เศรษฐา นั่งรถแดงปราศรัยประตูท่าแพ คนเชียงใหม่ฟังแน่น ลั่นประชุมครม.นัดแรก เสนอตั้งสสร.ร่างรธน.ฉบับปชช. ปลุกเลือกพท.เกิน 300 เสียงดับ 250 สว. “อิ๊งค์” อ้อนอย่าปันใจ เลือกพท.ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 10 พ.ค.66 ที่ประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรค นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย เพื่อช่วยผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทยทั้ง 10 เขต
ประกอบด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม เขต 1 นายโกวิทย์ พิริยะอานันต์ เขต 2 น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ เขต 3 นายวิทยา ทรงคำ เขต 4 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ เขต 5 น.พ.ไกร ดาบธรรม เขต 6 นายนิธิกร วุฒินันชัย เขต 7 นายณัฏฐ์พัฒน์ รัฐไผท เขต 8 นายสุรพล เกียรติไชยากร เขต 9 และ น.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ เขต 10 หาเสียง มีประชาชนรอรับฟังจนเต็มพื้นที่ โดยนายเศรษฐาได้เดินทางมาที่เวทีปราศรัยด้วยการนั่งรถสองแถวแดงสัญลักษณ์ประจำจ.เชียงใหม่
นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า ตนเข้าใจตลอดว่านายกฯ ที่ประชาชนอยากให้กลับบ้านที่สุดคือนายทักษิณ แต่เวลาที่ผ่านมา 9 ปี ตนเพิ่งเข้าใจว่านายกฯ ที่ประชาชนอยากให้กลับบ้านมากที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ผ่านมาไปหาเสียงที่ไหนบอกจะเป็นนายกฯ แต่ไม่เคยกล้าบอกจะชนะเลือกตั้ง ต่างกับเพื่อไทยที่เรามั่นใจว่าชนะเลือกตั้ง เขากำลังจะสร้างเกมเดิมมาหลอกกันอีกแล้ว คือเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ ประยุทธ์ไม่เป็นนายกฯ วุ่นวายแน่นอน เป็นวาทกรรมจอมปลอม ประเทศจะสงบอย่างไรเพราะพรรคของคุณลูกน้องยังทวงตังค์อยู่เลย เรื่องที่ตนอยากบอกประชาชนคือ 9 ปีมันนานเกินไป จับวิญญาณร้ายวิญญาณเหล่านี้ใส่หม้อถ่วงน้ำโดยกาเพื่อไทย ถ้าหยุด พล.อ.ประยุทธ์และพวกได้บ้านเมืองไปยาว ถ้าหยุดไม่ได้ประเทศไม่มีทางเดินเร็วกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ดังนั้นเป้าหมายของเราคือต้องตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ พรรคฝ่ายประชาธิปไตยต้องชนะเด็ดขาด พรรคที่ชนะเกินครึ่งได้มีเพียงเพื่อไทยเท่านั้น ไม่มีพรรคอื่น และวันนี้คนที่มาฟังปราศรัยใส่เสื้อแดงของพรรคเพื่อไทย แต่เชื่อว่าหลายคนมีเสื้อแดงอีกตัวอยู่ที่บ้านยังเก็บอยู่ในตู้ ขอให้หยิบเสื้อตัวนั้นออกมาแล้วขับไล่เผด็จการไปด้วยกันอีกครั้งด้วยการเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคพท. ปราศรัยผ่านซูมว่า สวัสดีพ่อแม่พี่น้องชาวเชียงใหม่ คิดถึงชาวเชียงใหม่อยากไปมาก เสียดายมากที่ไม่ได้ไปวันนี้ขอส่งใจไปก่อน ใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกที พี่น้องชาวเชียงใหม่ยังรักเพื่อไทย ดีใจที่มากันวันนี้ พรรคเพื่อไทยเห็นศักยภาพชาวเชียงใหม่ เราอยากใช้ประสบการณ์ที่เคยเป็นรัฐบาลมาตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน เข้ามาพัฒนาเชียงใหม่ เรามีนโยบายดีๆ มากมาย นโยบายต่างๆอาจดูไกลเพราะ 8-9 ปีทำให้ประชาชนหมดหวัง แต่พรรคเพื่อไทยมาแล้วเอาความหวังที่ไม่ลมๆแล้งๆมาให้ชาวเชียงใหม่และคนทั้งประเทศ เราอยู่ได้เพราะนโยบายที่ทำสำเร็จ ถ้าเราเป็นรัฐบาลอีกครั้งก็จะทำให้นโยบายสำเร็จเช่นกัน เราจะเอาความเจริญมาให้ชาวเชียงใหม่และคนทั้งประเทศ ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุ่มเททำเพื่อประชาชนมานาน 20 ปี แม้เปลี่ยนชื่อพรรคบ่อยครั้ง แต่มีความตั้งใจทำให้ประชาชน ขอให้มั่นใจในพรรคเพื่อไทยเข้าคูหากาเพื่อไทย วันนี้นับถอยหลังสู่การเลือกตั้งเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ขอให้พี่น้องอย่าปันใจเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ที่เชียงใหม่ ตนรอวันพาลูกๆ ไปเที่ยวเชียงใหม่ ถ้าเจอตนขอให้เข้ามาทักทายหลังเลือกตั้ง รับรองเชียงใหม่เราเจอกัน
จากนั้นนายเศรษฐาขึ้นเวทีพูดคุยกับนายณัฐวุฒิ โดยนายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้พร้อมเป็นนายกฯ 8 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สิทธิเสรีภาพเลวร้ายมาก เป็นสิ่งทำให้ตนเข้ามาสู่เส้นทางการเมือง จากนี้ไปอีก 4 ปีถ้านายกฯมาจากพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยได้คุมกระทรวงหลัก ความยากจนต้องหมดไป สิทธิเสรีภาพประชาชนจะถูกคืน การประชุมครม.นัดแรก ลดค่าไฟทันที เสนอตั้ง ส.ส.ร.ร่วมกันเขียนรัฐธรรมนูญให้ประชาชนเลือกมาเลย การเลือกเพศสภาพ และสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพจะต้องเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหาร วันนี้ดัชนีด้านเศรษฐกิจทุกตัวน่ากลัวมาก ตนมีประสบการณ์ทางธุรกิจมา 30 ปี มีความตั้งใจช่วยเหลือประชาชน เดินเข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองที่มีมานาน มีนโยบายดีๆพร้อมทีมงานที่จะเข้ามาร่วมกันทำงาน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเสนอแคนดิเดตนายกฯ 3 คนนั้น เพราะเสนอคนเดียวอันตรายมาก บางพรรคเสนอคนเดียวถูกร้องเรียนไปแล้วเรื่องถือหุ้น พรรคเพื่อไทยถูกรัฐประหารสองหน โดนกลั่นแกล้งจากกระบวนการยุติธรรมมากมาย ถ้าเสนอคนเดียวหรือบอกว่าใครเป็นเบอร์หนึ่ง จะเป็นการชี้เป้าให้คู่แข่งเตะตัดขาเราได้ แต่ยืนยันแคนดิเดตทั้งสามคนของพรรคเพื่อไทยทำงานร่วมกันเป็นทีม ส่วนกระแสข่าวถ้าพรรคเพื่อไทยได้ที่หนึ่งจะไปจับมือกับสองลุงนั้น ตนจินตนาการไปถึงอย่างนั้นไม่ได้ ยืนยันเราจะยึดโยงกับพรรคการเมืองที่มีนโยบายยึดโยงกับประชาธิปไตย เราจะเดินไปด้วยกัน
“ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ส.ส. 251 ไม่พอ เพราะไม่เชื่อว่าส.ว.จะไม่ทำตามฉันทามติของประชาชน ดังนั้นเราไม่ต้องพึ่งส.ว. เป็นความจำเป็นในการเลือกตั้งที่เราต้องได้มากกว่า 300 เสียง เพื่อให้ยืนด้วยขาของตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งส.ว. ดังนั้นแค่ 251 ไม่พอเราต้องการมากกว่านั้น 376 เสียงยิ่งดี” นายเศรษฐา ระบุ