เสรีพิศุทธ์ ฟังธง “ตู่-ป้อม” แตกกันแน่ หันซบ รทสช. ชี้ แยกกันเดินอย่างไรก็ไม่มีอำนาจ มั่นใจ สมัยหน้าฝั่งประชาธิปไตย กวาดที่นั่งเกินครึ่ง-ส.ว.ไม่หนุนแล้ว
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 9 พ.ย. 2565 ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า เรื่องนี้ได้ยินมานานแลัว จากการติดตามพฤติกรรมในอดีตก็พอจะชี้ได้ว่าในปัจจุบันจะเป็นอย่างไร ในอดีตพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นผู้บังคับบัญชาพล.อ.ประยุทธ์
แต่ตอนยึดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปเชิญพล.อ.ประวิตรและพล.อ.อนุพงษ์ มาร่วมรัฐบาลด้วย ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ซึ่งมาจากการตั้งพรรคพลังประชารัฐ ฉะนั้น การทำงานของพล.อ.ประยุทธ์ คือการทำงานในหน้าที่นายกฯ ไม่ได้เข้ามายุ่งกับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ดูแล ซึ่งการดูแลพรรคไม่ได้ดูเฉยๆ หรือแลไปเท่านั้น แต่ต้องใช้เงินมากในการที่จะดูแลส.ส.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และส.ส. ก็ห่างกันไปเรื่อยๆ เมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามา พล.อ.ประยุทธ์ เริ่มไม่แน่ใจว่า พลังประชารัฐจะเสนอชื่อตนเองเป็นนายกฯ หรือไม่ จึงต้องหาทางสำรองไว้ก่อน คือการให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมา และหากคุยกับพล.อ.ประวิตรได้ ก็คงจะยอมอยู่ในพลังประชารัฐต่อไป แต่ถ้าคุยไม่ได้ก็ต้องไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ
“ส่วนตัวมองว่าคงจะแน่นอนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ กับพล.อ.ประวิตร จะต้องแตกหักและแยกทางกัน และทั้ง 2 พรรคก็คงไปไม่ได้ทั้งคู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากแยกกันเดินแล้ว พล.อ.ประยุทธ์หรือพล.อ.ประวิตร ใครจะมีอำนาจมากกว่ากัน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า อย่าไปสนเลย แยกกันเดิน ไม่มีอำนาจทั้งคู่ เพราะพรรคอื่นเขามีส.ส.มากกว่า ก็ต้องเสนอชื่อคนที่เขาชูขึ้นเป็นนายกฯ เลือกตั้งครั้งนี้คิดว่าส.ว.จะเหมือนเดิมหรือ ตนคิดว่าไม่เหมือนเดิม
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า เลือกนายกฯ ครั้งที่แล้ว ส.ว.ไม่ขาดสักคนที่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ แต่เลือกตั้งครั้งนี้ เชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะมีจำนวนส.ส.เพิ่มมากขึ้น ฉะนั้น ตอนนี้ที่มีข่าวว่าจะมีการยุบพรรคเพื่อไทย (พท.) ยุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อให้ส.ส.วิ่งเข้าไปอยู่ในพรรคของตัวเองมากขึ้น
“เชื่อว่าสองพรรคนี้ไม่ได้เป็นที่หนึ่งหรอก ถามว่าส.ว. 250 คนจะเลือกหมดหรือ ต่อให้เลือกหมดก็บริหารต่อไม่ได้ เพราะจำนวนส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยเกินครึ่ง ผมเชื่อว่าอย่างไรฝ่ายประชาธิปไตยก็ได้ส.ส.เกินครึ่ง เมื่อเกินครึ่งแล้วต่อให้ส.ว. เลือกพล.อ.ประยุทธ์หรือพล.อ.ประวิตรเข้าไปก็บริหารไม่ได้ เพราะอยู่ในสภาฯ เสียงไม่ถึงครึ่ง ทำอะไรไม่ได้ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ล้มแล้ว” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะถึงขั้นสูญพันธุ์เลยหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คำว่าสูญพันธุ์หมายถึงเป็นศูนย์เลยเหรอ ถ้าส.ส.พลังประชารัฐเป็นศูนย์ ก็ไม่ได้ส.ส.สักคนสิ คงไม่ถึงขนาดนั้น