หยุดความสับสน ควรใช้ “สายฉีดชำระ” หรือ “กระดาษชำระ” เข้าห้องน้ำทุกวัน แต่หลายคนยังเข้าใจผิด!

เมื่อเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ควรจะใช้กระดาษชำระ หรือสายฉีดชำระ เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย บางคนบอกว่าการใช้กระดาษดีกว่า แต่บางคนบอกว่าการใช้น้ำจากสายฉีดชำระล้างถูกสุขลักษณะมากกว่า

ในประเด็นนี้วัฒนธรรมทั่วโลกยังถูกแบ่งออกเป็น 2 อย่าง โดยชาวอเมริกันภักดีต่อ “กระดาษชำระ” เมื่อไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่ประเทศอื่นๆ บางประเทศ เช่น อิตาลี กรีซ ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับ “สายฉีดชำระ” เป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาให้ล้ำหน้ามากขึ้น กลายเป็น “โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ” หรือชักโครกไฟฟ้า ผู้ใช้เพียงแค่กดปุ่มสั่งงาน และหัวฉีดน้ำที่ซ่อนอยู่ถายในโถส้วม จะปล่อยน้ำออกมาทำความสะอาด ซึ่งสามารถเลือกปรับหัวฉีดได้หลายแบบ และความแรงหลายระดับ

เรื่องนี้ไม่ใช่เล่นๆ เพราะกลายเป็นหัวข้อถกเถียงที่ “ร้อนแรง” ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยและสุขภาพด้วยซ้ำ หลังตากที่เมื่อก่อนเคยเถียงกันว่าจะนั่งยองๆ หรือนั่งบนโถส้วม

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ได้รับการชี้แจงแล้ว จากการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ ที่พบว่าการใช้ “กระดาษชำระ” นั้น… สกปรกมาก และอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่อสุขภาพได้ เช่น การติดเชื้อ หรือแผลปริที่ขอบทวารหนัก (Anal Fissure)

ดร.อีเวน โกลด์สตีน ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนักในนิวยอร์ก กล่าวว่า การเช็ดด้วยกระดาษชำระธรรมดาสามารถขจัดคราบได้ แต่ไม่ได้ทำความสะอาดจริงๆ อีกทั้งหากเช็ดกระดาษชำระแห้งแรงเกินไปและบ่อยเกินไป อาจก่อให้เกิดความเจ็บปวด หรือผิวหนังจะฉีกขาดและมีเลือดออกได้

“การใช้กระดาษชำระก็เหมือนกับเวลาที่รองเท้าเหยียบอุจจาระ เราก็แค่เช็ดด้วยกระดาษโดยไม่ต้องซักรองเท้า ” เขากล่าว

ดร.โกลด์สตีน ยังกล่าวด้วยว่า กระดาษชำระไม่เพียงแต่ทำความสะอาดได้ไม่ดีเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดการบาดเจ็บได้อีกด้วยหากเช็ดแรงเกินไปหรือหลายครั้งเกินไป ผิวหนังบางๆ ในทวารหนักก็อาจฉีกขาด นอกจากนี้ การเช็ดจากหลังไปหน้าอาจทำให้แบคทีเรียเข้าไปในทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่เป็นอันตรายได้

ในขณะเดียวกันที่ฉีดชำระในโถสุขภัณฑ์ จะทำงานโดยการพ่นน้ำปริมาณเล็กน้อยเพื่อชะล้างของเสียที่หลงเหลืออยู่ออกไปและจากนั้นสามารถค่อยๆ เช็ดน้ำที่เหลือออกด้วยกระดาษชำระได้

ดร.โกลด์สตีน กล่าวว่า ความปลอดภัยของที่ฉีดชำระนั้น ขึ้นอยู่กับแรงดันน้ำและอุณหภูมิ ในขณะเดียวกันผู้หญิงที่ใช้ที่ฉีดชำระล้างมากเกินไป อาจทำให้ค่า pH ในช่องคลอดไม่สมดุล ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายเจริญเติบโต นำไปสู่การติดเชื้อทางนรีเวชได้

ทางด้าน ดร.คริสติน ลี แพทย์ทางเดินอาหารจากคลีฟแลนด์คลินิก สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า หัวฉีดชำระมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว เช่น ผู้ที่เป็นโรคข้ออักเสบ โรคอ้วน หรือโรคพาร์กินสัน และการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร และรอยแยกทางทวารหนักได้ เนื่องจากแรงน้ำที่อ่อนโยนจะช่วยลดแรงกดในทวารหนัก

อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยก็พบด้วยว่า โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ รวมถึงสายฉีดชำระ อาจมีแบคทีเรียปนเปื้อนได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง

“ถ้าดูแลรักษาความสะอาดอย่างถูกต้อง การใช้หัวฉีดชำระจะดีมาก ดีกว่ากระดาษชำระ” ดร.ลี กล่าว

• ประตูห้องน้ำ ควรปิดหรือเปิดเมื่อไม่ใช้งาน ชีวิตประจำวันที่หลายคนยังสับสน
• นศ.ปล่อยโฮ อายุแค่ 20 เป็นมะเร็งปากมดลูก หมอชี้สาเหตุ “กระดาษชำระ” ที่เลือกใช้