เสียใจทั้งชีวิต เด็กชายวัย 2 ขวบ “ตาบอด” ติดเชือเพราะถูกญาติ “จูบ” บทเรียนราคาแพงของพ่อแม่

เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกและเด็กเล็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ พวกเขาจึงติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ง่าย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการป่วยตั้งแต่เป็นหวัดธรรมดาไปจนถึงภาวะร้ายแรง เช่น ผิวหนังติดเชื้อทั่วร่างกายหรือแม้แต่เสียชีวิต ตัวอย่างเช่น ในประเทศอังกฤษ เด็กชายวัย 2 ขวบรายหนึ่งติดเชื้อไวรัสเริมจากการถูกญาติหรือคนรู้จักจูบ ส่งผลให้เขาสูญเสียการมองเห็นที่ตาซ้าย

ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศ เด็กชายคนนี้ชื่อ ฮวน ไซมัน (Juan Saaiman) แม่ของเขาสังเกตเห็นว่าตาซ้ายของลูกบวมและมีน้ำตาไหลตลอดเวลา ตอนแรกคิดว่าเป็นอาการแพ้หรือการติดเชื้อธรรมดา แต่เมื่อนำไปตรวจที่โรงพยาบาล แพทย์พบว่ากระจกตาของฮวนมีรอยทะลุขนาด 4 มิลลิเมตร แม้จะเข้ารับการผ่าตัดและรักษาด้วยยาต้านไวรัสหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถกู้คืนการมองเห็นได้ ทำให้เขาต้องสูญเสียการมองเห็นข้างซ้ายถาวร

“ฉันใจสลาย ไม่คิดเลยว่าแค่จูบเดียวจะทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขนาดนี้” แม่ของฮวนกล่าว พร้อมอธิบายว่า ลูกชายของเธอร้องไห้ไม่หยุด ดวงตาบวมแดงและมองเห็นไม่ชัด ราวกับมีสิ่งแปลกปลอมขวางอยู่ แพทย์สันนิษฐานว่า ฮวนน่าจะติดเชื้อไวรัสเริม (HSV) จากการถูกญาติหรือคนรู้จักจูบที่แก้มหรือหน้าผาก และไวรัสดังกล่าวอาจแพร่เข้าสู่ดวงตาผ่านการสัมผัส ทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาและนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ระบุว่า ไวรัสเริม (HSV) สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรง โดยในผู้ใหญ่ มักแสดงอาการเป็นแผลพุพองที่ริมฝีปาก แต่สำหรับทารกและเด็กเล็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงดี การติดเชื้อ HSV อาจทำให้เกิดภาวะสมองอักเสบร้ายแรงหรือสูญเสียการมองเห็นถาวร

แม้ว่าไวรัสเริมจะเป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในผู้ใหญ่ แต่สำหรับทารก ถือเป็นความเสี่ยงที่ร้ายแรงมาก ผู้ปกครองควรป้องกันโดย หลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้ที่มีแผลเริมที่ริมฝีปากหรือมีอาการต้องสงสัยสัมผัสกับเด็กเล็ก รวมถึงหมั่นล้างมือเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ

ขณะนี้ ตาขวาของฮวนยังคงเป็นปกติ แต่พ่อแม่ของเขากังวลว่าไวรัสอาจกลับมาติดเชื้ออีกครั้ง จึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แม่ของฮวนยังใช้โซเชียลมีเดียเตือนพ่อแม่คนอื่น ๆ ว่า “อย่าให้ใครก็ตามจูบลูกของคุณ โดยเฉพาะทารกแรกเกิด! HSV อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงและไม่สามารถแก้ไขได้”