เศรษฐา ลุยหาเสียงบ้านโป่ง เมินซูเปอร์โพล ดับฝัน เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ลั่นไม่ย่อท้อ

Home » เศรษฐา ลุยหาเสียงบ้านโป่ง เมินซูเปอร์โพล ดับฝัน เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ลั่นไม่ย่อท้อ


เศรษฐา ลุยหาเสียงบ้านโป่ง เมินซูเปอร์โพล ดับฝัน เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ลั่นไม่ย่อท้อ

“เศรษฐา” ลุยหาเสียงบ้านโป่ง สับผู้นำไม่เปิดตลาด เย้ยสปีกอิงลิชไม่ได้ โวดิจิทัลวอลเล็ตของดี อย่าให้ใครมาด้อยค่า ปัดมองก้าวไกลคู่แข่ง เมินซูเปอร์โพล ดับฝัน เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ลั่นไม่ย่อท้อ

15 เม.ย. 66 – ที่ตลาดเทศบาลบ้านโป่ง นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคเพื่อไทย หาเสียง โดยมีประชาชนตอบรับทักทายตลอดเส้นทาง

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้แวะกินข้าวเหนียวมะม่วง พร้อมกล่าวชมว่า รสชาติอร่อย พร้อมผลักดันให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์

จากนั้น นายเศรษฐา พร้อมคณะ เดินทางต่อมายังอาคาร อารีน่า ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง เพื่อพบปะประชาชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ซึ่งรอกันอยู่เต็มอาคาร ทันทีที่มาถึง ประชาชนได้แห่ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนที่ นายเศรษฐา จะสรงน้ำพระพุทธรูป และรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ ตามประเพณีไทยด้วย

ต่อจากนั้น นายเศษรฐา กล่าวกับผู้มาให้การต้อนรับว่า การมาวันนี้ คนรอต้อนรับมากถือเป็นกำลังใจสำคัญในการหาเสียง 8 ปีที่ผ่านมา เราทุกข์ทรมาน รัฐบาลที่ผ่านมาจะอ้างไม่ได้ ทำไมเราต้องอยู่ในสภาพที่ทนอยู่ ทั้งเรื่องรายได้ สิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพ ใครอัดอั้นตันใจขอให้เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ราชบุรีเป็นเขตทหาร การมีสิทธิเลือกเป็นสิทธิควรจะได้ ไม่ใช่ไม่อยากเกณฑ์ทหารแล้วถูกกล่าวหาชังชาติ แต่เขาควรมีสิทธิ์เลือกอาชีพ

พรรคเพื่อไทยสนับสนุนให้มีสิทธิในการเลือกเกณฑ์ทหาร และเราจะส่งเสริมเยาวชนให้มีศักยภาพสูงขึ้น ประเทศไทยจีดีพีโตขึ้น 2.3 % ต่ำจนน่าอับอายเพื่อนบ้าน ที่เขาโตเกิน 5% นายกฯ คนปัจจุบันไม่เคยเดินหน้าหาตลาดใหม่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะพูดภาษาอังกฤไม่ได้หรือไม่สนใจ

พรรคเพื่อไทยไม่ว่าใครเป็นนายกฯ การเปิดตลาดใหม่ ถือว่าสำคัญที่สุด สำหรับนโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิทัล คนละ 10,000 บาท อย่าให้ใครมาด้อยค่าว่าไม่ดี เพราะเราคิดมาอย่างดีแล้ว ถ้าเปรียบเทียบกับบางพรรคที่ให้ทีละ 500 700 1,000 บาทต่อเดือน ทำอะไรได้เหมือนหยอดน้ำข้าวต้ม แต่นโยบายของเราสามารถทำให้พี่น้องตั้งตัวได้เลย

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะมีนโยบายอื่นมาเสริม เช่น ครอบครัวไหนมีรายได้ต่ำกว่า 20,000 ต่อเดือน เราจะเติมให้ ทั้ง ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่พูดมานั้น จะทำได้ก็ต่อเมื่อประชาชนทุกจังหวัดเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค และถ้าใครบอกเพื่อไทยชนะแล้วอย่าไปเลือกตั้ง ขอให้อย่าประมาท เราพอแล้วกับความทรมาน ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

ต่อมา เวลา 13.10 น. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในนโยบายที่จะเจาะพื้นที่ จ.ราชบุรีที่เป็นพื้นที่ทหารว่า ไม่มีเหตุผลที่จะเจาะไม่ได้ เพราะทหารเองก็เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน เขาเองก็ต้องการกินดีอยู่ดี ต้องการสิทธิเสรีภาพ และเข้าใจในเรื่องที่ตนพูดเป็นอย่างดี ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่มาหนึ่งเดือนหนึ่งก็มั่นใจ ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี เราก็มั่นใจที่จะเดินหน้าขยายผลต่อ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ ที่มีคนพูดว่าพื้นที่ทหารก็ต้องมีคำสั่งนาย นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่กังวล ตนเชื่อว่า ทุกคนมีวุฒิภาวะพอ และมีความเป็นตัวของตัวเอง อะไรที่เขาชอบ อะไรที่เขาอยากได้ อะไรที่พูดจริงทำจริง คิดใหญ่ทำเป็น ตนมั่นใจ

เมื่อถามว่า ล่าสุดมีซูเปอร์โพลระบุว่า พรรค พท. จะไม่แลนด์สไลด์ ได้ไม่ถึง 200 ที่นั่ง นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็รับฟังความคิดเห็น ไม่ได้เป็นอะไรที่บั่นทอน ตนก็ยังเดินหน้าปราศรัย พบปะพี่น้องประชาชน รับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ยังทำงานหนักต่อไป จะมา 160 180 280 เสียง ก็ไม่ทำให้เราย่อท้อ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส ทำงานต่อ

เมื่อถามว่า มองอย่างไรเมื่อโพลของ มติชน-เดลินิวส์ รอบแรก ระบุว่า พรรคที่ได้ที่ 1 คือพรรค พท. ส่วนบุคคลที่อยากให้เป็นนายกฯ คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ได้ที่ 1 ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.ได้ที่ 2 และ นายเศรษฐาได้ที่ 3 นายเศรษฐา กล่าวว่า หลักการเดียวกันกับที่ตนตอบ เรื่องซูเปอร์โพล ถ้าอะไรออกมาไม่ดีเราก็พร้อมรับฟัง แม้จะออกมาดีแต่เราก็พร้อมรับฟังเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา พรรค พท. เอาประชาชนเป็นหลัก เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อถามต่อว่า มองอย่างไรกับผลโพลที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ลำดับรั้งท้ายต่อจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยังมั่นใจอยู่ว่าอย่างไรก็ตาม เสียงฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะ พรรค พท.เรามั่นใจในนโยบายของเรา เรามั่นใจในผู้สมัครเราว่า เรามีดี และน่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า ผลโพลที่ออกมาหลายสำนัก จะเห็นว่าพรรค พท.และพรรค ก.ก. สลับกันตลอด มองว่าพรรค ก.ก.เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับเราหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้มองพรรคอื่นเป็นคู่แข่ง ตนพูดเสมอว่า คู่แข่งของตน คือความลำบาก ยากจน ความไม่เท่าเทียมในสังคม เราต้องแย่งกันที่จะขยายผลเรื่องนโยบาย ส่วนในพื้นที่เมืองที่ พรรค ก.ก. และพรรค พท.ไล่กันมา เราก็คงไม่แก้อะไร เพราะเราพูดในนโยบายที่เราอยากจะทำ อาจจะมีการเน้นบางนโยบายมากขึ้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ