เร่งซ่อมสะพานกลับรถ พระราม 2 หลังพังถล่มคนดับ ยันกลางเดือนนี้ได้ใช้

Home » เร่งซ่อมสะพานกลับรถ พระราม 2 หลังพังถล่มคนดับ ยันกลางเดือนนี้ได้ใช้


เร่งซ่อมสะพานกลับรถ พระราม 2 หลังพังถล่มคนดับ ยันกลางเดือนนี้ได้ใช้

เร่งซ่อมสะพานกลับรถ พระราม 2 ตลอด 24 ชั่วโมง หลังพังถล่มคนดับเมื่อเดือนก.ค. ย้ำสร้างเสร็จปลอดภัยแน่ กลางเดือนนี้ได้ใช้ ตอนนี้แนะทางเลี่ยงก่อน

วันที่ 31 ต.ค.2565 นายไพฑูรย์ พงษ์ชวลิต รองอธิบดีกรมทางหลวงเผยวา การซ่อมแซมสะพานกลับรถ หน้ารพ.วิภาราม กม.ที่ 34 ถนนพระราม 2 ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังแผ่นปูนขอบสะพานพังถล่มเมื่อวันที่ 31 ก.ค. จนมีคนเสียชีวิต 2 รายว่า กลางเดือนพ.ย.นี้ น่าจะใช้กลับรถได้ตามปกติ

สำหรับขั้นตอนการดำเนินการในการซ่อมแซมสะพานกลับรถแห่งนี้ เริ่มจากหล่อชิ้นส่วนคานสะพาน พร้อมดำเนินการติดตั้ง โดยได้เคลื่อนย้ายคานรูปตัวที มายังบริเวณสะพานกลับรถนี้ เพื่อยกขึ้นวางบนโครงสร้างสะพาน พร้อมติดตั้งเหล็กเสริม ส่วนที่เทเชื่อมกับตัวสะพาน ซึ่งคานตัวแรกที่ถูกยกขึ้นเพื่อติดตั้งเป็นคานตัวที่ 3 หรือคานที่อยู่ตรงกลาง

จากนั้นก็จะดำเนินการยกอีก 4 ตัวที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้ จึงมีความจำเป็นต้องปิดการจราจรขาเข้า กทม.ช่องทางหลักตั้งแต่ กม.ที่ 34+400 นับตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค.-4พ.ย. โดยผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถใช้ช่องทางคู่ขนาน และช่องทางหลักฝั่งขาออก (ช่องทางพิเศษ 1 ช่องจราจร) เพื่อเดินทางเข้า กทม.

นายไพฑูรย์ พงษ์ชวลิต เผยว่าเจ้าหน้าที่จะเร่งทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีหยุด โดยนอกจากเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงแล้ว ยังมีคณะอาจารย์ และเจ้าหน้าที่จากสภาวิศวกรรมสถานฯ มาตรวจความปลอดภัยตลอดเวลาอีกด้วย

ดังนั้นขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางมั่นใจได้ว่างานนี้จะต้องแล้วเสร็จด้วยความปลอดภัย ซึ่งเมื่อดำเนินการซ่อมแซมจนแล้วเสร็จ หลังวันที่ 4 พ.ย.ไปแล้ว ก็จะเปิดให้ใช้ช่องทางด้านล่างได้ตามปกติ ส่วนบนสะพานกลับรถจะเริ่มให้ใช้ทางได้หลังจากวันที่ 11 พ.ย เพราะทางเราต้องทำการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย มั่นคงแข็งแรงให้เป็นที่เรียบร้อยทุกขั้นตอนเสียก่อน

พี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจว่าสะพานกลับรถที่ทำการซ่อมแซมแล้วนี้มีความปลอดภัยอย่างแน่นอน เพราะตลอดการทำงานเรามีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกขั้นตอน และจะมีการรายงานผลอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสภาพการจราจรบนถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ช่วงกม.ที่ 35 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการปิดการจราจรในช่องทางหลัก (ช่องทางด่วน) นั้น ก็พบว่า ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน และตอนกลางวันการจราจรค่อนข้างติดขัดยาวลงไปเป็นระยะทางเกือบ 2-3 กิโลเมตร ซึ่งกรมทางหลวงได้แก้ปัญหาด้วยการเปิดช่องทางเดินรถพิเศษในช่องทางหลักของฝั่งขาออกกรุงเทพ

โดยให้รถวิ่งสวนทางได้ 1 ช่องจราจร ที่ก็พอช่วยระบายการจราจรให้เป็นไปอย่างคล่องตัวมากขึ้น และจะกลับเข้าสู่ช่องทางขาเข้า กทม.ในช่องทางหลักปกติที่ กม.31 แต่การเปิดช่องจราจรพิเศษนี้ จะเปิดเฉพาะในช่วงที่การจราจรขาเข้ากรุงเทพฯ ติดขัดอย่างหนัก และจะปิดทันทีหากการจราจรฝั่งขาออกกรุงเทพฯ มีปริมาณมากหรือฝั่งขาเข้ามีปริมาณรถที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ