ผู้ตรวจการแผ่นดิน-รองผู้ว่านครปฐม ถกแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำมันหล่อลื่น ก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ร่างกาย สุขภาพอนามัย และทรัพย์สินของประชาชน
วันที่ 2 ธ.ค.2564 ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลตำบลอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผวจ.นครปฐม พร้อม ปลัดจังหวัดนครปฐม นายอำเภอสามพราน หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริการองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมประชุมแก้ไขปัญหากรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บน้ำมันหล่อลื่น บริษัท ประภากรออยล์ จำกัด เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดความเสียหายและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางร่างกาย สุขภาพอนามัย และทรัพย์สินประชาชนกว่า 50 ครัวเรือน
นายทรงศัก กล่าวว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมาดูเรื่องผลกระทบกับประชาชน ความเสียหายที่เกิดขึ้น และเรื่องการเยียวยาให้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำในคลองที่อยู่กับชุมชนจะต้องรีบดำเนินการก่อนที่น้ำทะเลจะหนุน ในส่วนที่ 2 เป็นเรื่องเชิงระบบการป้องกัน เนื่องจากในพื้นที่ต.อ้อมใหญ่ จ.นครปฐม ต.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ติดกัน มีสถานประกอบการจำนวนมาก เป็นชุมชนขนาดใหญ่ หลายโรงงานอาจมีวัตถุไวไฟ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยต่างๆ
“ซึ่งทางจังหวัดก็มีแนวความคิดเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งทางตรวจการแผ่นดินและสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จะได้เชื่อมโยง บูรณาการการแก้ปัญหา และวางระบบป้องกัน หากทำได้ก็จะเป็นตัวอย่างให้กับพื้นที่อื่นๆที่มีลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก นอกจากช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนแล้ว ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตประชาชนด้วย ”
ด้านรองผวจ.นครปฐม กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้แบ่งการดำเนินงานเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ การดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุวางเพลิง และสถานประกอบการในเรื่องของใบอนุญาต เบื้องต้นพื้นที่ในบริเวณนี้ตามกฎกระทรวงผังเมืองเป็นพื้นที่สีส้ม มีประชาชนกรหนาแน่น ไม่สามารถขออนุญาตเป็นสถานที่เก็บน้ำมันได้ ส่วนของเดิม หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ครั้งที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2564 สำนักงานพลังงานจังหวัด ได้ระงับใบอนุญาตตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2564
“แต่เท่าที่ทราบ ผู้ประกอบการแจ้งว่า นำไปเก็บไว้ที่คลังในจ.สมุทรสาคร ทั้งนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ และสำนักงานพลังงานจังหวัดได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วที่สภ.โพธิ์แก้ว ส่วนที่ 2 คือ การตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยมีศูนย์ดำรงธรรมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และส่วนที่ 3 การตั้งคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานรับผิดชอบ ซึ่งต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีคราบน้ำมันในแหล่งน้ำเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะสามารถฟื้นฟูมลพิษในแหล่งน้ำได้ภายใน 2 สัปดาห์ ”