เรือใบสีฟ้าเฉือนเปแอสเช แต่ลิ่วน็อกเอาต์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ไปพร้อมกัน ส่วนเรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และสปอร์ติง ลิสบอน ก็ฉลุยด้วยหลังคว้าชัยสำเร็จ
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน กลุ่มเอ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์เก่าจากอังกฤษ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส
- ปีศาจแดงสัมภาษณ์ “ฟาฟร์-การ์เซีย” หวังให้มาเป็นรักษาการ ผู้จัดการทีม
- แฟนสิงห์เซ็ง เบน ชิลเวลล์ ส่อต้องพักทั้งฤดูกาล – คาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่า
- ศาลตัดสิน เบนเซมา ผิดจริงคดีแบล็กเมล์อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติ – โดนโทษจำคุก 1 ปี
เกมนี้เจ้าถิ่นจัด แบร์นาร์โด ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง, ริยาด มาห์เรซ ประสานงานกันในแนวรุก ส่วนทีมเยือนมี คิลียาน เอ็มบัปเป, ลิโอเนล เมสซี, เนย์มาร์ ลงสนาม
เริ่มเกมมา 5 นาที แมนฯ ซิตี้เปิดฟรีคิกไปหน้าประตู แล้วเกิดการชุลมุนกันจนบอลมาตกใส่เท้า ริยาด มาห์เรซ ยิงมุมแคบด้านขวาของเขตโทษ เกย์ลอร์ นาบาส ต้องปัดทิ้ง
นาที 33 โอกาสเป็นของแมนฯ ซิตี้ แนวรับเปแอสเชสกัดบอลในเขตโทษไม่ดีมาทาง อิลคาย กุนโดกัน ยิงไปชนเสา จากนั้นไม่กี่วินาที ริยาด มาห์เรซ ได้บอลด้านขวาของเขตโทษแล้วหาช่องยิงพุ่งเรียดไปเสาสอง นายทวารต้องปัดทิ้ง จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังนาที 50 เปแอสเชต่อบอลจากเท้าสู่เท้าขึ้นหน้าจนมาถึง ลิโอเนล เมสซี กระชากเข้าด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนเปิดแฉลบกองหลังมาเสาสอง คีลิยาน เอ็มบัปเป รับได้แล้วยิงลอดขานายทวารเข้าไป ทีมเยือนนำ 1-0
นาที 61 แมนฯ ซิตี้ได้เตะมุมฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ เลือกจ่ายสั้นแล้วตามมาเล่นต่อเอง จากนั้นทำชิ่งกับเพื่อนอีกทีจนหลุดเข้าด้านขวาของเขตโทษ ก่อนจะยิงมุมแคบโดนนายทวารเซฟ
นาที 63 ไคล์ วอล์กเกอร์ สปีดเข้าไปหาบอลทางด้านขวาของเขตโทษ โดยตบจังหวะเดียวเข้ากลางมาที่ กาเบรียล เชซุส เหมือนจะเล่นไม่ถนัด แต่กลายเป็นดีที่บอลหลุดมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง จิ้มเผาขนเข้าไป แมนฯ ซิตี้ตีเสมอ 1-1
นาที 70 แบร์นาร์โด ซิลวา แทงบอลให้ กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปยิงมุมแคบด้านซ้ายของเขตโทษ ผู้รักษาประตูยังปัดทิ้งทัน แมนฯ ซิตี้ชวดได้ประตู
นาที 76 ริยาด มาห์เรซ เปิดบอลจากด้านขวาเข้าเขตโทษลึกไปเสาสอง แบร์นาร์โด ซิลวา ที่อยู่ตรงนั้นจึงแปะเข้ากลางให้ กาเบรียล เชซุส ยิงเข้าไปนิ่มๆ เป็นประตูชัยให้แมนฯ ซิตี้ชนะ 2-1
อีกคู่ในกลุ่มนี้ คลับ บรูช(เบลเยียม) แพ้ ไลป์ซิก(เยอรมนี) 0-5
ผ่านไป 5 นัด แมนฯ ซิตี้เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนเปแอสเชได้รองแชมป์กลุ่ม (8 คะแนน) โดยทั้งคู่ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ ขณะที่อันดับ 3 ไลป์ซิก (4 คะแนน), อันดับ 4 คลับ บรูช (4 คะแนน) ต้องไปแย่งตั๋วยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในแมตช์สุดท้าย
กลุ่มบี “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ เอาชนะปอร์โต จากโปรตุเกส 2-0
เจ้าถิ่นได้ประตูจาก ติอาโก อัลคันตารา นาที 52, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาที 70
อีกคู่ แอตเลติโก มาดริด(สเปน) แพ้ เอซี มิลาน(อิตาลี) 0-1
ทำให้ผ่าน 5 นัด ลิเวอร์พูลชนะรวด กวาดไป 15 คะแนน เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มอยู่แล้ว ปล่อยให้อันดับ 2 ปอร์โต (5 คะแนน), อันดับ 3 มิลาน (4 คะแนน), อันดับ 4 แอตฯ มาดริด (4 คะแนน) ไปแย่งเข้ารอบกันต่อแมตช์สุดท้าย
กลุ่มซี สปอร์ติง ลิสบอน จากโปรตุเกส เปิดบ้านชนะ “เสือเหลือง”โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ จากเยอรมนี 3-1
เจ้าบ้านได้ประตูจาก เปโดร กอนซัลเวส นาที 30 และ 39, เปโดร ปอร์โร นาที 81 ซึ่งกอนซัลเวสยังพลาดจุดโทษด้วยในนาที 81 ส่วนทีมเยือนได้จาก ดอนเยลล์ มาเลน นาที 90 โดยดอร์ตมุนด์เหลือ 10 คน เอ็มเร ชาน ถูกไล่ออกนาที 74
อีกคู่ เบซิกตัส(ตุรกี) แพ้ อาแจ็กซ์(เนเธอร์แลนด์) 1-2
ผ่านไป 5 นัด อาแจ็กซ์ชนะรวด กวาดเต็ม 15 คะแนน ได้แชมป์กลุ่ม อันดับ 2 สปอร์ติง (9 คะแนน) คว้ารองแชมป์กลุ่ม โดยทั้งคู่เข้ารอบแล้ว ส่วนอันดับ 3 ดอร์ตมุนด์ (6 คะแนน) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 เบซิกตัส (0 คะแนน) ตกรอบ
กลุ่มดี เชอริฟฟ์ จากมอลโดวา แพ้คารังต่อ “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน 0-3
ทีมเยือนได้ประตูจาก ดาวิด อลาบา นาที 30, โทนี โครส นาที 45, คาริม เบนเซมา นาที 56
อีกคู่ อินเตอร์ มิลาน(อิตาลี) ชนะ ชักตาร์ โดเน็ตส์ก(ยูเครน) 2-0
ผ่านไป 5 นัด มาดริดนำจ่าฝูง (12 คะแนน) ตามด้วยอันดับ 2 อินเตอร์ (10 คะแนน) เข้ารอบแล้วทั้งคู่ ส่วนอันดับ 3 เชอริฟฟ์ (6 คะแนน) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 ชักตาร์ (1 คะแนน) ตกรอบสนิท