เมียเผยเคยเตือนไม่ฟัง สามีออกจากบ้านไปหาหอย พูดเป็นลาง “ถ้าจะตายก็ตายอยู่กับน้ำ” ก่อนหายตัวข้ามวัน พบเป็นศพในอ่างเก็บน้ำ ลูกช็อกล้มพับ

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2565 ร.ต.อ.สุริยา ใจใหญ่ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนหายตัวไประหว่างออกหาปลา หาหอย และฝักบัว ภายในอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด ต.สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์ จึงประสานเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม ร่วมตรวจสอบ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้เรือท้องแบนออกตามหาภายในห้วย ประมาณ 10 นาที พบศพนายช่วง กรอกงูเหลือม อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 45 ม.4 ต.สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์ ลักษณะนอนคว่ำหน้าลอยอยู่ผิวน้ำ ในสภาพสวมเสื้อแขนยาวสีแดง กางเกงขาสั้นสีดำ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างมาริมฝั่งอ่างเก็บน้ำ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย ในมือยังถือไม้พายเรือไว้แน่น คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม.

หลังจากเจ้าหน้าที่นำศพมาถึงริมฝั่ง ลูกสาวผู้เสียชีวิต อายุ 22 ปี ได้ยืนรอว่าเป็นร่างพ่อตัวเองจริงหรือไม่ เมื่อเห็นชัดเจนว่าเป็นพ่อของตัวเองถึงกับเป็นลมล้มพับ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องหามไปปฐมพยาบาล ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด

สอบถามนางชาติ กรอกงูเหลือม อายุ 59 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีมีอาชีพหาหอยในช่วงกลางคืน ตอนกลางวันจะต้มหอยให้ตนเอาไปขาย จากนั้นสามีจะกลับไปหาฝักบัวต่อ บางครั้งได้ปลากลับมาด้วย ที่ผ่านมาสามีมักจะออกไปเพียงลำพัง ไม่มีเพื่อน

นางชาติ กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้สามีออกจากบ้านไปเวลาประมาณ 08.00 น. เพื่อไปหาหอยเหมือนทุกวัน ตกเย็นไม่เห็นกลับบ้าน กระทั่งรุ่งเช้าจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ประสานเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยตลาดนำเรือออกตามหา กระทั่งมาพบเสียชีวิตในอ่างเก็บน้ำ

นางชาติ กล่าวอีกว่า ตนเตือนสามีประจำ แต่ไม่ฟัง เคยบ่นกับตนเหมือนเป็นลางว่า “ถ้าจะตายก็ตายอยู่กับน้ำ ตายอยู่คนเดียวนี่แหละ” ตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุสลดกับสามีแบบนี้