ขนส่งเรียกคนขับรถตุ๊กตุ๊ก อบรมปรับทัศนคติ ตักเตือน คาดโทษ ปมดราม่าเรียกราคาเหมาทัวร์ “โอปป้าฮง”
จากกรณีดราม่าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อ โอปป้าฮง หรือ “พี่ฮง” แร็ปเปอร์และยูทูบเบอร์ชื่อดังชาวเกาหลี เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่าน YouTube : Oppa Hong พาเที่ยวจังหวัด พระนครศรีอยุธยา เจอตุ๊กๆ เจ้าถิ่นเรียกขายทัวร์ 4 ชั่วโมง 1,200 บาท ซึ่งทางด้านตุ๊กๆ ก็ยืนยันว่าเป็นราคาในเรตมาตรฐานที่ทางขนส่งระบุไว้ ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
- คนไทยอาย! สดๆร้อนๆ “โอปป้าฮง” เที่ยวอยุธยา วินตุ๊กตุ๊กเรียก 1,200 บอกตำรวจการันตี
- ป้ายกมือไหว้ แจงวิธีคิดราคาตุ๊กตุ๊ก “โอปป้าฮง” ล่าสุดโดนสั่งเอา “โลโก้ตำรวจ” ออกแล้ว
ล่าสุด วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่วินรถตุ๊กตุ๊ก หน้าสถานีรถไฟอยุธยา นางสาวพิศมัย เกิดทรัพย์ ขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยามอบหมายให้ นางกรรณิการ์ ฤกษ์อุโฆษ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง พร้อมด้วย นายทวีพงษ์ รินนาศักดิ์ ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.ภาวิตร ฉิมพาลี สารวัตรสถานีตำรวจท่องเที่ยว และ พ.ต.ท.วีระ นุชศิลป์ รองผู้กำกับจราจร สภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาที่สถานีรถไฟอยุธยา เพื่อไปพูดคุยและตรวจสอบรถตุ๊กๆ ถึงเรื่องที่มีการโก่งราคา ค่าโดยสารที่แพงเกินไปอย่างไม่เหมาะสม
สอบถาม นายสุพัฒน์ ปั้นทอง อายุ 48 ปี สมาชิกวินสถานีรถไฟอยุธยา บอกว่า สาเหตุที่มีโลโก้ตำรวจท่องเที่ยวติดอยู่บนป้ายราคาค่าโดยสารนั้น เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยว ถึงกรณีที่ลืมทรัพย์สินไว้บนตุ๊กๆ สามารถโทรติดต่อตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งก็มีเบอร์โทรศัพท์เขียนไว้อย่างชัดเจน ไม่ได้มีการแอบอ้างอะไร ส่วนที่ป้าพูดไป อาจมีการคลาดเคลื่อนอะไรและเป็นการการันตี ตนเองต้องขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวด้วย
ด้าน นางสมจิตร ธาระงาม อายุ 59 ปี คนขับรถตุ๊กๆ ที่ปรากฏอยู่ในคลิป เผยว่า หลังจากที่ตนเองตกเป็นข่าวนั้นก็เกิดความไม่สบายใจ เพราะตนเองมีอาชีพขับรถตุ๊กๆ รับนักท่องเที่ยวมาหลายปี และไม่เคยคิดที่จะฉาบฉวย หรือโกงราคาค่าโดยสาร เพราะที่วินแห่งนี้มีป้ายติดตั้งราคาค่าโดยสารพานักท่องเที่ยวเที่ยวชมโบราณสถานไว้อย่างชัดเจน
ส่วนนักท่องเที่ยวสองคนทราบภายหลังว่าเป็นชาวเกาหลี ได้มาเที่ยวที่อยุธยาประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เข้ามาติดต่อสอบถามหาร้านอาหาร จึงได้มีการแนะนำร้านอาหาร พร้อมกับราคาค่าโดยสาร ไปร้านอาหารและท่องเที่ยวแบบเหมา 4 ชั่วโมง 1,200 บาท เท่ากับว่าหารกันคนละ 600 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวมีการเช็กราคา เปรียบกับการเรียกรถในแอปฯ ว่าทำไมแพงกว่า ตนเองแนะนำว่าถ้าจะใช้บริการรถในแอปฯ ต้องเดินออกไปเรียกให้ห่างจากวิน รถตุ๊กๆ แต่ไม่ได้ไป จากนั้นมีการมาตกลงให้พาไปส่งร้านอาหารและท่องเที่ยว
ซึ่งราคาที่แจ้งไปนั้นก็เป็นราคาชั่วโมงละ 300 บาท ตามอัตราที่กำหนด ถ้าเป็นคนไทยจะชั่วโมงละ 200 บาท แต่สิ่งไหนที่ตนพูดไปไม่ดี ต้องกราบขอโทษนักท่องเที่ยว เจตนาของป้าไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่อยากให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ท่าน หลังจากกินข้าวที่ร้านแล้วไปเที่ยวไหว้พระ และโบราสถานสำคัญๆหลายแห่ง
ด้าน นางกรรณิการ์ ฤกษ์อุโฆษ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง เผยว่า จากกรณีที่เป็นคลิปดังกล่าวนั้น ตนเห็นว่าทางด้าน นางสมจิตร ธาระงาม อายุ 59 ปี คนขับรถตุ๊กๆ นั้นเป็นการพูด หรือการเจรจาเหมือนบีบบังคับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ใช้บริการ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง การที่นักท่องเที่ยวจะมาติดต่อรถตุ๊กๆ เพื่อนำเที่ยวนั้นให้เป็นไปตามความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวที่จะไปไหน หรือจะจ้างเหมาเป็นชั่วโมงก็แล้วแต่ ไม่ควรที่จะพูดเล้าโลมให้เหมาถึง 4 ชั่วโมง รวมถึงไม่ให้นักท่องเที่ยว ใช้ทางเลือกอื่นเช่นรถรอบเมือง วินจยย.รับจ้าง ปฏิเสธไม่ให้ใช้บริการของแก๊ปคาร์ซึ่งมีที่ถูกกฎหมาย ส่วนราคาป้ายที่ติดตั้งไว้นั้น ราคาถูกต้องตามที่ทางจังหวัดได้มีการตกลงไว้เมื่อปี 2559
เชิญตัว นางสมจิตร ไปที่ขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปพูดคุยและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการพูดการเจรจา ห้ามบังคับนักท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวเต็มใจที่จะไป พร้อมกับบันทึกปากคำ พร้อมตักเตือน และคาดโทษไว้ ให้คำแนะนำวิธีการเจรจาที่เหมาะสมให้กับนักท่องเที่ยว มิให้มีการกดดัน หรือหว่านล้อมให้ใช้บริการ หาก ไม่เต็มใจ
นางกรรณิการ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ป้ายแสดงราคาที่ติดไว้หลังจุดจอดรถตุ๊กๆ ซึ่งไม่สามารถทำให้นักท่องเที่ยวมองเห็นราคาป้ายได้ แนะนำให้เอาป้ายมาตั้งไว้ด้านนอก เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นได้อย่างชัดเจน และอยากฝากคนขับรถตุ๊กๆ ทุกท่าน ให้ช่วยปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับ และราคาค่าโดยสารอย่างชัดเจน ห้ามโก่งราคานักท่องเที่ยว ถือว่าเป็นภาพลักษณ์ไม่ดีกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา