เมียแท้งลูก ผัวเป็นมะเร็ง หมอชี้สาเหตุช็อก "เฟอร์นิเจอร์" ที่หลายบ้านก็เสี่ยงอยู่ แต่ไม่รู้ตัว!

Home » เมียแท้งลูก ผัวเป็นมะเร็ง หมอชี้สาเหตุช็อก "เฟอร์นิเจอร์" ที่หลายบ้านก็เสี่ยงอยู่ แต่ไม่รู้ตัว!
เมียแท้งลูก ผัวเป็นมะเร็ง หมอชี้สาเหตุช็อก "เฟอร์นิเจอร์" ที่หลายบ้านก็เสี่ยงอยู่ แต่ไม่รู้ตัว!

หลังย้ายเข้าบ้านใหม่ ภรรยาแท้งลูก สามีป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูก หมอชี้สาเหตุ “เฟอร์นิเจอร์” ที่หลายบ้านก็เสี่ยงอยู่ แต่ไม่รู้ตัว!

ดร.หง หยงเซียง นักไตวิทยาชาวไต้หวัน เล่าถึงกรณีทางคลินิกที่ถือเป็นอุทาหรณ์ใกล้ตัว เรื่องราวของชายวัย 35 ปีที่มารับการรักษา ในขณะนั้นดูเหนื่อยล้าและแขนขาส่วนล่างมีอาการบวมน้ำมาก เจ้าตัวเปิดเผยว่าเขาย้ายไปอยู่บ้านใหม่เมื่อปีที่แล้ว และป่วยเป็นหวัดตั้งแต่นั้นมา ส่วนภรรยาของเขาก็แท้งลูกหลังจากย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ได้ไม่นาน

เดิมทีไตข้างซ้ายของชายคนนี้ฝ่อแต่กำเนิด ตั้งแต่เด็กเขาใช้ชีวิตโดยมีไตเพียงข้างเดียว ซึ่งหลังจากการแพทย์ตรวจพบว่าการทำงานของตับและไตของเขาแย่ลงเล็กน้อย และพบว่ามีเนื้องอกผิดปกติขนาด 2-3 ซม. ที่ด้านซ้ายของคอ หลังจากการตรวจชิ้นเนื้อจึงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกระยะที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าอาการจะทุเลาลงหลังการฉายรังสี

ทำไมถึงเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูกตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งที่ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์?

ดร.หง หยงเซียง กล่าวว่า เขาสงสัยอย่างมากว่าบุคคลนี้อาจเป็นมะเร็งเนื่องจากพิษของ “ฟอร์มาลดีไฮด์” เนื่องจากการตกแต่งบ้านใหม่ จัดอยู่ในรายชื่อสารก่อมะเร็งประเภท 1 โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และเป็นหนึ่งในมลพิษทางอากาศภายในอาคารที่พบมากที่สุด ขณะที่สาเหตุของอาการเป็นหวัดและมีน้ำมูกไหล ก็เชื่อกันว่าสาเหตุมาจากระดับฟอร์มาลดีไฮด์ที่สูงเกินไปเช่นกัน

คุณหมอเสริมว่า การแท้งบุตรของภรรยาของผู้ป่วยชายนั้น ก็เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการสูดดมฟอร์มาลดีไฮด์ด้วย อย่างไรก็ตาม อาการของภรรยายังค่อนข้างไม่รุนแรงเท่าฝ่ายสามี เหตุผลก็คือภรรยาของเขาชอบดื่มน้ำและกินผักผลไม้ น้ำช่วยให้ร่างกายกำจัดสารพิษ ขณะที่ผักสีเขียวเข้มบางชนิดอุดมไปด้วยวิตามินซีและเส้นใยอาหาร ที่สามารถช่วยให้ร่างกายกำจัดสารพิษเมื่อถ่ายอุจจาระ

ทางด้าน “จ้าว จินเว่ย” วิศวกรคุณภาพอากาศภายในอาคาร กล่าวว่า ฟอร์มาลดีไฮด์ที่มากเกินไปส่วนใหญ่มาจากเฟอร์นิเจอร์ใหม่และสีตกแต่งบ้านใหม่ มีการเติมฟอร์มาลดีไฮด์ในระหว่างการผลิตและการขนส่ง เพื่อป้องกันการบุกรุกของแมลง ดังนั้นปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์จะสูงขึ้นเมื่อตกแต่งบ้านครั้งแรก โดยมักจะเกินมาตรฐาน 2-3 เท่า และในกรณีที่รุนแรงอาจสูงถึงประมาณ 50 เท่า จากระดับมาตรฐาน

ดังนั้น แนะนำว่าเมื่อสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์ สามารถเลือกวัสดุตกแต่งที่มีปริมาณฟอร์มาลดีไฮด์ต่ำหรือเป็นศูนย์ได้ เพื่อลดความเสี่ยงของการปล่อยก๊าซฟอร์มาลดีไฮด์ นอกจากนี้ หลังจากย้ายเข้าบ้านใหม่ ควรเปิดหน้าต่างเพิ่มเพื่อรักษาการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งอาจช่วยให้อากาศภายนอกเจือจางระดับฟอร์มาลดีไฮด์ในบ้านได้

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ