พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. กล่าวถึงกรณีที่ผู้ประกอบการร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืน เปิดแคมเปญ #กูจะเปิดแล้วมึงจะทำไม พล.อ.ณัฐพล ระบุว่าได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งขอความร่วมมือหากทำเช่นนั้นมีโอกาสเสี่ยงสูง ทั้งผู้ที่เข้าไปใช้บริการ ผู้ประกอบการ และตัวพนักงานเอง ย้ำว่าขณะนี้ต้องขอความร่วมมือ หากกลุ่มผู้ประกอบการเดินหน้าแคมเปญนี้เราก็ยังจะขอความร่วมมือต่อไป คู่กับการดำเนินการทางกฎหมาย

• อารยะขัดขืน! ร้านอาหารออกแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม ประท้วงมาตรการกึ่งล็อกดาวน์

อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย

พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า ในสถานการณ์เช่นนี้หากใช้มาตราการทางกฎหมายในทันทีจะทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น ซึ่งเบื้องต้นต้องไปทำความเข้าใจว่าที่ผ่านมาจากการสอบสวนโรคพบว่ามาจากการรวมตัวกันรับประทานอาหารและติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผู้ประกอบการได้เข้ามาหารือก็ไม่ได้ยื่นข้อเสนอเรื่องนี้ เพียงแต่ขอให้รัฐบาลเยียวยาดูแล ซึ่งยอมรับว่าในรอบนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจหรือศบศ.เยียวยาอยู่เยอะพอสมควร 

ส่วนกลุ่มนักดนตรี คนกลางคืน มองว่าถูกปิดมาตั้งแต่ระลอกแรกและไม่ได้รับการเยียวยาเหมือนกับธุรกิจอื่นนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า รอบนี้ก็ได้รับการดูแลตามมติคณะรัฐมนตรีวานนี้ แต่อาจจะไม่ได้เท่ากับที่ขอมา ก็ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชนในการทำความเข้าใจในเรื่องนี้ว่า หากผู้ประกอบการแสดงอารยะขัดขืนอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อกันมากขึ้น ทำให้สังคมโดยรวมเดือดร้อนไปด้วย และขอความเห็นใจซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามรัฐบาลและ ศบค.จะมีการประเมินสถานการณ์ในช่วง 15 วัน หากสถานการณ์คลี่คลายก็อาจจะมีการผ่อนคลาย

อาจเกิดการระบาดระลอก 4 เหตุเชื้อเดลต้าแพร่กระจายเร็ว

ส่วนกรณีหมอของโรงพยาบาลศิริราชออกมาเตือนว่า ระลอก 4 จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่า จริงเพราะสายพันธุ์เดลต้า หากติดเชื้อแล้วมีการแพร่กระจายได้รวดเร็ว คณะแพทย์จึงมีความห่วงใยได้เสนอมาตรการเหล่านี้ออกมา ขณะเดียวกันก็รับทราบถึงความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เพราะแม้ในประเทศจะมีการฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม แต่การฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นการรับประกันว่าจะไม่ติดเชื้อทุกอย่างต้องระวังเช่นเดิม จะเห็นได้จากต่างประเทศอย่าง อิสราเอล และอังกฤษที่เชื้อกลับมาแร่ระบาดจนต้องล็อคดาวน์อีกครั้ง

ส่วนกรณีหลายจังหวัด ประกาศรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัดนั้นๆกลับไปรักษา จะทำให้ผู้ป่วยแห่กลับบ้านหรือไม่ เรื่องนี้ พล.อ.ณัฐพล เชื่อว่าพื้นที่มีมาตรการป้องกัน และจังหวัดก็รับทราบว่ามีประชาชนเดินทางกลับจากไซส์งานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครบ้างแล้ว ซึ่งมองว่าเป็นการแจ้งเตือนให้ประชาชนที่ติดเชื้อเข้ารับการรักษา และเป็นมาตรการป้องกันและเตรียมการไว้ก่อน ไม่น่าจะใช่การแห่กลับบ้าน ซึ่งประชาชนคนใดที่ยังทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครได้ก็ยังอยู่

โดยกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานครได้เร่งรัดการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ฮอสปิเทล และจัดตั้งสถานพยาบาลเพิ่มเติมที่จะดูแลผู้ติดเชื้อ ซึ่งเชื่อว่าวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ น่าจะมีเพิ่มมากขึ้น และปัญหาเรื่องเตียงจะบรรเทาลง โดยประชาชนที่ประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ แต่ก็มีประชาชนบางส่วนที่เดินทางกลับบ้าน อาจจะด้วยมาตรการที่ศบค. ออกมาจึงไม่ได้ประกอบอาชีพแล้ว แต่จุดนี้ไม่น่าจะเกิดปัญหาขึ้น