“เศรษฐา” รับพิจารณาสานงานต่อ “ลุงตู่” จัดโผ ครม.เหลืออีกนิดเดียว ขณะที่เสื้อแดงอีสาน รับไม่ได้โผชุดใหม่มี “คนสั่งฆ่า”
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊คส่งไม้ต่อเก้านี้นายกรัฐมนตรีและสานงานรัฐบาล ว่า ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด โดยจะรับไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันมาจากรัฐบาลเดิม ก็จะมีการไปรับฟังงานที่ค้างไว้
โดยเฉพาะงานต่างประเทศที่สามารถสานต่อได้ ส่วนในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีก็ต้องดู ว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้อย่างไร เพราะที่ผ่านมาสถานการณ์การเมืองก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ และบางอย่างจะล็อคยาว 20 ปี ก็ต้องดูความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโลกปัจจุบัน
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการจัดครม. ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวใกล้เคียง แต่ขณะนี้ยังไม่อยากก้าวล่วงคณะเจรจา ซึ่งขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปในทางที่ดี และมีการลงรายละเอียดด้วยว่า อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดความถนัดของบุคคลที่จะเข้ามาดูแลกระทรวงนั้นๆ โดยยึดความเจริญของประเทศเป็นหลัก ไม่ใช่แค่การจัดสรรอย่างเดียว ซึ่งของพรรคเพื่อไทยเหลืออีกนิดเดียว 2-3 ตำแหน่ง และต้องขอดูรายละเอียดว่าจะเป็นอย่างไร หลังมีข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงมหาดไทย
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีชื่อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วเปลี่ยนมาเป็นชื่อของพรรคภูมิใจไทย นายภูมิธรรม จะเสียใจหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจ และตำแหน่งในกระทรวงใหญ่ๆมีการพูดคุยกันแล้ว และคิดอย่างดีแล้ว เพราะผู้ใหญ่ในแต่ละพรรคทุกคน ผ่านการดูแลงานมาเยอะเชื่อว่าทุกคนมีความเหมาะสม
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงตัวแทนการค้าที่ผ่านมาไม่ได้มีบทบาทเท่าไหร่ ว่า เรื่องนี้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญ ซึ่งตามความเข้าใจของตัวเองผู้แทนการค้ามี 5 คน และสามารถตั้งประธานได้อีก 1 คน ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสำคัญที่พัฒนาประเทศ โดยจะพิจารณาความเหมาะสมและความสามารถส่วนบุคคลในการแต่งตั้ง ขออย่าบอกว่าเป็นโควตาของพรรคไหนให้เอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้ง
นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ขอเอาผลงานเป็นที่ พิสูจน์การทำงานของรัฐบาลนี้รวมถึง กระแสข่าวที่ว่าตนเองจากควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่ง ซึ่งขณะนี้ยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจมีปัญหาและรับทราบว่าการคาดหวังของประชาชนสูง แต่ก็เชื่อว่า คนที่ถูกคัดเลือกจะทำหน้าที่พร้อมที่จะทำงานด้วยความเน็ตเหนื่อย
และยอมรับว่า เป็นธรรมดาว่ารัฐมนตรีช่วยว่าการจะต้องร่วมงานกับรัฐมนตรีว่าการ และการนำโจทย์ความลำบากของประชาชนไม่ว่าบุคคลที่จะมาเป็น รัฐมนตรีช่วยไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดจะสามารถคุย และทำงานร่วมกันได้ ไม่อยากตั้งแง่ว่ามาจากพรรคไหน ซึ่งเชื่อว่า 11 พรรคที่มาอยู่ด้วยกันวันนี้เชื่อว่าทุกคนเข้าใจถ่องแท้ ถึงความต้องการของประชาชนเข้าใจถึงปัญหา เข้าใจถึงการเดินไปข้างหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท โดยมองว่า เป็นเรื่องสำคัญและเป็นมาตรการหลักของพรรคเพื่อไทยยืนยันเดินหน้าเต็มตัวแต่ตอนนี้ขอดูรายละเอียดอีกทีก่อน โดยวันจันทร์และวันอังคารนี้ได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาพูดคุยรวบรวมข้อมูล และจะจัดทำไทม์ไลน์ หวังว่าในไตรมาสหนึ่งปีหน้าจะดำเนินการได้
และเมื่อถามว่าข้อมูลข่าวความนิยมของศรีปทุมโพลพบว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทยลดลงร้อยละ 60 นายเศรษฐา ระบุว่า ขอให้ผลงานพรรคเพื่อไทยเป็นเครื่องพิสูจน์ ซึ่งขณะนี้เราทำงานทุกวัน และทุกคนร่วมกัน โดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อย โดยยอมรับว่าความคาดหวังของคนไม่สามารถควบคุมได้ แต่ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยได้คุยพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนจะเข้าใจ
ขณะที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสาน ริมบึงหนองโคตร ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผศ.พรรณวดี ตันติศิรินทร์ ที่ปรึกษากลุ่มสตรี 20 จังหวัดภาคอีสานและอดีตแกนนำ กลุ่ม นปช.ภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ จ.ขอนแก่น ว่า ยอมรับว่าการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เป็นการส่วนตัวนั้น สร้างความไม่สบายใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อภาพปรากฎ ทำให้คนเสื้อแดงตั้งข้อสังเกตุและมีความเชื่อว่า นายเศรษฐาเข้าไปรับใบสั่งแต่งตั้งรัฐมนตรีจาก พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม
“จากการที่ยังไม่มีความชัดเจนในการแต่งตั้ง รมว.กลาโหม จึงทำให้คนเสื้อแดงมีความกังวลว่า ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม จะเป็นทหารที่มีความเกี่ยวข้องในการสั่งฆ่าคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ถ้าเป็นจริงและเป็นบุคคลที่เปิดเผยรายชื่อ คนเสื้อแดงรับไม่ได้ จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของคนเสื้อแดงจริงๆ เพราะที่ผ่านมาการจับมือข้ามขั้วเราพยายามที่จะมองข้ามไปแล้ว แต่ถ้าเป็นจริงคนเสื้อแดงรุฮือแน่ ส่วนกระทรวงอื่นๆ นั้นเป็นบุคคลที่มาทำหน้าที่ในแต่ละกระทรวง มีความเหมาะสมแล้ว”
ผศ.พรรณวดี กล่าวต่ออีกว่า แม้ว่าคนที่จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหมยังไม่ชัดเจนและลงตัว แต่กลุ่มคนเสื้อแดงต้องการสื่อให้ไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าขอให้พิจารณาคนที่มีความเหมาะสม และไม่ทำร้ายจิตใจคนเสื้อแดง วันนี้ คนเสื้อแดงต้องการสะท้อนความต้องการถึงผู้บริหาร ผู้มีอำนาจตัดสินใจตั้งรัฐบาล อย่าทำให้คนเสื้อแดงถูกทำลายมากกว่านี้
อย่างไรก็ตามเวลานี้คนเสื้อแดงยังพร้อมที่ยืนหยัดเคียงข้างพรรคเพื่อไทย แต่หากยังยืนยันพิจารณาคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งฆ่าคนเสื้อแดง ก็จะเหมือนกับพรรคเพื่อไทยที่กำลังใช้น้ำกรดราดตัวเอง ฆ่าตัวเอง เพราะที่ผ่านมามีหลายสถานการณ์ที่ทำให้คนเสื้อแดงมีความรู้สึกว่า ด้อยค่า และเราเคยเสนอ เคยเรียกร้องไป ซึ่งพรรคเพื่อไทยดูแลบ้าง ไม่ดูแลบ้าง จนทำให้แกนนำหลายคนเลือกถอยห่างจากพรรคไปอย่างต่อเนื่อง
“หากพรรคเพื่อไทยยังคงยืนยันว่าจะให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนที่สั่งฆ่าคนเสื้อแดง มาบริหารกระทรวงกลาโหม คราวนี้คงยากที่จะอธิบาย เพราะว่ามองหาสาเหตุอื่นไม่ได้นอกจากการแบ่งเค้กกัน เราไม่อยากมองว่าเป็นการต่อรองอำนาจ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงมั่นใจส่าคนเสื้อแดงที่มีความรักต่อพรรคเพื่อไทยและต่อรัฐบาลก็น้อยลง แลพ ถ้าจะเป็นการต่อรองอำนาจก็อย่าเลือกคนที่ทำร้ายจิตใจคนเสื้อแดง”