทีมไม่หยุด ไม่ว่าจะเป็นการดราฟต์ผู้เล่นขั้นเทพเข้ามาสู่ทีม ทั้ง เคลย์ ธอมป์สัน หรือ เดรย์มอนด์ กรีน นอกจากนี้ ยังได้ผู้เล่นฝีมือดีเข้าร่วมทัพ เช่น แอนดรูว์ โบกัต และ อังเดร อิกัวดาลา เข้ามาสู่ทีม 

โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ตั้งใจสร้างทีมอย่างจริงจังโดยไม่มีการเร่งรีบ ไม่ยอมเอาผู้เล่นที่มีอนาคตไกล ทั้ง เคอร์รี, ธอมป์สัน หรือ กรีน ไปแลกเอาซูเปอร์สตาร์ดังเพื่อมาคว้าแชมป์ในเวลาอันสั้น แต่ค่อยๆสร้างทีม เสมือนการประกอบจิ๊กซอว์ ทีละชิ้นๆ เพื่อรอวันที่จะรวมร่างเป็นภาพที่สวยงามที่สุด นั่นคือความสำเร็จระยะยาวของทีม

จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่เปิดยุคสมัยของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คือ สตีฟ เคอร์ อดีตผู้เล่นยุครุ่งเรืองของ ชิคาโก บูลส์ ที่เข้ามารับงานเฮดโค้ชของทีมในปี 2014

หลังจากนั้นคือประวัติศาสตร์ สตีฟ เคอร์ พาทีมที่เคยถูกลืมใน NBA กลับมาคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี หลังจากนั้นพวกเขาเดินหน้าล่าความสำเร็จแบบไม่มีที่สิ้นสุด 

ไม่ว่าจะเป็นการได้เข้าชิงชนะเลิศของ NBA เป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน (2015-2019) ซึ่งนั้นหมายความว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คว้าแชมป์ของสายตะวันตก ได้ถึง 5 ครั้งติดกัน และใน 5 ครั้งที่ได้เข้าชิง พวกเขาคว้าแชมป์ได้ถึง 3 สมัย

โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คือทีมบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ต่างอะไรกับที่เคยเกิดขึ้นกับ บอสตัน เซลติกส์, ลอส แอนเจลิส เลเกอร์ส หรือ ชิคาโก บูลส์ ในอดีต 

พูดง่ายๆคือ วอร์ริเออร์สได้ยกระดับจากทีมชนชั้นล่างของ NBA ขึ้นมาเป็นทีมระดับชั้นนำของลีกอย่างเต็มตัว และหลังจากนี้ หากพูดถึง NBA ชื่อของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส จะต้องถูกนึกถึงเป็นทีมแรกๆของลีก

ต่อยอดจากความสำเร็จ

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นสร้างเครดิตมหาศาลให้กับวอร์ริเออร์ส จากทีมที่ไร้แฟน กลายเป็นทีมที่มีแฟนอยู่ทั่วโลก มีผู้คนมากมายคอยติดตามผลการแข่งขันของทีม เพียงเท่านี้ ทีมดังจากเบย์แอเรียสามารถเพิ่มมูลค่าทีมได้อย่างรวดเร็ว 

หลังจากคว้าแชมป์สมัยแรกในศตวรรษที่ 21 เมื่อปี 2015 มูลค่าของวอร์ริเออร์ส เพิ่มจากในปีก่อนหน้าเกือบ 2 เท่า นั่นคือจาก 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สู่ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ความสำเร็จช่วยยกระดับมูลค่าของทีมได้มากก็จริง แต่ทุกคนที่รักเกมกีฬารู้ดีว่า ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในอเมริกันเกมส์ ที่มีกลไกมากมาย พร้อมทำให้ทีมที่ประสบความสำเร็จ กลายเป็นทีมดาดๆในชั่วพริบตา

ดังนั้น วอร์ริเออร์สจึงต้องคิดหาทางต่อยอดมูลค่าทางธุรกิจให้ได้ ซึ่งไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่า การหาบริษัททุนยักษ์ใหญ่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนแฟรนไชส์

สามารถพูดได้ว่า ในทศวรรษที่ผ่านมา ไม่มีทีมกีฬาไหนที่จะได้เปรียบกับการหาสปอนเซอร์หน้าใหม่เข้ามาสนับสนุนทีมได้ดีกว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เพราะด้วยผลงานที่ร้อนแรง แถมมีไอคอนชื่อดังอยู่ในทีม ทั้ง สเตฟเฟน เคอร์รี, เคลย์ ธอมป์สัน และ เควิน ดูแรนท์ (ในอดีต) บวกกับอิทธิพลของกีฬาบาสเกตบอลที่เติบโตต่อเนื่องนอกสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะประเทศจีน ยิ่งทำให้วอร์ริเออร์สมีแต้มต่อที่จะดูดกลุ่มทุนจากทั่วโลกให้มาเป็นพันธมิตรด้านธุรกิจกับทีม

บริษัทนอกประเทศหลายเจ้าตัดสินใจหันมาเป็นสปอนเซอร์หลักให้กับ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ไม่ว่าจะเป็น Rakuten จากญี่ปุ่น, Accenture จากไอร์แลนด์

นอกจากนี้ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในเบย์แอเรีย นั่นหมายความว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส มีคอนเนคชั่นด้านภูมิศาสตร์ ร่วมกับบริษัทไอทีชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็น Google, Hewlett Packard Enterprise หรือ HP, Adobe ซึ่งบริษัทเหล่านี้ ปัจจุบันล้วนเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีมสะพานทอง อีกทั้งความโด่งดังของทีมยังช่วยดึงให้กลุ่มทุนอีกหลายเจ้าในสหรัฐฯหันมาเป็นผู้สนับสนุนให้กับวอร์ริเออร์ส 

ในปัจจุบัน ทีมดังจากเบย์แอเรีย มีมูลค่าด้านการตลาดสูงถึง 1,897 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเปิดเผยของ Forbes ซึ่งเฉพาะแค่มูลค่าด้านการตลาดในปัจจุบันของวอร์ริเออร์สยังสูงกว่ามูลค่ารวมของแฟรนไชส์ หลังจากได้แชมป์เมื่อปี 2015 เสียด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ การมีสปอนเซอร์เป็นบริษัทระดับโลก ทั้ง Google, Pepsi และอีกมากมาย ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ของวอร์ริเออร์สดูแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น 

จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ หากปัจจุบัน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คือทีมกีฬาที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และเติบโตขึ้นถึง 23 เปอร์เซนต์ในปีที่ผ่านมา ทั้งที่ผลงานของทีมไม่ค่อยสู้ดีนัก กับการพลาดเข้าสู่รอบเพลย์ออฟเป็นครั้งแรก ในรอบ 7 ฤดูกาล

สนาม.. ปัจจัยสำคัญ

อีกหนึ่งส่วนที่ทำให้มูลค่าของ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล คือสนามใหม่ของทีมอย่าง เชส เซนเตอร์ ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน ปี 2019 และมี เจพีมอร์แกน เชส บริษัทการเงินระดับโลกเป็นสปอนเซอร์ชื่อสนาม

เชส เซนเตอร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสนามบาสเกตบอลที่ทันสมัยและครบวงจรมากที่สุดแห่งหนึ่งของ NBA นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารสุดหรูที่หลากหลากหลาย ทั้ง อาหารจีน, อาหารญี่ปุ่น ระดับ 5 ดาวอยู่ภายในสนาม รวมถึงมีความพร้อมที่จะจัดคอนเสิร์ตและจุผู้ชมได้ถึง 19,000 คน

Forbes สื่อด้านการเงินชื่อดัง ได้ตีมูลค่าของสนามนี้สูงถึง 1,406 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามจำนวนเงินที่ใช้สร้างสนามแห่งนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เชส เซนเตอร์ ยังมีความสมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซนต์ และพร้อมจะเป็นบ้านของทีมวอร์ริเออร์สไปอีกหลายสิบปี

การมีสนามใหม่ส่งผลดีอย่างมากแก่ทีมสะพานทอง เพราะนอกจากจะเป็นทรัพย์สินรับประกันสถานะการเงินให้กับทีม ยังช่วยให้ทีมหารายได้ผ่านการจัดอีเวนต์ร่วม 200 วันในหนึ่งปี 

นอกจากนี้ นับตั้งแต่เปิด เชส เซนเตอร์ รายได้จากสปอนเซอร์ของทีมเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 54 เปอร์เซนต์ ซึ่งปัจจุบัน วอร์ริเออร์สคือทีมที่ได้รับเงินสนับสนุนผ่านสนามแข่งขันมากที่สุดใน NBA

เชส เซนเตอร์ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ก้าวขึ้นมาเป็นทีมบาสเกตบอลที่มีมูลค่าเป็นอันดับ 2 ของโลก แซงหน้า ลอง แอนเจลิส เลเกอร์ส เป็นที่เรียบร้อย และตามหลัง นิวยอร์ก นิกส์ เพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น

จากปี 2009 ที่เคยมีมูลค่าทางการตลาดเพียง 346 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบัน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส มีมูลค่าสูงถึง 4,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเติบโตขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซนต์ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแค่นี้ เพราะแม้จะมีการระบาดของ COVID-19 ทีมบาสจากเบย์แอเรียยังสามารถเพิ่มมูลค่าของทีมได้หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

ปัจจุบัน โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส ตามหลังนิกส์ ทีมบาสเกตบอลที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก เพียง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่แน่ว่าด้วยการเติบโตที่ต่อเนื่องของทีม ในอนาคตอันใกล้เราอาจได้เห็นทีมบาสที่เป็นเบอร์ 1 รายใหม่ในโลกธุรกิจก็เป็นได้