ยังคงเป็นปริศนาว่า เรือลึกลับมาจากไหน หลังเจ้าหน้าที่แท่นขุดเจาะน้ำมันว่าพบเรือไร้สัญชาติลอยเข้าใกล้แทนเจาะ จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบเป็นเรือเหล็กชื่อ FIN SHUL YUEN 2 ห่างจากปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา 100 กว่ากิโลเมตร
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรือลำดังกล่าว พบเป็นเรือสินค้า ความยาวประมาณ 80 เมตร แต่ไม่มีสินค้าในระวาง ไม่มีหมายเลขเรือ ไม่มีการพักอาศัยของคนประจำเรือ ไม่มีสมอและโซ่ สภาพมีน้ำท่วมขังภายใน น้ำทะเลเข้าท่วมภายในห้องเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า และเครื่องจักร ตัวเรือเอียงประมาณ 35 องศา
ล่าสุด วันที่ 9 ม.ค. พลเรือตรี สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รอง ผอ.ศรชล.ภาค 2 ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พลเรือโท สุนทร คำคล้าย ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ศรชล. ภาค 2 ในการบูรณาหน่วยในโครงสร้างร่วม และส่วนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเรือเตรียมการรับเรือเข้าฝั่งและติดตามหาเจ้าของเรือปริศนา
พลเรือตรี สุรศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจพบเรือปริศนา ไม่ปรากฏสัญชาติ และจากการตรวจสอบจากตัวอักษรไม่พบในสารบบ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการสูบน้ำออกจากห้องเครื่องและระวางที่มีน้ำเข้า 40 – 50 เปอร์เซ็นต์ของเรือ และทำความสะอาดเรือ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ม.ค.) กองทัพเรือภาค 2 และ ศรชล. ภาค 2 ได้ชักลากจูงเรือจากพิกัดที่พบเรือ มุ่งหน้าปากน้ำตาปี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และเมื่อมาถึงบริเวณ พื้นที่ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ห่างจากฝั่ง 28 ไมล์ทะเล ซึ่งมีระดับน้ำลึกประมาณ 28 เมตรโดยสภาวะคลื่นลมแรง ทำให้เรือลำดังกล่าวจมดิ่งลงไปใต้ท้องทะเลอีกครั้ง
โดยขณะนี้ได้จัดให้เรือหลวงตาปี และเรือจำนวนหนึ่งเฝ้าพิกัด และประสานกองทัพเรือ และเจ้าท่าจังหวัดนครราชสีมา ประกาศเป็นพื้นที่เรือจม เพื่อให้ชาวประมง ระมัดระวังในการเดินเรือ และขณะนี้เกิดคราบน้ำมันบริเวณดังกล่าว แม้จะไม่มีปริมาณมาก แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ซึ่งกำลังเร่งขจัดคราบน้ำมัน ภายในระยะ 2 – 3 วันนี้
เพราะจากทิศทางลมและคลื่นอาจจะพัดคราบน้ำมัน ไปทางเกาะมัดสุ่ม ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 ไมล์ทะเล จึงมีความจำเป็นต้องเร่งขจัด เพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว และสภาพแวดล้อมโดยเร็วที่สุด ในส่วนของการเก็บกู้ซากเรือจากท้องทะเลจะดำเนินการหรือไม่ อยู่ระหว่างการประเมินถึงสภาพความพร้อมผลกระทบและอื่น ๆ อีกครั้ง