แก๊งตร.เก๊หัวเกรียนขับรถจี้เก๋งให้จอด ขอค้นรถคาดจะกรรโชกทรัพย์ สุดท้ายเกม คนในรถเป็นตร.จริง เลิ่กลั่กทั้งแก๊ง ยกมือขอโทษหนีอย่างไว
วันที่ 26 ม.ค. 65 ที่ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พ.ต.ท.สุรพล ต้อยจัตุรัส รองผู้กำกับสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอ่างทอง ควบคุมกลุ่มชายฉกรรจ์ตัดผมเกรียน จำนวน 5 คน มาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.โพธิ์ทอง หลังขี่รถจักรยานยนต์ประกบรถเก๋งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมโชว์บัตรตำรวจให้ดูจะขอตรวจค้น แต่อีกฝ่ายตอบกลับว่าเป็นตำรวจเหมือนกัน จึงขอโทษและขี่รถจักรยานยนต์หนีไป
เบื้องต้นพบว่ามี 2 คน ที่ปลอมแปลงนำรูปหน้าของตนไปใส่ในบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ ระบุตำแหน่ง ส.ต.ต. และ ส.ต.ท. สังกัด กก. อารักขา 1 บก.อคฝ. ส่วนชื่อนั้นไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนที่ทั้ง 2 คนถืออยู่ ภายในรถยนต์กระบะพบเสื้อกั๊กปักด้านหลัง สอบสวนกลาง อาร์มตำรวจ กก. 1 บก.ปคบ. กุญแจมือ ป้ายทะเบียนรถ สายรัด และเงินสดจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวว่า ใช้เอกสารข้าราชการปลอมและบัตรปลอม พร้อมขยายผลรอผู้ที่เสียหายมาทำการแจ้งความเพิ่มเติม
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลา 10.30 น. วันที่ 26 ม.ค. บริเวณถนนโพธิ์ทอง – อ่างทอง หน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลโพธิ์ทอง อำเภอโพธิ์ทอง ขณะที่ ส.ต.ต.ธีรดลย์ บัววิชัย และ ส.ต.ต.นรากร พี่พิมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รำมะสัก ได้ขับรถยนต์เก๋งเดินทางไปทำธุระ ซึ่งขณะเดินทางถึงที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีดำและรถจักรยนต์ ขับขี่ตามมาและเรียกให้จอดข้างทาง และมีชายฉกรรจ์ตัดผมเกรียน บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมชูบัตรประจำตัวให้ดู ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รำมะสัก ทั้ง 2 นาย ได้แจ้งว่าก็เป็นตำรวจเหมือนกัน
ทางชายหัวเกรียนดูท่าทีมีพิรุธและได้ขอโทษ จึงได้ทำการประสานกับ ส.ต.ต.นิติรัฐ บุญพอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง ที่เป็นเพื่อนกัน พร้อมกับมีการประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง เพื่อสอบถามรายละเอียด และได้ทำการติดตามควบคุมชายหัวเกรียนทั้ง 5 คน มาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.โพธิ์ทอง
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหากับชายหัวเกรียนทั้ง 5 คน ใช้รูปใบหน้าตนเองไปติดอยู่ที่บัตรประจำตัวของข้าราชการตำรวจ แต่มีชื่อไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนของทั้ง 5 ในข้อหาใช้เอกสารข้าราชการปลอมและบัตรปลอม ส่วนที่เหลือนั้นรอขยายผลจากผู้ที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จากการกระทำของทั้ง 5 คน มาทำการแจ้งความเพิ่มเติม เพื่อทำการสอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับกลุ่มคนดังกล่าวตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป