ปราศรัยต่อเวที 3 เศรษฐา ประกาศลั่น พรรคการเมืองไหนร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ต้องยอมรับนโยบาย “เป๋าตังค์ดิจิทัล” วอนหยุดปันใจพรรคร่วมรบ.ประยุทธ์ อ้อนเข้าคูหากาพท. ทั้งคนทั้งพรรค
6 พ.ค. 66 – จากนั้น เวลา 15.20 น. นายเศรษฐาพร้อมคณะ เดินทางปราศรัยต่อเวทีที่ 3 ที่โรงเรียนพิมายวิทยา อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยหาเสียงช่วย นายนิกร โสมกลาง ผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 8 เบอร์ 6 และ นายธีระยุทธ ตันติกุล ผู้สมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 9 เบอร์ 7 โดยมีประชาชนมาฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ปัจจุบันพรรคร่วมรัฐบาลยังมาหาเสียงขอคะแนนเสียงพี่น้องอยู่ ตนเชื่อว่า พี่น้องก็คงปันใจให้กันบ้าง แต่ตนคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องพอ แปดปีที่ผ่านมา มันเยอะพอแล้ว
วันนี้ ตนในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. มาขอร้องพี่น้องประชาชนว่า วันที่ 14 พ.ค. หรือ ในอีกแปดวันข้างหน้า อยากให้เข้าคูหากา พรรคพท. ทั้งสองใบ ทั้งคนทั้งพรรค เราไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ไม่ต้องให้ใครมาบอกว่า ส.ส.เขต ให้เขา ส.ส.พรรคให้ พท. ส.ส.เขตมี 400 คน แล้วแบบนี้พรรค พท.จะเป็นรัฐบาลได้อย่างไร
เราต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เรามีนโยบายดีๆ ทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในสี่ปี เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท เติมเงินให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่นบาทให้ครบ 2 หมื่นบาททุกเดือน
รวมถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่จะเป็นนโยบายหลัก นโยบายใหญ่ ที่แตกต่างจากทุกพรรค ที่ไม่ใช่จะมาให้ทีละ 500 หรือ 1,000 บาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ใครจะมาอยู่ร่วมกับรัฐบาลเรา ต้องเห็นด้วยกับนโยบายนี้
“ถ้าพี่น้องปันใจให้กับพรรคอื่น เกิดเขามาร่วมรัฐบาล แล้วเขาไม่เห็นด้วย ผมจะออกนโยบายเหล่านี้ได้อย่างไร ผมขอความกรุณาขอความเห็นใจ เราขอให้พี่น้องกาเลือกพรรคพท.ทั้งสองใบ ผู้สมัครทั้ง 16 คนของพรรค พท. ต้องได้เป็นตัวแทนของพี่น้องชาวโคราช ทำให้พวกเราตื่นจากความฝัน ตื่นจากความหวัง” นายเศรษฐา ระบุ