วันที่ 13 ส.ค. 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี หลังจากที่ออกจากห้องประชุม ครม. ให้ช่วงสายที่ผ่านมาได้ออกมาสรุปการประชุมในวันนี้ รวมถึงมีการกล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยและให้กำลังใจ ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยถอดถอนตนวันพรุ่งนี้ กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ส่วนกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ ว่า หากนายกรัฐมนตรี ต้องพ้นจากตำแหน่งสามารถกลับมาได้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ระบุแนบท้ายว่าห้ามไม่ให้กลับมาอีก นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมไม่ได้คุยเรื่องนี้ ผมไม่ทราบเลย ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่างที่ผมบอกตั้งแต่ส่งคำแถลงปิดคดีก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย”
พรรคเพื่อไทย มีการเตรียมการอย่างไร
นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ทราบเลย ต้องถามที่พรรค และในวันพรุ่งนี้ ตนจะส่ง นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากตนมีภารกิจแน่นในช่วงบ่าย ส่วนจะมีภารกิจไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกหรือไม่ ตนเข้าใจว่าอยู่ในทำเนียบ โดยจะไม่มีการตั้งวอร์รูม เพราะมันจบแล้วตั้งแต่แถลงปิดคดี ตนก็ได้ทำหน้าที่ของตนเต็มที่แล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม
ส่วนจะติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเองหรือไม่
นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าตนมีประชุมอยู่แล้ว เป็นการประชุมภายใน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน อยู่ในทำเนียบอยู่แล้ว เชื่อว่าทีมงานของตนจะเข้ามาบอก คงไม่ได้มีการเซ็ตประชุมอย่างเป็นทางการ
เมื่อถามว่าหากไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป มีแผนสำรองอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตอนนี้ ยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องแผนสำรอง
ขณะที่นายวิษณุ บอกว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มระหว่างรักษาการ จะยุบสภาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้คิดอะไร ให้เกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยว่ากันทีหลัง
เมื่อถามว่า ดูเหมือนนายกรัฐมนตรีมีความมั่นใจกับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีการวางแผนงานไว้ล่วงหน้าแล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ครับ ผมมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติ ที่นักข่าวหลายสำนักไปวิจารณ์ว่า ผมหน้าเศร้า คุณแม่ผมเพิ่งเสียไป ผมก็หน้าเศร้าเป็นธรรมดา
หรือบางคนก็บอกวว่ามั่นใจมากและไป set up การประชุมออกตารางเดินทางถึงสิ้นเดือน เรื่องนี้ มันเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องมีการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องมีการเตรียมงาน ตามความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน
- พรรคไทยภักดี ยื่น กกต. สอบ ‘พรรคประชาชน’ ปมสาขาพรรคไม่ครบ 4 ภาค
- หนุ่มร้องทุกข์ ซื้อบ้านมา 2 ปีไม่ได้อยู่ หลังเจ้าของเก่า เป็น ขรก. ชอบขู่ฆ่า
- อุบัติเหตุสลด รถ 6 ล้อ พุ่งชนแม่ค้าขาย ยางปัดน้ำฝน ริมทาง ดับ
ถ้าผลออกมาเป็นบวก กับตัวผมเอง ผมก็หน้าทำงานต่อไป แต่ถ้าผลออกมาเป็นลบ รักษาการนายกรัฐมนตรี ก็นำแผนงานที่ผมเซ็ตไว้ ไปพิจารณา แล้วปรับปรุงตามความเหมาะสม ของท่านเองนี่ เป็นเรื่องการทำงานทั่วไป ไม่ใช่การแสดงออกถึงความมั่นใจ หรือไม่มั่นใจอะไร เราทำดีที่สุดแล้ว และได้ส่งคำแถลงปิดคดีไปแล้ว เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไปแล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม”
หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง สามารถเดินต่อทันทีได้ใช่หรือไม่
นายเศรษฐา กล่าวว่า ตน set up งานไม่ได้เป็นไปตามความประสงค์ของตน แต่เป็นไปตามปัญหาของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้น และแน่นอนว่าถ้าต้องหลุดจากตำแหน่ง จะมีรักษาการรองนายกรัฐมนตรีเข้ามาดู ก็คงต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญ ที่ท่านเห็นว่าเหมาะสม แต่อย่างน้อยถ้าเกิดท่านเข้ามาก็จะได้รับทราบ ว่า มีการวางแผนอะไรไว้แล้วบ้าง ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนมองว่า จะกระทบการเดินทางไปพูดคุยต่างประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ทราบ”
เมื่อถามว่าก่อนจะถึงวันพรุ่งนี้อยากจะพูดอะไรกับประชาชนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่มี” วันนี้ตนมา ก็มาประชุม ครม. และได้แจ้งที่ประชุมไปแล้วว่า ทำอะไรไปแล้วบ้าง วันนี้ตอนบ่าย ก็มีงานเต็มเอียด ทำงานไปเรื่อยๆ
ส่วนวงประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ มีการพูดคุยความคืบหน้าเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า “ไม่มี”
พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งรายชื่อ เสนอปรับครม. มาแล้วหรือไม่
นายเศรษฐา กล่าวว่า ส่งจดหมายมาแล้ว แต่อย่างที่ตนเคยบอกไป ว่าเดือนนี้มีเรื่องเยอะ ก็ต้องให้เกียรติศาลก่อน และอย่างที่สื่อเคยถามตนเยอะ เรื่องของวันที่ 14 สิงหาคม แล้วถ้าปรับครม.ก่อนนั้น ตนคิดว่าความเหมาะสม มันไม่มี
เมื่อถามถึงไทม์ไลน์การปรับคณะรัฐมนตรี ถ้าไม่มีอะไรก็คาดว่าน่าจะเป็นภายหลังเดือนสิงหาคมใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า เป็นอะไรที่ต้องพูดคุยกันอีกทีนึง ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต มีรัฐมนตรีบางท่านน้อยใจลาออก แล้วถ้าเกิดเสนอเข้ามาอยู่ตรงไหน แล้วจะเกิดปัญหาเดิมหรือไม่ เราอยู่ด้วยกันก็ต้องพูดคุยกัน