เล่นแล้วเล่าประสบการณ์ครั้งแรกกับ "MacBook Air รุ่น 15" ใหม่

Home » เล่นแล้วเล่าประสบการณ์ครั้งแรกกับ "MacBook Air รุ่น 15" ใหม่
เล่นแล้วเล่าประสบการณ์ครั้งแรกกับ "MacBook Air รุ่น 15" ใหม่

ไม่บ่อยนักที่พวกเราทีมงาน Sanook!  Hitech จะรับงานรีวิวของชิ้นใหญ่และรายละเอียดเยอะแบบนี้ ด้วยเวลาของการทำงานและกลัวว่าจะทดสอบและไม่สามารถเรียนรู้แล้วเข้าถึงความสามารถสินค้าใหม่ๆ ได้ดีเท่าที่ควรเลยไม่ค่อยรับงานรีวิว

แต่สำหรับแล็ปท็อปของแอปเปิลอย่าง MacBook Air รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้ช่างยั่วย่วนให้เราอยากทดสอบจนสามารถชนะความกลัวที่มี ทำให้เราได้เขียนบทความนี้ให้เพื่อนๆ Sanook ได้อ่านกัน

รายละเอียดสเปกของ MacBook Air 15 นิ้ว  

  • ขนาด :  34.04 x 23.76 x 1.09 ~ 1.15 เซนติเมตร      
  • น้ำหนัก : 1.51 กิโลกรัม
  • หน้าจอ  : จอภาพแบ็คไลท์แบบ LED ขนาด 15.3 นิ้ว (แนวทแยง) พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2880 x 1864 ที่ 224 พิกเซลต่อนิ้ว ความสว่าง 500 nits 
  • ชิปเซ็ตประมวลผล : Apple Silicon M2 8 Core 
  • ชิปประมวลผลกราฟิก : GPU 10 Core 
  • RAM : 8GB/16GB/24GB 
  • ความจุ : 256GB/512GB/1TB/2TB   
  • กล้องหน้า : Full HD Camera        
  • ตัวเชื่อมต่อ (Port)         
    • พอร์ตชาร์จ MagSafe  
    • ช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. 
    • พอร์ต Thunderbolt / USB-C จำนวน 2 พอร์ต  
  • ลักษณะ Keyboard : Backlit Chiclet Keyboard พร้อมไฟเรืองแสง 
  • กล้อง Webcam : ความละเอียด FHD+     
  • เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 AX (Wi-Fi 6E) + Bluetooth 5    
  • ระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้าผ่าน Iris Scanner  
  • ลำโพง : 6 จุด 
  • ไมโครโฟน : 2 ตัว  รองรับระบบ Voice Isolation ลดเสียงรบกวน   
  • ระบบปฏิบัติการ : macOS   
  • แบตเตอรี่ขนาด 66.5 Wh 
  • ที่ชาร์จแบบ ทั้งแบบ MagSafe ,Power Delivery USB-C กำลังสูงสุด 70W   
  • สีเครื่อง : เงิน, สตาร์ไลท์,เทา, สเปซเกรย์, มิดไนท์ 

มาแกะกล่องกัน 

ภายในกล่องประกอบด้วย 

  • MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว 
  • อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB‑C ขนาดกะทัดรัดแบบพอร์ตคู่ขนาด 35 วัตต์ 
  • สาย USB‑C เป็น MagSafe 3 (2 ม.) 
  • สติ๊กเกอร์ Apple 

dsc02330
dsc02332
dsc02333
dsc02334สาย USB-C เป็น MagSafe 3 (2 ม.)
dsc02335สาย USB-C เป็น MagSafe 3 (2 ม.)
dsc02336อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C

แรกเห็นรูปลักษณ์หน้าตา 

เริ่มต้นกับดีไซน์ด้านหน้าเรียบแต่ดูดีและดูยังไงก็บอกได้ชัดเจนว่า นี่คือเครื่อง Mac เพราะโลโก้ Apple ที่อยู่ด้านหน้าใหญ่มาก จนเห็นเด่นชัด และ แต่รุ่นนี้ไม่ได้แสดงไฟเหมือนแต่ก่อน

dsc02332

วัสดุทั้งหมดเป็นอลูมิเนียมที่ต้องระวังรอยนิ้วมือติด แต่ทั้งหมดไม่ยากที่จะลบ แค่ใช้ผ้าเท่านั้น พอร์ตเสียบมีให้ครบเครื่องจากฝั่งซ้ายเป็น MagSafe, USB-C / Thunderbolt 3 จำนวน 2 ช่อง ฝั่งขวามีแค่ช่องเสียบหูฟัง 

batch_img_4905

batch_img_4906

batch_img_4909
batch_img_4911

1687338438173

เมื่อเทียบด้านข้างกับ MacBook Pro พบว่ารุ่น MacBook Air 15 นิ้วจะบางกว่าชัดเจนมาก

batch_img_4930

ด้านหลังมีข้อบานพับที่สามารถกางหน้าจอได้สูงสุด 165 องศา  

batch_img_4927

ด้านหลังมีที่เปิดหน้าจอ ตัดเว้นวางเอาไว้และดูดี 

batch_img_4926

พลิกด้านล่างมีแผ่นยางกันลื่น และยังมีฝาที่เรียบส่วนหนึ่งคือจะมีช่องระบายอากาศและเป็นที่อยู่ของ Mainboard  

เมื่อเปิดฝาเครื่อง  

คุณจะได้พบกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 15.3 นิ้ว ซึ่งจัดว่าใหญ่มากแต่ ขอบหน้าจอเมื่อเทียบกับรุ่น Pro แล้วจะเยอะกว่าพอสมควร ตำแหน่งกล้องยังอยู่ที่เดิมและยังรองรับ Center State  

batch_img_4917

ส่วน Keyboard ยังให้อารมณ์การกดที่มีความแน่นอยู่ระดับหนึ่ง แต่เนื่องจากการออกแบบที่เรียบอาจจะทำให้คนที่ไม่ใช้สายพิมพ์ ไม่ชอบ เพราะมันจะมีอาการคมๆ แต่การกดผิดนั้น ยากอยู่  

น้ำหนัก / การจับถือ 

จากที่ได้ลองถือสัมผัสก็พบว่าตัวเครื่องมีความบางอยู่พอสมควรและกลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดหน้าจอ  15  นิ้วที่เบาที่สุดเลยก็ว่าได้ แต่สีสันของรุ่นนี้จัดหนักถึง 4 สีด้วยกัน เลือกได้ตามความสะดวก แต่เครื่องที่เห็นเป็นสี MidNight 

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง 

batch_img_4883

สำหรับหน้าจอของ MacBook Air ขนาด 15 นิ้ว จะมีความละเอียด 2.8K ความละเอียดเยอะอยู่ เวลาดูหนังถือว่าโดดเด่นอยู่ เพราะไม่ว่าจะทำงานเอกสาร หรือจะดูหนังหน้าจอใสๆ ของ MacBook Air ตัวนี้ยังตอบโจทย์อยู่ครับ

batch_img_4901

ส่วนระบบเสียงของรุ่นนี้มาพร้อมกับ ลำโพงถึง 6 ตัวด้วยกัน รองรับ Dolby ATMOS ถือว่าเยอะกว่ารุ่นปกติ พอสมควร ให้เสียงที่มีมิติมากขึ้น จากการลองฟังไม่ได้เน้นความดัง แต่เน้นความครบมากกว่า เพราะมีข้อสังเกตที่อยากจะบอกนั่นคือ ถ้าฟังในที่เงียบๆ จะดังดีสิ่งที่ให้เป็นข้อสังเกตคือ ด้วยความบางของเครื่องที่จัดว่า มาก ทำให้เสียงที่ออกมา ยังไม่มีมิติมากนัก ถ้ารับได้ก็ถือว่ารอด แต่ถ้ายังไม่สาแก่ใจ แนะนำ เสียบลำโพง หรือ ใช้หูฟังไร้สายก็ได้ เพราะมันก็เชื่อมต่อกับ AirPods ได้ง่าย 

ประสิทธิภาพ / การเชื่อมต่อ  

batch_img_4906

ด้วยขุมพลัง M2 ของ MacBook Air ที่เหมือนกับรุ่น 13 นิ้ว จึงให้ประสิทธิภาพที่ดีและลื่นอยู่ รองรับการทำงานที่หลากหลาย รวมถึงการเล่นเกมที่เรียกได้ว่าไม่แพ้รุ่นที่สูงกว่านแน่นอน แถมยังประมวลผลกราฟิกได้ แต่ถ้าใครมองว่าสเปกพื้นฐานยังไม่พอ สามารถอัปเกรดเพิ่มได้ เตรียมเงินไว้ด้วยก็ดีนะ

ส่วนการเชื่อมต่อนอกจาก USB-C ที่เป็น Thunderbolt 3 แล้วยังสามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E, Bluetooth และยังรองรับ AirPlay, AirDrop ได้ด้วย  

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ / ระบบความปลอดภัย 

batch_img_4891

MacBook Air ขนาด 15 นิ้ว มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ macOS Ventura ที่ยังมีการอัปเดตไปต่อกับ MacOS Sonoma แน่นอน เอาเป็นว่ามันลื่นไหลและเชื่อมต่อกับ Eco System ของ Apple ได้ดีและยังต่อกับ iPad ให้รองรับออกหน้าจอที่ 2 ได้ด้วยครับ 

ฟีเจอร์เบื้องต้นจะขึ้นกับเวอร์ชั่น โดยรอบนี้จะมี Stage Manager ให้คุณสลับโปรแกรมได้สะดวกเพราะอยู่ทางซ้ายมือ และรวมถึง Center State ก็จะมีให้คุณเลือกใช้งานอยู่ เท่ากับหน้าจอเคลื่อนไหวตามที่คุณหันไป รองรับหลายโปรแกรม แต่ถ้าไม่ใช่กล้อง Webcam ให้มุมมองที่กว้างเอาเรื่องเลย 

batch_img_4920

ระบบความปลอดภัยนอกจากการเข้ารหัสของ Files และมี iCloud แล้วการเข้าถึงของเครื่องจะมีระบบ Touch ID ไว้แตะเพื่อเข้าสู่ระบบของเครื่องได้ด้วย 

แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ 

สาย USB-C เป็น MagSafe 3 (2 ม.)

สำหรับแบตเตอรี่ของ MacBook Air 15 นิ้วจะมีขนาด 66.5Wh ถือว่าใหญ่ เคลมว่าใช้งานได้นานสุดอยู่ที่ 18 ชั่วโมง ใช่ครับ ถ้าใช้งานทั่วไปอยู่ถึงแน่นอน แต่ถ้ามีการทำงานกราฟิกขึ้นมาเมื่อไหร่ แบตเตอรี่ ก็จะอยู่ได้สั้นลงแล้วภาระงาน 

สำหรับระบบชาร์จไฟสามารถเลือกชาร์จได้หลักๆ 2 ระบบได้แก่ เสียบ USB-C หรือจะเป็น MagSafe ซึ่งในกล่องจะให้สาย MagSafe ตามสีเครื่อง พร้อมกับ Adapter กำลัง 35W ที่เป็นแบบช่องคู่ ทั้งนี้เวลาซื้อหน้าร้านสามารถเพิ่มได้ โดยไม่ต้องเพิ่มเงิน โดยจะเป็นที่ชาร์จกำลัง 70W  

แต่ถ้าไม่อยากใช้ของ Apps สามารถซื้อที่ชาร์จค่ายอื่นมาเสียบชาร์จได้ แต่กำลังควรต่ำกว่า 65W เพื่อความปลอดภัย และมั่นใจว่าจะชาร์จไฟได้ 

สรุปหลังสัมผัส MacBook Air 15 นิ้วมาสักพักชอบอะไรไม่ชอบอะไรบ้าง 

batch_img_4879

มาถึงจุดที่ต้องพูดสรุปกันแล้วกับ MacBook Air 15 นิ้วตัวนี้ เป็นอีกคอมพิวเตอร์ที่สร้างความประทับใจแรกเห็นและเวลาใช้งานจริงก็ยังรู้สึกเพียงพอ ถ้าคุณไม่ได้เน้นงานกราฟิกที่มากเกินไปนัก แต่อยากได้หน้าจอใหญ่ ไว้ดูหนังหรือทำงานกลางๆ วันหยุดมีตัดวิดีโอแชร์บน Social บ้าง ตัวเลือกนี้ถือว่าเหมาะ สำหรับราคามีดังนี้

  • MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2 เริ่มต้นที่ ฿39,900
  • MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว พร้อมชิป M2 ใหม่ เริ่มต้นที่ ฿47,900

มีให้เลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 4 สีคือ มิดไนท์, สตาร์ไลท์, เทาสเปซเกรย์ และเงิน ทั้งนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ  MacBook Air รุ่น 15″ ใหม่ ได้ที่ Apple Store หรือสามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ www.apple.com/th/shop

สำหรับบทความนี้ขอสรุปว่า คนที่หาคำตอบให้ตัวเองในการมองหาคอมพิวเตอร์สักเครื่องเน้นจอใหญ่ น้ำหนักเบา และ ประสิทธิภาพทำงานได้ดี มี Keyboard กดแล้วให้ความรู้สึกที่ดีและที่สำคัญคือ ไม่อยากได้ความ Pro จนเกินยไป MacBook Air 15 นิ้วเป็นคำตอบที่ดีอีกรุ่นหนึ่ง  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ