เรียกสอบ 4 เจ้าของบัญชีม้า หมอฟันสูญ 68 ล้าน! หลงกลอดีตสาวโรงงาน เผยกลัวเป็นผู้ร่วมกระทำผิด รีบมาแสดงตัว ชี้มีถึง 13 คน บางคนซวยแบกหนี้แทน 3.5 ล้าน
จากกรณี น.ส.กบ (นามสมมติ) อดีตสาวโรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ได้หลอกลวงหมอกระต่าย ซึ่งเป็นหมอฟัน เปิดคลินิกอยู่ในตัวเมืองลำพูน ลงทุนค้าหน้ากากอนามัย ค้าเหล็กและค้าทองแดง รวมความเสียหายกว่า 68 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2562 จากการสืบสวนขยายผล พบว่ามีการโยกย้ายเงินที่ได้มาจากการโกงครั้งนี้ไปยังบัญชีเพื่อนและญาติ เจ้าหน้าที่ก็ได้สั่งอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ก่อนที่กลุ่มดังกล่าวจะมาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน เพราะกลัวจะตกเป็นผู้ร่วมกระทำผิดไปด้วย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 31 พ.ค.65 นายชัย (นามสมมติ) อายุ 56 ปี และ นางพร (นามสมมติ) อายุ 55 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย พรเจิมกุล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นิคมอุตสาหกรรม หลังทั้งสองถูกอายัดบัญชี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ามีการเชื่อมโยงคดีกับ น.ส.กบ
จากการสอบสวนทราบว่า กรณีนี้ น.ส.กบ ได้ยืมเงินน้าสาวและน้าเขย จำนวน 2 ล้านบาท แต่ยังไม่คืนเงิน ซึ่งทั้งสองก็ทวงถามมาตลอด จน น.ส.กบ ได้มาหลอกเงินจากหมอฟัน 2.5 แสนบาท อ้างว่านำมาชำระเงินค่าประมูลเหล็กจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม ช่วงเดือนเม.ย.64 แต่ความความจริงกลับนำไปใช้หนี้ให้ตัวเอง จนกลายเป็นบัญชีม้าถูกเจ้าหน้าที่อายัดบัญชีธนาคาร ทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนหนัก
ต่อมา นายโด่ง (นามสมมติ) อายุ 30 ปี และ น.ส.เจี๊ยบ (นามสมมติ) อายุ 31 ปี แฟนสาวเดินทางมาจาก จ.พิษณุโลก เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม หลังโดนอายัดบัญชีเช่นกัน ซึ่ง นายโด่ง ได้ถูกแอบอ้างชื่อเป็นเจ้าของบริษัทรถร่วม และ น.ส.เจี๊ยบ ถูกแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้อของบริษัทแห่งหนึ่งใน กทม. โดยหลอกให้เหยื่อโอนเงินผ่านบัญชี จำนวน 1.5 แสนบาท และ 3 แสนบาท
โดย นายโด่ง ให้ปากคำว่า ตนทำงานการตลาดบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่ง น.ส.กบ เป็นลูกค้า และโอนเงินค่างวดผ่านบัญชีธนาคารตนนานนับปี และทางบริษัทเห็นว่า น.ส.กบ เครดิตดี จึงเพิ่มวงสินเชื่อขึ้นเรื่อยๆ จนมีความคุ้นเคยกันและขอยืมบัญชีธนาคารตน อ้างว่ามีเพื่อนโอนเงินมาใช้หนี้ และแจ้งให้ นายโด่ง หักเงินค่างวดจากยอดเงินนี้ หลังจากนั้นจึงขอยืมบัญชีธนาคารของ น.ส.เจี๊ยบ จนบัญชีทั้งสองถูกอายัด ก่อนเข้าให้ปากคำกับตำรวจดังกล่าว
และก่อนหน้านี้ น.ส.เลิฟ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี และ นายฤทธิ์ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม กรณีถูกอายัดบัญชีเนื่องจากมีเงินผ่านบัญชี น.ส.เลิฟ 24 ล้านบาท ส่วนบัญชี นายฤทธิ์ มีเงินโอนเข้า 5.4 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 64-65 ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปี มีเงินจาก น.ส.กบ โอนผ่านบัญชีธนาคารทั้ง 2 คนมากถึง 159 ครั้ง รวมเป็นเงิน 29.4 ล้านบาท นอกจากนี้ น.ส.กบ ยังได้หลอกให้ น.ส.เลิฟ ช่วยค้ำเงินกู้นอกระบบ 3.5 ล้านบาท แล้วหอบเงินหนีไป ปล่อยให้ น.ส.เลิฟ โดนแก๊งเงินกู้นอกระบบขู่กรรโชกและต้องใช้หนี้ให้ ขณะนี้ยังไม่หมด
ซึ่งจากการตรวจสอบกับแหล่งข่าวนายตำรวจระดับสูงพบว่า ผู้ที่เป็นบัญชีม้ารับเงินโอนจากหมอกระต่าย มีทั้งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูก น.ส.กบ หลอก และเป็นผู้ที่สมรู้ร่วมคิดกับ น.ส.กบ รวม 13 ราย ขณะนี้มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแล้ว 8 ราย มีเงินผ่านบัญชีรวม 40.7 ล้านบาท บางคนทำงานที่เดียวกับ น.ส.กบ และมีเงินเข้าบัญชีโดยไม่ทราบที่มาที่ไปนับล้านบาท ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว