เมียหลวงเดือด! บุกแจ้งความเมียน้อย เอาผัวพิการทิ้งวัด เผยเงินก็ส่งให้ดูแล ลูกลั่นทำกับพ่อเหมือนปล่อยหมาแมว จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ส.ค.) เวลา 21.00 น. นายวีระพล รักเสมอวงศ์ รองประธานสภาเทศบาลเมืองบ้านดุง ได้รับแจ้งว่า พบชายพิการถูกเอามาทิ้งที่วัดช้างใหญ่ บ้านช้างใหญ่ ต.นาทม อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบพบผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านจำนวนมากอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยมีพระสงฆ์และสามเณรนำผ้าห่มหมอนมุ้งมากางให้ชายพิการ
ชาวบ้านบอกว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่งขับรถจักรยานยนต์เอาชายพิการซ้อนท้ายมาปล่อยไว้ที่ศาลาวัดตั้งแต่บ่าย 2 เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย ต่อมามีลูกๆ และแม่ของชายพิการเดินทางมารับตัว ทราบชื่อชายพิการคือนายภานุวัฒน์ อายุ 45 ปี
สอบถามนางดาริกา ลูกสาว เผยว่า พ่อป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ และผ่าตัดมาแล้ว เพิ่งป่วยมาได้ 1 ปี ส่วนคนที่นำพ่อมาทิ้งคาดว่าจะเป็นนางภักดี อายุ 42 ปี ชาวบ้านบ้านวังชัย ต.วังทอง อ.บ้านดุง ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ของพ่อ
ต่อมาเวลา 14.00 น. นางลัดดาวัลย์ ภรรยาหลวง และลูกสาวอีก 3 คนได้เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งฝน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับภรรยาน้อยของนายภานุวัฒน์ โดยนางลัดดาวัลย์ ภรรยาหลวง เปิดเผยว่า ตนอยู่กินฉันสามีกับนายภานุวัฒน์มาหลายสิบปีจนมีลูก 3 คน และจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย
นางลัดดาวัลย์ กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วง 4 ปีที่แล้ว สามีได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหนองหญ้าลังกาที่ อ.กุมภวาปี เพียงลำพัง ส่วนตนและลูกสาวไปทำงานที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้กลับมาบ้าน ปรากฏว่า สามีแอบไปชอบพอกับนางภักดีที่อยู่อีกหมู่บ้าน และเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตนจับได้จึงบอกว่าให้เลือกเอาระหว่างตนและลูก แต่สามีดันไปเลือกภรรยาน้อย จากนั้นเขาก็ไปอยู่กับภรรยาน้อยที่อ.บ้านดุง
นางลัดดาวัลย์ กล่าวอีกว่า เมื่อปีที่แล้วสามีป่วยเส้นเลือดในสมองตีบต้องผ่าตัดครึ่งซีก และเดินไม่ได้ ตอนแรกลูกสาวบอกว่าจะเอาพ่อไปดูแล แต่นางภักดีที่เป็นภรรยาใหม่ไม่ยอม บอกว่าจะดูแลเอง แต่อยากให้ช่วยส่งเงินให้ทุกเดือนเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย แม้ตนจะเลิกรากันไปแล้ว รวมถึงลูกๆ ก็ส่งเงินให้ทุกเดือน เดือนละ 2,000-3,000 บาท เพราะคิดว่าเขาเป็นพ่อของลูก และลูกๆ ก็ห่วงพ่อ แต่ปรากฏว่าเขาเอาสามีมาทิ้งที่วัด ตนโกรธมาก เขาทำได้ไง ตนจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ทุ่งฝน เพื่อบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าภรรยาน้อยนำสามีมาทิ้ง
ด้าน น.ส.ดาริกา อายุ 28 ปี ลูกสาวคนโต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาใหม่ของพ่อโทรไปบอกย่าว่าจะเอาพ่อไปส่ง เพราะจะไปทำงานกรุงเทพฯ พวกตนก็บอกว่าให้เอามาส่งได้เลยที่บ้านกุมวภาปี หากไม่มีค่ารถจะส่งมาให้ จากนั้นภรรยาน้อยก็โทรมาบอกอีกว่าเอาพ่อมาไว้ที่วัดบ้านช้างใหญ่ให้มารับด้วย ตนก็ตกใจไหนว่าจะเอามาส่งที่บ้าน ทำไมเอามาทิ้งที่วัด
น.ส.ดาริกา กล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้ดูในไลฟ์สดบ้านดุงอัพเดท จึงพบว่าคนที่ถูกทิ้งเป็นพ่อของตน จึงรีบมารับพ่อ ตนในฐานะลูกไม่ยอมแน่ มาทำกับพ่อตนแบบนี้ เขาเอาพ่อที่ป่วยพิการใส่รถจักรยานยนต์ แล้วเอาเชือกมัดกับเอวขับมาจากบ้านวังชัยมาถึงบ้านช้างใหญ่ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร ปล่อยทิ้งวัดเหมือนหมาแมว ตนจะแจ้งความดำเนินคดีกับภรรยาน้อยของพ่อให้ถึงที่สุด
ต่อมาภรรยาหลวงและลูกๆ ของนายภานุวัฒน์ ได้เดินทางไปที่บ้านวังชัย หมู่ 9 ต.วังทอง เพื่อไปขอเอกสารบัตรคนพิการและยารักษากับภรรยาน้อย โดยมีนายบุญมา วงศ์ศาสน์ ชาวบ้านบ้านวังชัย หมู่ 9 เดินทางไปที่บ้านของนางภักดี เพื่อเป็นสักขีพยาน แต่พอเข้าไปที่บ้าน ปรากฏว่าเจอลูกชายของนางภักดีที่อยู่ในบ้านร้องตะโกนออกมาว่า “ใครมาดูถูกแม่กู ออกจากบ้านไปเดี๋ยวนี้ ผู้ใหญ่บ้านกูก็ไม่กลัว ไสหัวออกไป”
ผู้ใหญ่บ้านและลูกๆ ของนายภานุวัฒน์เห็นท่าไม่ดี เพราะชายคนดังกล่าวติดยาเสพติด ต่อมานางเหี่ยวและนางนารี ซึ่งเป็นแม่และน้าของภรรยาน้อย เข้ามาพบกับผู้ใหญ่บ้านและลูกๆ ของนายภานุวัฒน์บอกว่า นางภักดีมีอาการทางประสาทไปแล้ว โดยให้น้าและแม่มามารับหน้าแทน บอกแค่ว่าจะพาสามีไปหาหมอ และพาไปปล่อยไว้ที่วัด ตอนนี้นางภักดีเหมือนคนมีอาการทางประสาทอย่างมาก ไม่รู้เป็นอะไร จึงไม่อยากให้ลูกๆ และภรรยาหลวงของนายภานุวัฒน์เอาเรื่องเอาราว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายภานุวัฒน์ เปิดเผยว่า เขาพาขึ้นรถจักรยานยนต์มาไว้ที่วัด และบอกว่าให้รออยู่นี่นะ จากนั้นเขาก็ไม่กลับมาเลย ตนคงไม่ง้อที่เขาเอามาทิ้ง แต่ก็รักภรรยาน้อยอยู่ เพราะรู้จักมาหลายปีแล้ว จากนั้นก็ไปอยู่กับภรรยาน้อยที่บ้านดุง เมื่อปีที่แล้วตนผ่าตัดสมองจนเป็นคนพิการติดเตียง เราป่วยเขาคงไม่อยากดูแลจึงเอามาทิ้งที่วัด ตอนนี้คงไม่กลับไปหาภรรยาน้อยที่ทิ้งตนเองอีกแล้ว
ด้านนางดอกไม้ อายุ 74 ปี แม่ของนายภานุวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นางภักดีโทรมาบอกตนว่า ให้มารับนายภานุวัฒน์ที่บ้านดุง เพราะจะหนีไปทำงานกรุงเทพฯ ตนบอกว่าให้เอามาส่งที่กุมภวาปีเลยจะส่งค่ารถให้ แต่เมื่อวานเขาโทรมาบอกว่าให้ไปรับที่บ้านช้างน้อย เอาปล่อยไว้ที่วัด ตนก็โกรธมาก มาปล่อยทิ้งลูกชายตนแบบนี้ได้ยังไง เขาเดินไม่ได้เป็นคนพิการติดเตียง
นางดอกไม้ กล่าวต่อว่า ตนไม่ยอมจะเอาเรื่องนางภักดีให้ถึงที่สุด เขารู้จักกัน 3-4 ปีที่แล้ว ไม่รู้ผู้หญิงทำอะไรถึงทำให้ลูกชายหนีไปอยู่กับเขา จนยอมเลิกกับเมียที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายและทิ้งลูกๆ อีก 3 คน ภรรยาใหม่ของลูกชายใจดำมาก