เศรษฐา ซัด นายกฯ ผู้นำไร้หัวใจ รัฐบาลไม่ดูแลประชาชน ปลุกพลังประชาชน เลือกเพื่อไทยท่วมท้น หวังคุมทุกกระทรวง แก้ปัญหาจริงจัง
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 เม.ย.2566 ที่สนามกีฬาห้วยขวาง พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายวราวุธ ยันต์เจริญ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม. หาเสียง
ประกอบด้วย นางลีลาวดี วัชโรบล ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 2 เบอร์ 5 ปทุมวัน เขตสาทร และเขตราชเทวี นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 5 เบอร์ 5 ห้วยขวาง และเขตวังทองหลาง (ยกเว้นแขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) นายภัทร ภมรมนตรี ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 6 เบอร์ 1 พญาไท และเขตดินแดง นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 8 เบอร์ 2 จตุจักร (ยกเว้นแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) และเขตหลักสี่ (ยกเว้นแขวงตลาดบางเขน)
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนลำบากกันมาก ค่าแรงขั้นต่ำ 10 ปีที่ผ่านมาอยูที่ 300 บาทต้นๆ แต่รายจ่ายที่ขึ้นไปสูงกว่ารายได้ ทำงานเท่าไรก็ไม่พอกิน ใช้หนี้ไม่พอ การเป็นผู้นำไร้หัวใจ ไม่ดูแลประชาชน พรรคเพื่อไทยยอมรับไม่ได้ รัฐบาลนี้ไม่ดูแลประชาชน
พรรคมีนโยบายทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ประชาชนต้องอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องแบมือขอเงิน แรงงานต้องได้รับค่าตอบแทนเหมาะสม เรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ถูกด้อยค่า ทำไม่ได้ ไม่ต้องห่วงถ้าพท.ได้เป็นรัฐบาลทำได้แน่นอน การถูกกดให้จนแล้วค่อยๆ แจกไม่ใช่วิธีของพรรคเพื่อไทยหมดแล้วยุคที่ทำงานจนตายไม่มีกิน เรื่องการเดินทาง พรรคมีนโยบายรถไฟฟ้าตลอดสาย 20 บาท คนมีรายได้น้อยขึ้นได้ ไม่ได้เอาใจเฉพาะคนชั้นกลาง ส่วนการแก้ปัญหายาเสพติดมีหน่วยงานเกี่ยวข้องเต็มไปหมด พรรคพท.จะทำเป็นนโยบายระดับชาติ จัดการพ่อค้ายาเด็ดขาด ยึดทรัพย์เร็วที่สุด
“ถึงเวลาแล้วที่พวกเราต้องลุกขึ้น วันที่ 14 พ.ค. ผมอยากจะวิงวอนอ้อนวอนทุกคนเข้าคูหากาพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ผู้สมัครส.ส.กทม.คุณภาพที่พรรคคัดเลือกมาทั้ง 33 คน ผ่านการตรวจสอบ ผ่านการคัดสรรอย่างดี เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ ขยันหมั่นเพียร เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง รังเกียจรัฐประหาร มั่นใจว่าหากเขาได้รับความไว้วางใจจากพี่น้อง ทุกคนจะเข้ามาทำหน้าที่ส.ส. เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง นโยบายดีๆ ของพรรคจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น เราไม่สามารถให้บางกระทรวงไปอยู่ในมือบางพรรคได้ เราต้องการทุกกระทรวงให้ทำงานแบบเป็นทีมเดียวกัน เพื่อแก้ปัญหาจริงจัง” นายเศรษฐา ระบุ