จากกรณี น.ส.โม นามสมมติ อายุ 23 ปี ร้องสื่อมวลชน หลังไปรับงานเอนเตอร์เทนชงเหล้าที่บ้านเสี่ย อ. อายุ 34 ปี 4 ชั่วโมง ตกลงราคาค่าจ้างกัน จำนวน 12,000 บาท แต่เสี่ย อ.ยังจ่ายไม่ครบ ค้างจ่ายอยู่ 2,000 บาท พอทวงถามก็ถูกเสี่ย อ.ขู่ฆ่า แถมอ้างเป็นลูกตำรวจใหญ่ ซึ่งเงินที่ค้างตนไม่ติดใจ แต่เกรงว่าตัวเองจะไม่ปลอดภัย จึงมาร้องสื่อมวชน
เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นกับ น.ส.โม ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ถูกหนุ่มอ้างเป็นเสี่ยเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ เบี้ยวค่าแรงเช่นกัน และกลุ่มเพื่อนสาวเอนเตอร์เทน ก็ถูกเบี้ยวค่าแรงมาแล้วหลายราย
ต่อมาเวลา 16.30 น. วันที่ 25 ธันวาคม 2566 นายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก จากเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย นำ น.ส.โม และพ่อเสี่ย อ. เข้าพบ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อตกลงเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้เงินค่าตัวที่เสี่ย อ.ค้างจ่าย จำนวน 2,000 บาท ก่อนพากันไปจ่ายเงินที่ค้าง และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับ พ.ต.ท.เศรษฐวิทย์ คุณเศรษฐ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หลังจาก น.ส.โม ได้รับเงินส่วนที่เหลือจนครบแล้ว จึงได้บอกพ่อของเสี่ย อ.ว่า ให้ลบรูปตนและข้อความออกทั้งหมดด้วย
น.ส.โม เปิดเผยว่า เสี่ย อ.ได้ติดต่อให้ตนมาทำงานเอนเตอร์เทน โดย 4 ชม.แรก 5,000 บาท จากนั้นจะคิดชม.ละ 500 บาท ตั้งแต่ค่ำวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 จนถึงเช้าวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 รวมค่าแรงทั้งสิ้น 12,000 บาท ตามปกติคนว่าจ้างต้องจ่ายให้ครบ แต่ทางเสี่ย อ.ได้จ่ายค่ามัดจำก่อน 3,000 บาท เมื่อครบ 4 ชม. ตนจึงให้เขาโอนจ่ายเงินให้ ซึ่งเสี่ย อ.ได้บอกตนว่า เราต้องอยู่กันจนเช้า แล้วจะโอนให้ทีเดียว พอถึงช่วงเช้าเขาก็ไม่โอนให้ บอกว่าเสียพนันบอล สักบ่ายสองโมงจะโอนให้ เขาบอกตนว่าขอจ่ายก่อน 5,000 บาท ตนก็โอเค เพราะดีกว่าไม่ได้
หลังจากนั้นทั้งวันเขาก็เงียบหายไปเลย และติดต่อไม่ได้ แล้วตนก็พิมพ์ข้อความไปบอกว่า ตนต้องใช้เงิน ถ้าเป็นแบบนี้ต้องขอเก็บเต็มจำนวน เขาก็บอกว่ายังไม่มี ตนก็ทวงถามไปหลายครั้ง และให้โอกาสเขามาตลอด จนเป็นเดือน ตนจึงให้พี่ชายโทรทวงให้จากยอดที่เหลือ 9,000 บาท เขาก็ทยอยผ่อนชำระมาเรื่อยๆ ที่ละ 1,500-2,000 บาท จนสุดท้ายยอดค้างจ่ายเหลือ 2,000 บาท ซึ่งก็ครบเดือนกว่าแล้ว เขาก็ยังไม่จ่ายอีกเมื่อทวงไป เอาก็ขู่ต่างๆนานจนตนเองกลัว แล้วเขาก็ส่งรูปตนให้คนอื่นดูว่า ถ้ามีงานอย่างเรียกใช้ตน
วันนี้ตนจึงมาไกล่เกลี่ยกับพ่อเขาที่โรงพัก เพื่อจ่ายเงินที่เหลือให้ตน แล้วเขาก็ไลน์มาบอกตนว่าเราจบกันแค่นี้นะ หากมีการมาชำระเงินที่เหลือตนก็ไม่ติดใจอะไร ถ้าหากไม่มีผลกับตนภายหลัง ซึ่งตนก็พึ่งทราบว่าขณะนี้เขาไปบวช โดยเขามารู้จักกับตนในเฟสบุ๊ค ซึ่งเขามาเลือกโดยผ่านบอสงาน แล้วตนก็มาทำงานก็เท่านั้น”
ด้านพ่อเสี่ย อ. เล่าว่า ตนไม่ทราบเรื่องจากข่าวของลูกชายมาก่อน หลังมีเพื่อนโทรมาบอกว่าลูกชายไปเป็นข่าวอะไร ตนจึงรีบเข้ามาพบตำรวจ และตนก็ต้องยอมรับผิด เพื่อไม่ให้สังคมดูถูกเรา และลูกก็ไม่ใช่คนแบบนี้ อีกทั้งก็พึ่งไปบวช ลูกชายก็มีครอบครัว ส่วนเรื่องเอาเด็กเอนเตอร์เทนมารินเหล้านั้น ตนก็ไม่ทราบ แต่ลูกชายมีปัญหาครับครัว ตามง้อแฟนก็ไม่กลับมา หรือว่าเขาจะทำประชดแฟนนั้น ตนก็ไม่รู้ ครั้งนี้ที่ลูกชายไปบวชก็เนื่องจากแฟนหนี แล้วเขาไม่มาคืนดีด้วย และเรื่องหนี้นอกระบบ ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้และเคลียไปให้หลายครั้งแล้ว มาครั้งนี้ตนก็ให้เขาจัดการเอง ตนก็ไม่ไหวที่จะตามเคลียปัญหาที่เขาก่อขึ้นอีกแล้ว
“เรื่องนี้ตนก็ไม่รู้เรื่อง แต่สอบถามก็ทราบว่า มีการผ่อนชำระกันไปแล้ว คงเหลืออีก 2,000 บาท หลังจากมีเรื่อง ลูกชายก็ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งลูกชายตนพึ่งบวชเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มาวันนี้ตนก็อยากสอบถามเรื่องราว เพราะตนไม่รู้เรื่อง และไม่สนับสนุนเรื่องแบบนี้ โดยปกติลูกชายก็ดื่มเหล้าอยู่แล้ว เพื่อนก็เยอะ แล้วตนก็พร้อมจ่ายเงินที่ลูกชายค้างอยู่ทั้งหมด เพื่อให้จบเรื่องกันไป