ประจวบคีรีขันธ์ เร่งส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวทางรถไฟ เชื่อมโยงการท่องเที่ยว 8 อำเภอ จัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยว จูงใจให้นักท่องเที่ยว พักค้างแรม มีเวลาจับจ่ายใช้สอย ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

24 พ.ค.65 ที่ห้องประชุมหว้ากอ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุม หารือแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด

เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ใกล้เข้าสู่การประกาศเป็นโรคประจำถิ่น

โดยมี นางสาวแสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ นายอุดมสุข นิ่มเซียน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดฯ นายชาญวิทย์ อุณหสุทธิยานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดฯ ผู้แทนสภาหอการค้าจังหวัดฯ สภาอุตสาหกรรมจังหวัด สถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร ร่วมประชุม

นางสาวแสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอแผนการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถไฟผ่านพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอของจังหวัด โดยจัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยว จูงใจให้นักท่องเที่ยวเกิดการพักค้างแรม มีเวลาการจับจ่ายใช้สอยอยู่ในพื้นที่นานขึ้น

ซึ่งแต่ละอำเภอมีอัตลักษณ์เด่น มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายที่สามารถจะนำเสนอเป็นจุดขายการท่องเที่ยวได้ แต่ต้องมีการจัดทำกิจกรรมให้พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดระยะเวลาที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ โดยที่ประชุมเห็นพ้องกับแนวทางดังกล่าว

ด้าน นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การส่งเสริมท่องเที่ยวทางรถไฟหรือทางรางตามที่ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ เสนอถือเป็นเรื่องที่ดีในการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ จ.ประจวบฯ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชน

เบื้องต้นได้มอบหมายให้สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปจัดทำแผน ขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ ได้หลังโรคโควิด*19 เป็นโรคประจำถิ่น

ทั้งนี้ เดิมทีจังหวัดได้มีการแบ่งกลุ่มอำเภอเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างอำเภอไว้ 3 กลุ่ม แต่เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าแต่ละอำเภอมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวแตกต่างกันไปจึงได้แบ่งกลุ่มอำเภอใหม่เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ อำเภอหัวหิน-ปราณบุรี, อำเภอสามร้อยยอด-กุยบุรี, อำเภอเมืองประจวบฯ-ทับสะแก และอำเภอบางสะพาน-บางสะพานน้อย

ซึ่งจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนทุกเรื่อง ส่วนการออกแบบมาสคอตค่างแว่นเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ ในเร็วๆ นี้จะมีการจัดประกวดออกแบบผลงาน โดยมีการตั้งคณะกรรมการจากภาคส่วนต่างๆ มาร่วมกันตัดสินตามเกณฑ์การประกวด โดยจะเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกผลงานที่ความโดดเด่นด้วย

ทั้งนี้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการปรับระดับสถานการณ์เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 หรือ ศบค.ให้อยู่ในกลุ่มจังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยว โซนสีฟ้า ครอบคลุมทั้งจังหวัด เริ่มมีผลวันที่ 1 มิ.ย.65

ซึ่งจะสามารถจัดงานหรือกิจกรรมที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากได้ตามความเหมาะสม และสามารถเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ได้แต่ต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ก่อนเปิดบริการ