เมียสุดทน! แย่งอีโต้ฟันดับ ผัวขี้ยา ติดเหล้า บังคับให้ซื้อทุกวัน เมาก็ทำร้าย สอบสวนยังให้การภาคเสธ อ้างไม่มีเจตนาฆ่า

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 16 พ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุภรรยาฆ่าสามีตัวเองตาย ที่กระท่อมกลางทุ่งนา ทางทิศใต้ของบ้านหนองหญ้าปล้อง ม.12 ต.หนองแวงโสกพระ อ.พล จ.ขอนแก่น

ที่เกิดเหตุพบผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองหญ้าปล้อง และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต กำลังช่วยกันเก็บสิ่งของและทำความสะอาดจุดที่เกิดเหตุ พบขวดสุรา 40 ดีกรีที่ดื่มหมดแล้ว 1 ขวด อีก 1 ขวดยังหลงเหลือเพียงเล็กน้อย มีคราบเลือดติดอยู่ที่พื้นไม้ และชุดเครื่องเสียงตั้งอยู่พร้อมลำโพง รวมถึงไมโครโฟนที่เปื้อนคราบเลือด

นางดาหวัน ปานาราช อายุ 56 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองหญ้าปล้อง กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่โทรแจ้งว่า นางทัศนีย์ พัฒน์เพ็ง อายุ 51 ปี หรือนางเขียว โทรมาบอกว่า ฆ่าสามีตัวเองเสียชีวิตที่กระท่อมกลางทุ่งนา จึงรีบประสานหาญาติพี่น้องนางเขียวที่บ้านหนองแวงโสกพระ และแจ้งเรื่องดังกล่าวให้ทราบ พร้อมแจ้งตำรวจ สภ.พล มาตรวจที่เกิดเหตุ

ร.ต.อ.ประภาส พรพิพัฒน์ รองสว.(สอบสวน) สภ.พล กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือภรรยาผู้ตาย คือนางทัศนีย์ หลังก่อเหตุภรรยาเดินเข้าไปอยู่ในบ้าน จึงติดตามตัวนางทัศนีย์ได้ที่บ้านพัก พร้อมอาวุธมีดอีโต้ 1 เล่ม ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.พล

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบศพนายไพทูล พัฒน์เพ็ง อายุ 53 ปี สภาพศพนอนใส่กางเกงในเพียงตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่า นอนตะแคงซ้าย มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่ใต้ใบหูขวา เป็นแผลฉกรรจ์ เลือดสาดกระเด็นไปทั่ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานสมาคม VR กู้ภัยมิตรภาพ เมืองพล มารับศพผู้ตาย ส่งไปยังนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรศพตามขั้นตอน

จากการสอบสวนนางทัศนีย์ ให้การว่า อยู่กินกับสามีมานานหลายปี ช่วยกันทำมาหากิน ทำไร่ ทำนา เลี้ยงวัว และพากันออกไปอาศัยอยู่ที่กระท่อมนาจุดเกิดเหตุ แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สามีติดยาเสพติดและติดสุรา จะบังคับให้ไปซื้อยาบ้ามาให้เสพ บังคับซื้อสุรามาให้ดื่มทุกวัน เมื่อเมาก็จะทำร้ายร่างกาย แต่ก็ทนมาตลอด

นางทัศนีย์ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้าสามีบังคับให้ไปซื้อสุรามาให้ดื่มก็ซื้อมาให้ ช่วงเย็นก็บังคับให้ไปซื้ออีก ก็ไปซื้อมาให้ จากนั้นสามีก็ดื่มสุราด้วย ร้องเพลงไปด้วย ตกดึกสามีเรียกให้ไปพบยังจุดที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็พบสามียืนถือมีดอีโต้อยู่ จึงพูดด้วยดีๆ แต่สามีบังคับให้ไปซื้อยาบ้าและสุรามาให้อีก พร้อมกับเงื้อมีดจะฟัน จึงเกิดการต่อสู้และถูกสามีตบตี ทำร้ายร่างกาย จึงพยายามแย่งมืดคืน เป็นจังหวะที่สามีล้ม จึงหลับตาฟันไปที่ร่างสามี จนสามีแน่นิ่งและเงียบเสียงไป จึงรีบวิ่งหนีกลับไปที่บ้าน เพราะกลัวสามีจะลุกมาทำร้าย

ร.ต.อ.ประภาส กล่าวต่อว่า ภายหลังการสอบสวน จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ผู้ต้องหาให้การภาคเสธ เพราะไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้มีเจตนาฆ่าสามีตัวเอง ในขณะที่ญาติพี่น้องทั้งฝ่ายสามีและฝ่ายผู้ต้องหาก็ช่วยกันหาหลักทรัพย์มาประกันตัวผู้ต้องหา ซึ่งให้ประกันไปเรียบร้อยแล้ว และปล่อยตัวชั่วคราว