เมียหลวง เสี่ยก้อง พร้อมสู้คดี เปิดหลักฐาน สาวบุกรังควานหน้าคลินิกฝากครรภ์ ก่อนสามีดับ

Home » เมียหลวง เสี่ยก้อง พร้อมสู้คดี เปิดหลักฐาน สาวบุกรังควานหน้าคลินิกฝากครรภ์ ก่อนสามีดับ


เมียหลวง เสี่ยก้อง พร้อมสู้คดี เปิดหลักฐาน สาวบุกรังควานหน้าคลินิกฝากครรภ์ ก่อนสามีดับ

เมียหลวง เสี่ยก้อง พร้อมสู้คดีเต็มที่ ยันสามีปกป้องครอบครัวจนเสียชีวิต เปิดหลักฐานถูกสาวบุกรังควานหน้าคลินิกฝากครรภ์

จากกรณีญาติของ นายอภิชาติ (ขอสงวนนามสกุล) หรือ เสี่ยก้อง อายุ 39 ปี เจ้าของธุรกิจร้านเกาลัดชื่อดังในจ.กาญจนบุรี เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา หลังตกจากรถกระบะป้ายแดง ซึ่งมี น้องแหม่ม สาวคนสนิทเป็นคนขับ โดยญาติของเสี่ยก้องเกิดความไม่พอใจน้องแหม่ม หลังเห็นคลิปกล้องหน้ารถที่เปิดเผยให้เห็นพฤติกรรม หลังจากเสี่ยก้องตกจากรถ แต่น้องแหม่มรวมถึงน้องชายและเพื่อนที่ขับรถตามหลังกลับไม่รีบเข้าไปช่วยเหลือ ปล่อยทิ้งเป็นเวลานานกว่า 20 นาที จึงโทรตามเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ มานำตัวเสี่ยก้องส่งโรงพยาบาล ทำให้เสี่ยก้องบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต

ล่าสุด วันที่ 2 ก.พ. 65 น.ส.พภัสสรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องของเสี่ยก้อง เปิดเผยว่า เรื่องราวที่ น.ส.แหม่ม พูดในการแถลงข่าวไม่ได้เป็นความจริงทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าเสี่ยก้อง คบหาและใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยมาเป็นเวลากว่า 5 ปี โดยที่พ่อแม่และครอบครัวของเสี่ยก้องรู้เรื่องดีนั้น ก็ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะที่ผ่านมา เสี่ยก้องยังคงไปมาหาสู่และดูแลตนและลูกเป็นอย่างดี กระทั่งตนตั้งท้องลูกคนที่ 2 ที่มีอายุครรภ์ได้ 7 เดือน ซึ่งตนก็ไม่เคยไปหาเรื่องหรือมีปากเสียงมาก่อน มีแต่ฝ่ายของ น.ส.แหม่ม ที่คอยมาตามรังควานหาเรื่องตนเอง

โดยเฉพาะในวันเกิดเหตุ ที่ น.ส.แหม่ม ตามไปหาเรื่องตนเองถึงหน้าคลินิกฝากครรภ์ ซึ่งจากภาพกล้องวงจรปิดด้านหน้าคลินิก จะเห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อ น.ส.แหม่ม ได้ทราบเรื่องว่าเสี่ยก้องพาตนมาฝากครรภ์ที่คลินิก ก็ตามมาหาเรื่องทำร้ายตบตีเสี่ยก้อง และพยายามจะเข้ามาทำร้ายตน ซึ่งเสี่ยก้องก็พยายามที่จะปกป้องตนเองและลูกอย่างเต็มที่ จนต้องยอมขึ้นรถไปกับน้องแหม่ม และสุดท้ายก็เกิดเหตุสลดขึ้น จนเสี่ยก้องไม่ได้กลับมาหาลูกเมียอีก

เรื่องนี้ตนยอมรับว่ายังรู้สึกเสียใจจนถึงทุกวันนี้ เพราะหาก น.ส.แหม่ม ไม่ไปก่อเรื่องที่หน้าคลินิก เหตุการณ์เหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ทุกวันนี้ตนและลูกก็ไม่ต้องสูญเสียเสี่ยก้องไป ดังนั้น ตนเองจึงตั้งใจที่จะพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ในชั้นศาลอย่างเต็มที่ โดยได้มีการติดต่อไปหาทนายตั้มให้มาช่วยทำคดีว่าความในชั้นศาลให้เรียบร้อยแล้ว จากนี้ก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ในการพิสูจน์หาความจริงในชั้นศาลต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ