“เศรษฐา” ขอให้ประชาชนกำหนดอนาคตทางการเมือง โวกระแส เพื่อไทย แรงไม่แพ้ ก้าวไกล หวัง 14 พ.ค. ได้คะแนนเยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 เม.ย. 2566 ที่จ.นครศรีธรรมราช นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีจะสามารถปังธงในภาคใต้ได้หรือไม่ ว่า ต้องให้เกียรติพี่น้องประชาชน ไม่อยากไปคาดหวังหรือคาดเดา วันนี้ทำให้ดีที่สุด
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ปราศรัยบนเวทีว่าหากครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งต่อไปจะกลับมาอ้อนอีก ตนพูดแทนตัวเอง และคณะ ว่าเราไม่ทอดทิ้งพี่น้องภาคใต้ สำหรับเส้นทางการเมืองในอนาคตนั้น วันนี้เอาแค่นี้ก่อน วันนี้ทำให้ดีที่สุด เท่าที่สามารถทำได้ ต้องฟังเสียงตอบรับของประชาชนว่าอนาคตจะอยู่ตรงไหน พี่น้องประชาชนเป็นคนชี้ขาดให้
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ กรณีกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำ จ.สงขลา ออกหนังสือถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ขอให้มีความเป็นกลาง ไม่ทำตัวเป็นหัวคะแนน นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมั่นใจทาง กกต. และมั่นใจ อสม. ด้วย หน้าที่ของ อสม. คือดูแลประชาชนด้านสาธารณสุข และอยากให้ประชาชนอยู่ดี ส่วนเรื่องทางการเมือง ตนเชื่อว่าเขาเข้าใจว่าพี่น้องประชาชนทำอะไรอยู่ ทุกคนมีหน้าที่
เมื่อถามต่อว่ากังวลเรื่องการใช้อำนาจรัฐหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าประชาชนจะช่วยดูแลการเลือกตั้งให้เป็นธรรมมากขึ้น หน้าที่ของตน คือ เดินหน้าพบปะรับฟังปัญหาของประชาชน และหาทางแก้ไข ทำความตั้งใจจริงที่เรามีให้พี่น้องประชาชน และหวังว่าวันที่ 14 พ.ค. จะได้คะแนนเยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อถามว่ากระแสของพรรคก้าวไกลถือว่าน่ากลัวหรือไม่ เพราะเมื่อวานพรรคเพื่อไทย มีการเปิดห้องติว ส.ส. ใช้ยุทธศาสตร์เน้นเรื่องออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเป็นการรุกกลุ่มฐานเสียงของพรรคก้าวไกล นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเชื่อว่าไม่ใช่ เพราะบางช่วงตนก็ได้เข้าไปฟังด้วย ไม่ใช่เป็นการแก้เกมพรรคก้าวไกล มีหลายวิธีที่เราสามารถนำมาแก้ไขได้ในช่วงโค้งสุดท้าย
เมื่อถามว่าตอนนี้กระแสของพรรคก้าวไกลถือว่าน่ากลัวหรือไม่ เพราะเป็นพรรคประชาธิปไตย อาจจะแย่งคะแนนกัน แต่สุดท้ายอาจจะไม่ได้ทั้งสองพรรค นายเศรษฐา กล่าวว่า คงเป็นไปไม่ได้ ตนมั่นใจในสิ่งที่เราทำอยู่ เราตั้งใจที่จะนำสิ่งดีๆ ไปเสนอให้พี่น้องประชาชน ฉะนั้น จึงมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้การตอบรับที่ดีจากประชาชน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่ากระแสของเราก็แรง เราก็มีโพลของเรา ตรงนี้เรามั่นใจ เราเดินมาถูกทางแล้ว
เมื่อถามว่าการที่นายเศรษฐาและคณะพรรคเพื่อไทย เดินสายเพื่อพูดคุยกับประชาชน กับการที่พรรคก้าวไกลเน้นยุทธศาสตร์การพูดในโซเชียลมากขึ้น จะทำให้เกิดความแตกต่างในการเข้าถึงประชาชนหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงคอมเมนต์วิธีการของพรรคอื่นไม่ได้ แต่ละพรรคก็มีวิธีการสื่อสารที่ต่างกัน ในโซเชียลของเราก็มี ออนไลน์หรือออฟไลน์ของเราก็มี พบปะพี่น้องประชาชนเราก็มี เรามีบุคลากรที่ทรงคุณค่าจำนวนมาก เรามั่นใจในสไตล์ของเราว่าสามารถนำไปสู่จุดนั้นได้
