เศรษฐา ประกาศลั่นพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 อิ๊งค์ ปลุกเลือกพท.แลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที ฟากพท.จัดอีเวนท์ให้ผู้สมัคร สส.กทม.แห่ใช้รถสาธารณะเข้าลานพาร์คพารากอน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 พ.ค.66 ที่ลานสยามพารากอน พรรคพท.จัดกิจกรรม “แล่นสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง : จากการเดินทางสู่การสร้างมหานครเพื่อคนไทย” โดยให้ผู้สมัครส.ส.กทม.พรรคพท.ทั้ง 33 คนเดินทางมาร่วมกิจกรรมด้วยขนส่งมวลชนมาร่วมกิจกรรมภายในเวลา 1 ชั่วโมง 29 นาที มีแกนนำพรรคเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงงทอง เลขาธิการพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรค
โดยผู้สมัครแต่ละคนเลือกใช้การเดินทางที่หลากหลาย อาทิ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.จตุจักร หลักสี่ เดินทางด้วยรถไฟฟ้า น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัครส.ส.บางรัก พระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ ดุสิต เดินทางด้วยรถสามล้อ น.ส.กมลพัฒน์ ปุงบางกระดี่ ผู้สมัครส.ส.บางขุนเทียน บางบอน โดยสารรถเมล์สาธารณะ
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยและประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส มาร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มารอพบเพื่อสอบถามแนวคิดเกี่ยวกับกัญชาเสรี โดยนายเศรษฐา ระบุว่า นโยบายพรรคพท.ชัดเจน เราไม่เอากัญชาเสรี เราเอากัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น โดยนายชูวิทย์ ตอบกลับว่า พรรคไหนไม่สนับสนุนกัญชาเสรี ตนจะสนับสนุนพรรคนั้น
จากนั้นเข้าสู่ช่วงปราศรัยโดยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพท. โดยน.ส.จิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพท.ปราศรัยว่า สยามถือเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญของกรุงเทพฯ ขณะที่ตนเป็นอยู่พื้นที่กันดาร แห้งแล้งอย่างทุ่งกุลาร้องไห้ จ.ร้อยเอ็ดไม่มีรถไฟฟ้าเหมือนในกรุงเทพฯ เวลาตนจะเดินทางไปเรียนหนังสือต้องรอรถหวานเย็นซึ่งมีน้อย ขณะที่กรุงเทพฯ เป็นศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกทุกสิ่ง เวลาตนมากรุงเทพฯ จึงรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ททำให้ได้สัมผัสได้ถึงความเหลื่อมล้ำเช่นกัน ที่ผ่านมามีรัฐบาลที่คิดโครงการ “อาจสามารถโมเดล” เพื่อใช้ศึกษาและแก้ปัญหาความยากจน โดยมีอดีตนายกฯ ไปกินนอนเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว แต่สุดท้ายความหวังที่พี่น้องจะได้ลืมตาอ้าปาก ก็ถูกพรากไปในการรัฐประหารปี 2549 และในการรัฐประหารปี 2557 ใน 1 ทศวรรษภายใต้การบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นยุคทองของทุนผูกขาด ส่วนประชาชนมีรายได้ลดลง ภาวระรวยกระจุก จนกระจาย ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ คนจนก็จะติดกับดักความยากจน อยู่ในภาวะจนแล้ว จนอยู่ จนต่อ
น.ส.จิราพร กล่าวต่อว่า ตนมีเพื่อนคนหนึ่งที่มีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง พบว่าเพื่อนเรียนจบเพียงแค่ชั้นมัธยมปลาย ขณะที่ตนได้โอกาสที่จะเรียนต่อ และได้เดินคามความฝันของตนเอง สิ่งที่เกิดขึ้นเนื้อแท้ของความเหลื่อมล้ำคือโอกาสที่ไม่เท่ากัน ดังนั้นหลักคิดของพรรคพท.คือต้องทำให้คนเท่ากัน เชื่อว่าคนไทยมีความฝัน ขาดเพียงโอกาส พรคพท.ขออาสาทลายอุปสรรคที่ขวางกั้นความฝันของทุกคน พรรคพท.มีโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน และโครงการรถไฟความเร็วสูงด้วยราคาที่เข้าถึงได้ พี่น้องสามารถกำหนดอนาคตตัวเองได้ผ่านการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด เราจะแก้รัฐธรรมนูญป้องการการทำรัฐประหาร ให้คนทำรัฐประหารเป็นกบฏ ดังนั้นขอให้พี่น้องกาพท.เบอร์ 29 เพื่อให้คนไทยหลุดพ้นความยากจน กาเพื่อเปลี่ยนรัฐบาลด้วยชัยขนะของประชาชน
ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ปราศรัยผ่านระบบซูมว่า ตนอยากมาร่วมงานที่จัดขึ้น วันนี้ร่างกายใกล้เต็มร้อย แต่ใจเกินร้อยไปแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการกำหนดชะตาฝ่ายประชาธิปไตย พรรคพท.เสนอทางออกตามระบอบประชาธิปไตย เอาชนะระบอบที่ไม่เป็นธรรม ที่เสนอให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์เพราะต้องการชนะ 250 ส.ว. ให้ส.ส.จากพรรคพท.ได้เลือกนายกฯ ที่มาจากพรรคพท. นโยบายของเราคิดใหญ่เสมอ เพราะถ้าคิดไม่ใหญ่เอาไม่อยู่ ปัญหาที่เจอกันทุกวันนี้ทำให้ไม่มีทางเลือก ไม่มีทางออกในการทำมาหากิน ถ้าพท.ได้เป็นรัฐบาลจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ยิ่งนโยบายสำเร็จเมื่อไหร่ ประเทศชาติจะดีขึ้นเร็วเท่านั้น เพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศเปลี่ยนทันที และกรุงเทพฯจะเป็นมหานครแห่งโอกาส กรุงเทพฯต้องเป็นมหานครที่ง่ายกว่าเดิม ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 จะได้รับการแก้ไขทันที รถไฟฟ้าจะกลายเป็นการเดินทาง 20 บาทตลอดสาย ค่าน้ำค่าไฟจะถูกลง เราต้องเป็นประเทศที่ปลอดยาเสพติด นำเทคโนโลยีเข้ามาทำให้ชีวิตประชาชนง่ายขึ้น จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐเพื่อทำตามความฝัน เช่น กระเป๋าตังค์ดิจิทัล เราต้องช่วยกันทำโอกาสและความฝันให้เป็นจริงให้ได้ ลูกหลานจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตจากประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ค. จะไม่เก็บเกี่ยวผลไม้พิษจากรัฐประหารอีกแล้ว เราอยากทำให้ทุกความต้องการของคนไทยเป็นจริงได้ ภายใต้รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย 14 พ.ค.นี้ขอให้เลือกพท.ทั้งสองใบเราพร้อมแล้วที่จะรับใช้ประชาชน
ขณะที่นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเห็นใจคนกรุงเทพฯ ที่ปากกัดตีนถีบไม่ได้เดินตามความฝัน ทั้งรายจ่ายที่สูงขึ้น รายได้ลดลง อุปสรรคเหล่านี้เป็นสิ่งกีดขวางความฝันประชาชน ถ้าพท.ได้เป็นรัฐบาลมีหลายอย่างที่เราจะทำ ผู้นำที่มาจากพรรคพท.มีความพร้อม มีความตั้งใจในการแก้ปัญหา ตนเคยถูกถามถ้าได้เป็นนายกฯ อย่างแรกที่จะทำคืออะไร จะทำอย่างเดียวไม่ได้ต้องทำหลายอย่าง ปัญหาปากท้องเป็นปัญหาที่ประชาชนเดือดร้อน 8 ปีที่ผ่านมาเรามีผู้นำที่ไร้หัวใจ ไม่เข้าใจความยากลำบากของประชาชน ค่าไฟต้องจัดการทันที ค่าแรงขั้นต่ำจะขึ้นทันที ทุกคนต้องมีสิทธิพื้นฐานในการเลือกอาชีพ ทหารไม่ได้เป็นอาชีพเดียวที่รักชาติ ถ้าชายไทยอายุ 20 ปีประสงค์ทำอาชีพอื่นเขาควรได้รับอิสรภาพและสิทธินั้น แต่การบังคับให้เกณฑ์ทหารเป็นการลิดรอนสิทธิพื้นฐานประชาชน ถ้าพท.ได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ลูกหลานของเราต้องไม่ถูกบังคับให้เกณฑ์ทหาร ส่วนกรณีที่มีความเห็นต่างเรื่องชังชาติ ตนน้อยเนื้อต่ำใจมาก ที่พอคนรุ่นใหม่มีความเห็นต่างเรื่องเกณฑ์ทหารหรือเรื่องอื่นๆ แล้วขับไล่เขาออกจากประเทศที่เขารัก คนที่ออกไปได้เป็นคนมีศักยภาพ เราเสียบุคลากรสำคัญออกไป เราควรมีพื้นที่ให้ลูกหลานแสดงความคิดเห็นภายใต้กรอบไม่ก้าวร้าว เรารับไม่ได้ถ้าคนในรัฐบาลปัจจุบันบอกคนเห็นต่างเป็นคนชังชาติเชิญออกไป ถึงเวลาที่รัฐบาลนั้นต้องเปลี่ยนออกไปรวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ออกมาแก้ไข
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการพัฒนากรุงเทพฯว่า ตนหวังว่ากรุงเทพฯ จะเป็นศูนย์กลางของความหลากหลายทางความคิด ความเสมอภาคและเท่าเทียม เรื่องเศรษฐกิจ กรุงเทพฯ มีคนอยู่มากเพียงพอ มีโรงเรียนนานาชาติ มีโรงพยาบาลระดับโลก เป็นเป้าหมายของบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลก เราได้ไปเชิญเขาหรือไม่ว่าเมืองนี้มีอะไรดีๆ บ้าง เป็นหน้าที่ผู้นำประเทศที่ต้องไปเชื้อเชิญ ไม่ใช่ไปแค่ไม่กี่ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ยังมีประเทศในแถบแอฟริกาที่มีประชากรจำนวนมาก เราต้องเดินทางออกไป เอาคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจและเอกชนออกไปเจรจาการค้า สำหรับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเป็นเรื่องใหญ่ เราจะใช้บัตรใบเดียว ต่อไปไม่ใช่แค่คนชั้นกลางที่จะมาใช้บริการ แต่คนชั้นล่างจะมาใช้บริการได้ด้วย จะช่วยลดความแออัดไม่ต้องกระจุกอยู่แต่ในเมืองหลวงให้คนออกไปอยู่ชานเมืองได้ สำหรับจุดยืนพท.ในเวทีโลก เราเป็นประเทศเล็กแต่น่าภูมิใจในเอกราช ผู้นำต้องไปแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนการรุกรานประเทศอื่น รวมถึงการใช้อาวุธสงครามรุกล้ำอธิปไตยประเทศอื่น ด้านวินัยการเงินการคลังเราจะใช้ภาษีอย่างระมัดระวัง เพราะเราตระหนักดีที่ปัจจุบันหนี้สาธารณะสูงถึง 60% ต่อจีดีพี หนี้ครัวเรือน 90% ต่อจีดีพี เราไม่มีเวลาให้ใครก็ตามเข้ามาลองของ ต้องเป็นผู้นำตัวจริงเท่านั้น ถึงเวลาที่เราต้องการผู้นำที่มีประสบการ พรรคที่มีนโยบายเข้าใจปัญหาของประชาชน
“วันนี้ผมมีความพร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย แต่ผมไม่ได้อยากเป็นนายกฯเพราะได้ชื่อว่าเป็นนายกฯ ผมมายืนตรงนี้ มาที่นี้ ผมอยากเป็นนายกฯ ที่นำซึ่งความเปลี่ยนแปลง ถ้าผมไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ ผมไม่เป็นดีกว่า ผมจะเป็นนายกฯ ที่จะนำมาซึ่งอนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานทุกคน ประสบการณ์ 30 ปีในวงการธุรกิจสร้างบริษัทจนเป็นแนวหน้าของประเทศ ผมมีความพร้อม ผมมาอยู่พรรคพท.ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน วันนี้พรรคพท.มีทั้งคนที่มีประสบการณ์ มีคนรุ่นใหม่ที่เอาประชาชนเป็นที่ตั้ง 4 ปีที่แล้วเราพลาดไป 17 ที่นั่ง เป็นจุดเปลี่ยนประเทศที่ทำให้ประเทศตกสู่หลุมดำ จนทำให้ จนแล้ว จนอยู่ จนอีก วันที่ 14 พ.ค. พรรคพท.พร้อมทุกมิติ เป็นวันคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนคนไทยทุกคน นโบายดีๆ ที่พูดไปจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าพรรคพท.ไม่ได้รับการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์” นายเศรษฐา กล่าว