เศรษฐา สวนกลับ ชูวิทย์ ฟ้องเรียก 500 ล้าน ลั่น ไม่ได้แกล้งคนใกล้ตาย

Home » เศรษฐา สวนกลับ ชูวิทย์ ฟ้องเรียก 500 ล้าน ลั่น ไม่ได้แกล้งคนใกล้ตาย

เศรษฐา

เศรษฐา พรรคเพื่อไทย ออกหมัดสวน ชูวิทย์ ฟ้องเรียก 500 ล้าน ปมเลี่ยงภาษี ยันมีคุณสมบัติครบ ลั่นแรง ไม่ได้แกล้งคนป่วย หรือ คนใกล้ตาย

วันที่ 7 สิงหาคม 2566 นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความที่ได้รับมอบหมายจาก นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นำหลักฐาน มายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่มีการแถลงกล่าวหา นายเศรษฐา สมัยเป็นผู้บริหาร บริษัท แสนสิริ ในทำนองว่า “มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษี จำนวนกว่า 500 ล้านบาท”

เศรษฐา-1

นายวิญญัติ กล่าวว่า วันนี้ที่ตนเองมา ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งคนป่วย หรือซ้ำเติมคนที่บอกตัวเองว่าอยู่ได้ไม่นาย หรือ ใกล้ตาย ในฐานะเพื่อนมนุษย์ขอให้กำลังใจ ให้ต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่ แต่แม้จะเป็นคนป่วย หรือคนธรรมดา แต่ถ้ามีการกระทำความผิดกฎหมาย ทำให้นายเศรษฐา ในฐานะผู้ได้รับเสียหายก็ต้องปกป้องสิทตัวเอง แม้ว่านายชูวิทย์ อาจบอกว่าเป็นการตรวจสอบใช้สิทธ์ประชาชนตามรัฐธรมนูญ แต่อย่าลืมว่าต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย การแถลงข่าววันนั้น มีการใช้สื่อประกอบ มีบุคคลที่ 3 จำนวนมาก มีคนถูกพาดพิงหลายคน และนายชูวิทย์ ยืนยันว่า นายเศรษฐา รับรู้ สมรู้ ร่วมวางแผน จึงต้องฟ้องวันนี้ ในสาระสำคัญว่า นายชูวิทย์ กล่าวข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน จงใจปกปิด และให้คนเข้าใจผิดหรือไม่

  • แฉเพื่อชาติ ชูวิทย์ ซัด เศรษฐา-เพื่อไทย โกงภาษี ? อย่าศรีธนญชัย
  • ศิธา พร้อมแยกทาง หญิงหน่อย หลังมีข่าว ไทยสร้างไทย จ่อร่วมรัฐบาล
  • เศรษฐา ยอมรับ เสียใจกับข้อความในอดีต ที่เป็นคนเขียนเอง

ซึ่ง ข้อเท็จจริงที่ตนทราบ และแสนสิริ เคยชี้แจงว่า การได้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์รวม ไม่ใช่การได้ที่ดินมาพร้อมกันอย่างที่ นายชูวิทย์ แถลง แต่เป็นการได้มาโดยไม่พร้อมกัน ตามคำสั่งกรมสรรพากร ป.100/2543 พูดถึงเรื่องบุคคลที่ได้กรรมสิทธิ์มาโดยการขาย ต้องเสียภาษีในหน่วยภาษีที่แบบรายบุคคล ไม่ใช่นิติบุคคล โดยกรณีบริษัทแสนสิริ เข้าข้อยกเว้น คือกรรมสิทธ์รวมของผู้ถือหุ้น ได้มาไม่พร้อมกัน ต้องดูหน่วยเสียภาษีอย่างบุคคลธรรมดา แยกชำระกันแต่ละคน โครงสร้างนี้ คนมีหน้าที่เสียภาษีคือผู้ขาย ตกลงตามเอกเทศนสัญญา คนซื้อ คนขาย ตกลงกันยังไงก็ได้ โดยการโอนต้องโอนต่างวัน เสียภาษีในฐานะบุคคลธรรมดา

เศรษฐา-2

ทั้งนี้ นายวิญญัติ กล่าวอีกว่า ตนทราบว่า บริษัทสมบัติเติมตระกูล ของลูกชายนายชูวิทย์ ที่ประกอบธุรกิจประเภทโรงแรม รีสอร์ท ห้องชุด ขอให้นายชูวิทย์ คอยระวัง และตรวจสอบเรื่องนี้ดีๆ เขากำลังจับตาดูอยู่ คอยระวังไว้ ส่วนในวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง มีพยานบุคคล 7-8 ปาก แต่ยังไม่แน่ใจว่า นายเศรษฐา จะมาด้วยตัวเองหรือไม่

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ