จากกรณี ที่เพจ เจ๊ม้อย v+ ได้มีการโพสต์ข้อความ เกี่ยวกับ พลทหารรายหนึ่ง ล้มพับขณะฝึกซ้อม โดยทางเพจ ได้ระบุข้อความว่า คุณแม่ตั้งคำถาม ฝึกโหดไปมั้ย หมวดฝึกโหด บังคับ ฝึกเดินกลางแดด จนล้มหมดสติต้องเข้าโรงพยาบาลมันไม่เป็นไรมันแค่ทำสำออย ยังเอาจุดไฟแช็กไว้ใต้คางเพื่อเช็กมีสติอยู่ไหม
ผู้หมวดยอมรับว่ากระทำเกินกว่าเหตุจริง แต่เรื่องไฟแช็คลนคางเค้าปฏิเสธ แต่มีผู้บังคับบัญชาก็คอยไปดูแลทุกวัน แต่คนกระทำไม่แน่ใจว่าไปดูไหม
เค้าฝึกเดินทางไกลทุกปี แต่ปีนี้ฝึกแค่ 6 ไมล์ มีแบกโหลดประมาณ 7 กิโล เค้าให้เหตผลว่าน้องเตรียมตัวไม่พร้อมและอ้วน ตรงนี้แม่เข้าได้ แต่ว่าแม่ติดใจ ตรงเค้าล้มลงแล้วครั้งทำไมไม่ช่วยเหลือ มีด่าทอไปเรื่อยๆ แล้วก็ล้มอีกรอบแต่น้องขึ้นมาได้นิดเดี๋ยวก็น๊อคไป
รอบแรกสั่งห้ามให้การช่วยเหลือ ก็มีคนอยากมาช่วยแต่ผู้หมวดฝึกเค้าห้ามบอกว่าสำออย พลักดันเดินต่ออีกเกือบถึงกิโลเมตรที่ 5 น้องก็ล้มลงหมดสติค่ะ แล้วมีคนมาบอกว่า เค้าเอาไฟแช็คไปลนที่คาง แต่เจ้าตัวปฏิเสธ เค้าบอกว่าจุดจริงแต่ไม่ได้ลนคางค่ะ
ทางโรงพยาบาล บอกว่าน้องเป็นฮีสโตรก คือทางหน่วยเค้าก็ดำเนินการให้อยู่ค่ะแต่แม่ว่าโทษเค้าน้อยไปค่ะถ้าเทียบกับอาการลูกชายแม่ค่ะ เพราะแม่ไม่แน่ใจ ว่าไตเค้าจะกลับมาทำงานไหม จะใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมหรือป่าวสิ่งที่แม่กังวลค่ะ ทางค่ายควรออกมาชี้แจงคุณแม่ด้วยนะคะ สังคมจะ ได้เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์จริงเท็จอย่างไร
ล่าสุด ด้านพ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณี กำลังพลของกองทัพบก ได้รับบาดเจ็บจากโรคลมร้อน หรือ ฮีทสโตรก ในระหว่างการฝึกภาคสนาม ซึ่งมีญาติของผู้ป่วยได้ร้องเรียนผู้ควบคุมการฝึกว่ามีการทำเกินกว่าเหตุในการฝึก และกระทำผิดหลักการปฐมพยาบาลผู้ป่วยนั้น
- ทนายวิฑูรย์ วอนเรือนจำให้ความยุติธรรม เชื่อ เสี่ยโป้ ถูกใบสั่งแน่นอน!
- สามารถ สงสัย? แต่งเพลงเชียร์ ‘บิ๊กป้อม’ นั่งนายกฯ ผิดตรงไหน
- ศาล ไม่อนุญาต! ให้ออกนอกประเทศ หลัง ‘ทักษิณ’ ขอไปรักษาตัวที่ ดูไบ
โดยกองทัพบก ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการฝึกภาคสนามของหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ชลบุรี ในขั้นตอนการฝึกเดินทางไกลประกอบเครื่องสนามระยะทาง 6 กม.
โดยในระหว่างการฝึกนั้นผู้ป่วยมีอาการอ่อนล้าจนหมดสติระหว่างการเดินในกม.ที่ 5 จึงมีการปฐมพยาบาลและส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลค่ายทหารในพื้นที่ ซึ่งแพทย์ได้วินิจฉัยว่าบาดเจ็บจากโรคลมร้อน ทำให้การทำงานของไตผิดปกติ จึงได้ส่งเข้ารับการรักษาต่อยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กทม.
รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ป่วยอาการดีขึ้นตามลำดับ เริ่มรับประทานอาหารเหลวได้ ภาวะติดเชื้อไข้เริ่มลดลง ส่วนการทำงานของไตยังไม่กลับมาเป็นปกติ จึงต้องมีการรักษาต่อเนื่องและประเมินอาการโดยแพทย์ต่อไป
สำหรับในระหว่างเข้ารับรักษาทางหน่วยต้นสังกัดได้ดูแล และอำนวยความสะดวกในด้านค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินจากสิทธิการรักษา และการจัดที่พักให้กับญาติที่มาเยี่ยมผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
ส่วนประเด็นที่มีการร้องเรียนว่ามีการทำเกินกว่าเหตุ ในการฝึก และกระทำผิดหลักการปฐมพยาบาลผู้ป่วยนั้น หน่วยต้นสังกัดได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนผู้บังคับหมวดที่ควบคุมการฝึกและผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร ทั้งนี้กองทัพบกและหน่วยต้นสังกัดพร้อมให้ความเป็นธรรมและให้การดูแลรักษาพยาบาลกำลังพลดังกล่าวอย่างเต็มความสามารถ