ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังคอนโดแห่งหนึ่งย่านบางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าพบเรืออากาศโท ขวัญเมือง เพิ่มพูล อายุ 62 ปี พร้อมด้วยลูกสาว คือน.ส.วิมล มนตรีคลัง อายุ 46 ปี ผู้จัดการนิติบุคคล ได้นำหลักฐานกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุชี้แจงกับผู้สื่อข่าว พร้อมนำเสื้อยืดสีขาวติดรอยเท้าของพันเอกสมชาย (ชอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี อดีตข้าราชการทหารบกยศพันเอก กระโดดถีบ
เรืออากาศโท ขวัญเมือง กล่าวว่า วันเกิดเหตุวันที่ 9 พ.ค. 67 เวลาประมาณ 16.50 น. ตนกำลังเช็ดรถอยู่ คู่กรณีมาเรียกตนและขอคุยด้วย ซึ่งตนบอกแล้วว่าถ้าจะคุยเรื่องจอดรถ กฎคือ 1 ห้องให้จอดแค่ 1 คัน กฎระเบียบมีมานานแล้ว เขาถามเรื่องล้างรถ ตนบอกว่าตนเอาน้ำจากห้องตนลงมาล้าง ไม่ได้ใช้ของส่วนกลาง ตนไม่รู้ว่าคู่กรณีมาหาเรื่องตนเพราะอะไร พอเถียงกันไปมากระโดดถีบตนเสื้อเปื้อน ตนจึงเอาผ้าเช็ดรถปาใส่ และทะเลาะกัน ส่วนตัวเมียเขาถือไขควง และไปหยิบมีดดาบในรถ ส่วนผัวเขาถือไม้ยืนอยู่
จากนั้นคู่กรณีก็ไปแจ้งความ ตำรวจจึงมาที่เกิดเหตุ เมียเขาก็ด่าตนไม่หยุดและยืนถ่ายคลิป ตนเลยทำท่าจะเอามือถือเขวี้ยงใส่แต่ไม่ได้เขวี้ยง ตำรวจถามจะจบมั้ย ซึ่งตนจบแต่คู่กรณีไม่จบไปแจ้งความว่าตนจะยิงเขา จะฆ่าเขา ตนเลยไปแจ้งความบ้าง แต่แจ้งเพื่อมาขอดูกล้องไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้แจ้งความเรื่องอื่น ส่วนเรื่องอื่นๆที่คู่กรณีร้องเรียน ทั้งเรื่องเงินกู้ตนเลิกทำมา 5 ปีแล้ว
- เดือด! อดีตพันเอก-ภรรยา เตรียมย้ายหนี หลังโดนพ่อนิติฯ คอนโดกร่าง ขู่เอาปืนยิง
- พบแล้ว! ซากรถหนุ่มขับเก๋งลงโขง หลังจมอยู่ใต้กว่า 15 วัน ลึกว่า 20 เมตร
- ทนายเดชา สะกิดเตือน! ปม ครูใช้ปัตตาเลียนตัดผมเด็ก เข้าข่ายผิดกฎหมาย
ส่วนการใช้น้ำใช้ไฟของนิติบุคคล ตนใช้ของตัวเอง เรื่องการชี้แจงบัญชี จัดประชุมทุก 2 ปี ทุกคนอยากรู้อะไรซักถามได้ แต่พอไม่มีเงินใครออกก่อนถ้าไม่ใช่ตน ตนออกค่าใช้จ่ายยอดเป็นหลักแสนบาท ซึ่งทุกอย่างมีที่มาที่ไป ตนเป็นทหารไม่เคยขู่ว่าจะเอาปืนมายิง ใครจะพูดก็พูดได้ ตนอยู่ที่นี่มาเป็น 10 ปี ทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว ถ้าไม่พอใจการบริหารจัดการสมัยหน้าก็เลือกใหม่ วันเกิดเหตุตนคือคนโดนกระทำ คู่กรณีกระโดดถีบตน ส่วนเมียเขาถือไขควง แต่กล้องวงจรปิดมันมองไม่เห็น เมื่อก่อนตนยกมือไหว้คู่กรณีเพราะเขาอาวุโสกว่า แต่พอตอนหลังก็มามีปัญหาระกองระแหงกัน คู่กรณีไม่พูดถึงเรื่องจอดรถที่เขามีรถ 2 คันและมาขอจอด แต่มาเล่นเรื่องน้ำล้างรถ ตนยืนยันไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล และไม่เคยมีลูกน้อง หรืออ้างรู้จักตำรวจอะไร
น.ส.วิมล ผู้จัดการนิติบุคคล (ลูกสาว) กล่าวว่า การประชุมนิติบุคคลจะจัดขึ้นทุก 2 ปี ซึ่งจะมีรายละเอียดบอกเกี่ยวกับบัญชีการเงิน และแจ้งทางเอกสารให้ทุกห้อง รายรับ-รายจ่ายเท่าไหร่ ถ้าไม่เข้าใจแสดงว่าไม่ได้เข้าประชุม แต่เอกสารมีแจกให้ทุกห้องอยู่แล้ว ทั้งหมด 151 ห้อง การซื้อของมันไม่จำเป็นต้องแจ้งเพราะอะไรเสียก็ซ่อม รปภ.ไม่เคยมีป้อมใช้เลย สมัยก่อนมีแค่โต๊ะ 1 ตัว ฝนตกก็ไม่รู้จะไปหลบตรงไหน คอนโดที่อื่นๆก็มีป้อมรปภ. ตนเห็นความสำคัญตรงนี้ก็เลยจัดซื้อมา งบประมาณส่วนนี้ก็จะมีแจ้งในการประชุมครั้งถัดไป กฎระเบียบที่นี่ กรณีจอดรถ 1 ห้องต่อ 1 คัน เมื่อก่อนรถมันไม่ได้เยอะขนาดนี้ แต่ตอนนี้มีปริมาณรถเยอะขึ้นจึงมีกฎเพิ่มขึ้นมา และกฎนี้มีมานานแล้วเป็น 10 ปี
เราเห็นสมควรว่าที่จอดรถน้อยลงจึงปรับเปลี่ยนกฎ ห้องไหนมีรถเยอะ 2-3 คันมาจอด ถ้าไม่มีกฎระเบียบคนอื่นคงไม่มีสิทธิจอด จะมาซื้อมาเช่าก็ต้องรับรู้กฎก่อน ส่วนเรื่องสัตว์เลี้ยงก็จะไม่ให้เลี้ยงยกเว้นคนที่เคยเลี้ยงมานานจะขึ้นทะเบียนไว้ ถ้าตายก็ห้ามมีเพิ่ม ส่วนห้องนิติบุคคลใครจะเข้าก็เข้ามาได้ ไม่ได้ห้าม เรื่องน้ำไฟฟรีที่ใช้ในห้องนิติบุคคล เมื่อก่อนห้องนี้ไม่มีแอร์และพอตนมาทำงานพ่อเป็นคนซื้อมาติดให้และเขียนชัดเจนว่าของผู้จัดการซื้อ ไม่ใช่ของส่วนรวม เรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาประชุมเลยยังไม่ได้ชี้แจง ถ้าเรื่องไหนไม่เข้าใจควรมาถามเพราะไปพูดแบบนี้มันทำให้เราเสียหาย หลังจากมีเรื่องก็ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ไปสนใจอะไร ไม่ได้ยุ่งกัน
ลูกบ้านในคอนโด ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนขับรถมาจากที่ทำงานเห็นทั้งคู่กำลังทะเลาะ ด่าทอกันเสียงดัง ตนจึงจอดรถและวิ่งมาห้าม ทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่อยๆและหนักขึ้นๆ พี่ผู้หญิงไปหยิบอาวุธมาขู่ เหมือนจะแทง ต่างคนต่างไม่ยอม ฝั่งครอบครัวของลุงขวัญเมืองก็เข้ามาห้ามและพาขึ้นไปชั้น 2 จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่เกิดเหตุ ตนได้ยินว่าเขาพูดกันในตึกว่าพี่ผู้หญิงมีมีด แต่ตนเห็นแค่ไขควง ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ และน่าจะคุยกันได้ ควรรู้กฎระเบียบ การจอดรถ 1 ห้อง 1 คัน มันก็มีป้ายชัดเจน เรื่องป้อมยามมีขึ้นก็ดีเพราะเมื่อก่อนมีแค่โต๊ะนั่ง ฟ้าฝนมาก็ลำบาก ตนไม่เคยมีปัญหากับใคร ลูกบ้านมีปัญหาอะไรทางนิติบุคคลก็ช่วยเหลือตลอด คิดว่าเรื่องนี้ทั้งคู่น่าจะคุยกันได้