เรื่องที่คุณแม่ผ่าคลอดควรรู้! พัฒนาการทางสมองของลูกนั้นสำคัญเท่ากับการสร้างภูมิต้านทาน

Home » เรื่องที่คุณแม่ผ่าคลอดควรรู้! พัฒนาการทางสมองของลูกนั้นสำคัญเท่ากับการสร้างภูมิต้านทาน

คุณแม่ผ่าคลอดหรือกำลังจะผ่าคลอดควรรู้ว่า ภูมิต้านทานและการพัฒนาสมองของลูกน้อยนั้นอาจจะมีความแตกต่างจากเด็กที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติ จากการศึกษาและการวิจัยพบว่าเด็กที่เกิดจากการผ่าคลอดนั้น อาจมีโอกาสที่การพัฒนาระบบภูมิต้านทานจะช้ากว่าเด็กที่คลอดด้วยวิธีการธรรมชาติ ซึ่งส่งผลต่อการเจ็บป่วย หรือ การเกิดภูมิแพ้ เนื่องจากการผ่าท้องคลอดเด็กจะถูกนำตัวผ่านหน้าท้องของคุณแม่ ทำให้ไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่ดีผ่านทางช่องคลอด มากไปกว่านั้นการศึกษาในปัจจุบันยังพบว่า การผ่าคลอดยังมีความสัมพันธ์กับพัฒนาการของสมองอีกด้วย ซึ่งเมื่อคุณแม่ที่กำลังเตรียมผ่าคลอดได้รับรู้ถึงข้อมูลนี้ย่อมอยากหาทางให้ลูกได้มีสุขภาพ และพัฒนาการทางสมองที่ดีเช่นเดียวกับเด็กที่คลอดโดยวิธีการธรรมชาติ ทั้งในส่วนของการเสริมภูมิต้านทานและพัฒนาการทางสมอง ที่คุณแม่ควรต้องดูแลเด็กผ่าคลอดเป็นพิเศษด้วย จากการศึกษาพบว่า 1 ใน 7 ของเด็กผ่าคลอดอาจมีความสัมพันธ์ในการเกิดความเสี่ยงด้านการเรียนรู้เมื่อเริ่มเข้าโรงเรียน และพบว่าเด็กผ่าคลอดอายุ 4-9 ปี มีคะแนนสอบมาตราฐานเฉลี่ยน้อยกว่าเด็กที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติ ซึ่งสัมพันธ์กับอัตราการได้รับนมแม่ที่น้อยกว่า การมีภาวะอ้วนและสมาธิสั้นมากกว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ หากอ่านมาถึงตรงนี้คุณแม่ที่กำลังเตรียมผ่าคลอดหรือได้ผ่าคลอด คงอยากหาวิธีที่ช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสมองให้ไม่แตกต่างจากเด็กที่คลอดธรรมชาติ ซึ่งการดูแลและเสริมพัฒนาการด้านสมองสามารถเสริมด้วยการให้ลูกน้อยได้ทาน ‘นมแม่’ เท่านั้นเอง

เพราะนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด และ ให้คุณค่าได้เยอะมาก อีกทั้งมีหนึ่งในสารอาหารที่สำคัญต่อการพัฒนาสมองด้วยนั่นก็คือ “ สฟิงโกไมอีลิน ” เป็นไขมันที่ช่วยในการทำงานของสมอง ในการสร้างปลอกไมอีลิน ซึ่งไมอีลินช่วยเชื่อมโยงการทำงานของเซลล์ประสาท ทำให้สมองมีการเชื่อมต่อได้รวดเร็วมากขึ้น ให้คิดเร็วเรียนรู้ไว นอกจากนี้นมแม่ยังมี จุลินทรีย์สุขภาพ หลายชนิดเช่น B. lactis ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน แต่ช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหารให้ขับถ่ายได้ดี ลดอาการท้องเสีย และยังลดโอกาสการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจุลินทรีย์ชนิดนี้มักอยู่ในลำไส้ของเด็กที่คลอดอย่างธรรมชาติแต่ในขณะเดียวกันก็อยู่ในนมแม่ด้วย เพราะเหตุนี้ไม่ว่าเด็กจะคลอดโดยการผ่าคลอด หรือ คลอดธรรมชาติ การให้ทานนมแม่เพียงอย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดจนถึงช่วงอายุ 6 เดือน และให้นมแม่ควบคู่อาหารเสริมถึง 2 ปีหรือมากกว่า ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและให้ประโยชน์กับร่างกายของลูกได้ดีและมากที่สุด คุณแม่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดอุ่นๆ หรือน้ำขิงอุ่นๆบ่อยๆ ควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้ง โปรตีน คาร์โบไฮเดรด ไขมัน เกลือแร่ และ วิตามิน รวมถึงสมุนไพรที่ช่วยเรื่องการเพิ่มน้ำนม นอกจากนี้คุณแม่ควรดูแลสภาพจิตใจด้วย เพราะหากคุณแม่มีความเครียด หรือความกังวล ก็อาจส่งผลให้น้ำนมน้อย ดังนั้นคุณแม่ผ่าคลอดท่านไหนอยากให้ลูกได้รับสารอาหารจากนมแม่ครบถ้วนทั้งภูมิคุ้มกันและพัฒนาการทางสมองที่ดี อย่าลืมดูแลสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง เพราะสุขภาพของแม่ก็สำคัญและส่งผลต่อพัฒนาการของลูกเช่นกัน

ลงทะเบียนเพื่อติดตามข้อมูลเกี่ยวกับลูกผ่าคลอดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3wyYmIU

References : อ้างอิงจาก

  1. Bentley J, et al. Pediatrics. 2016; 138:1-9.
  2. Polidano C. et al. Sci Rep. 2017; 7: 11483.
  3. Deoni S, et al. Neuroimage. 2018 Sep;178: 649-659.
  4. Chevalier et al. PLos ONE 2015.
  5. Jungersen M, et al. Microorganisms. 2014 Mar 28; 2(2)92-110.

[Advertorial]

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ