เมียตำรวจ บุกร้อง ผบช.ภ.4 ถอนชื่อคำสั่งย้ายสามีอย่างไม่เป็นธรรม เชื่อถูกกลั่นแกล้ง

Home » เมียตำรวจ บุกร้อง ผบช.ภ.4 ถอนชื่อคำสั่งย้ายสามีอย่างไม่เป็นธรรม เชื่อถูกกลั่นแกล้ง


เมียตำรวจ บุกร้อง ผบช.ภ.4 ถอนชื่อคำสั่งย้ายสามีอย่างไม่เป็นธรรม เชื่อถูกกลั่นแกล้ง

เมียตำรวจ บุกร้อง ผบช.ภ.4 ถอนชื่อคำสั่งย้ายสามีอย่างไม่เป็นธรรม เชื่อถูกกลั่นแกล้ง หลังทำคดีช่วยชาวบ้าน สู้กับผู้มีอิทธิพล

วันที่ 20 มี.ค.66 ที่ห้องรับเรื่องร้องทุกข์ ตำรวจภูธรภาค 4 น.ส.สุกฤตา เชื้อพรมมา ภรรยาของ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ จันทร์แปลง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมชาวบ้าน 20 คน เข้ายื่นหนังสือ ขอความเป็นธรรม ให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พิจารณาอุทธรณ์ถอนชื่อ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ ออกจากคำสั่งย้าย ตร.ที่ 315/2566 โดยมี พล.ต.ต.กีรติพนธ์ สุวรรณะพิชญา ผบก.อก.ภ.4 เดินทางมารับหนังสือดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมรับฟังด้วย

น.ส.สุกฤตา กล่าวว่า สามี มีบ้านเกิดและที่อยู่ปัจจุบัน ที่บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น และเป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาคอมพิวเตอร์ศึกษา ทั้งเป็นผู้เชี่ยวขาญด้านคอมพิวเตอร์ ในสำนวนอาญา ให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ทำงานด้วยความเข็มแข็ง ขยันทำงานมาโดยตลอด ข้อบกพร่องไม่มี ไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบวินัยแต่อย่างใด

จากการมีคำสั่งย้ายดังกล่าว ทำให้สามีและครอบครัวได้รับความเดือดร้อน และเสียหาย คือสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงวงค์ตะกูล โดยการย้ายครั้งนี้ ถูกย้ายโดยไม่ได้เขียนคำร้อง ไม่ได้ทำเรื่องร้องขอย้ายแต่อย่างใด ทำให้เพื่อนๆ ตำรวจในที่ทำงานและชาวบ้านเกิดความคิดว่า เป็นการถูกย้ายมืด เพราะได้กระทำความผิดอะไรสักอย่าง ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ต่อตัวผู้ถูกย้าย และต่อครอบครัววงศ์ตระกูล เพราะนำเงินที่ใช้จ่ายของครอบครัว ไปเป็นค่าเดินทางไปกลับในการไปปฏิบัติงานที่ สภ.เมืองสกลนคร รวมทั้งคำสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์การทำงานต่างๆ ทำให้ภาวะการเงินของครอบครัวเดือดร้อน

ทำให้ครอบครัวเกิดการแบ่งแยกกัน ขาดเสาหลัก มีการแยกกันอยู่ ระหว่างสามี ภรรยา ขาดความอบอุ่นจากเสาหลักของบ้าน พ่อไปทาง แม่ไปทาง ลูกๆ และพ่อกับแม่ที่อายุมากแล้ว ขาดคนดูแล ซึ่งสามี เป็นผู้เดียวในครอบครัวที่ทำงานรับราชการ และเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้ผู้ถูกย้ายและคนในครอบครัว เกิดขวัญเสีย รู้สึกเศร้าใจ โดยไม่มีสาเหตุ ไม่รู้เรื่องใดๆ มาก่อน คล้ายถูกรังแก จากอิทธิพลมืด ซึ่งเป็นการย้ายโดยไม่มีความเหมาะสม

น.ส.สุกฤตา กล่าวต่อว่า คาดการณ์ว่าในการย้ายครั้งนี้ น่าจะเกิดจากผู้มีอิทธิพลระดับสูงในคคีอาญาที่สามีทำสำนวนคคีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ ในคดีการฉ้อโกงเกี่ยวกับเรื่องที่ดินของขาวบ้าน ใน จ.ขอนแก่น จำนวน 10 คดี และคดีการแจ้งความเท็จเพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษ หรือคดีอื่นๆ เนื่องจากสามีเป็นคนตรงๆ ทำงานด้วยความเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหวต่อผู้มีอิทธิพลต่างๆ ขณะนี้หลายเรื่องอยูในขั้นพิจารณาของอัยการ ซึ่งการย้ายอกจากพื้นที่ครั้งนี้ น่าจะทำให้เกิดอุปสรรคต่อการคำเนินคดีในชั้นศาลของเจ้าของคดีได้

ตนในฐานะภรรยา จึงมาพบผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และขอยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมอุทธรณ์คำสั่งย้ายดังกล่าว เพื่อขอให้พิจารณาอุทธรณ์คำสั่งให้ถอนชื่อ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ ออกจากคำสั่งย้ายเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสามี รวมทั้งขอให้ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ มาปฏิบัติราชการที่ สภ.เมืองขอนแก่น ดังเดิมจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

พล.ต.ต.กีรติพนธ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่ร่วมเดินทางมากับภรรยาของนายตำรวจรายดังกล่าว ทราบว่า เป็นผู้เสียหายในคดีที่ถูกฉ้อโกงเอาที่ดินไป มีความเสียหาย กับประชาชนหลายราย จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ดร.ชัยยุทธ และมีการสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่อง หากตำรวจรายดังกล่าวย้ายไป ชาวบ้านเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า คนทำผิดอาจจะพ้นผิดก็ได้ จึงได้ทำความเข้าใจว่า คดีนั้น แม้พนักงานสอบสวนย้ายไป แต่การทำคดียังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมี พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ควบคุมดูแลการสอบสวน ชาวบ้านไม่ต้องกังวลใจในเรื่องคดี ยืนยันว่าจะสืบสวนสอบสวนให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวบ้านทุกราย

พล.ต.ต.กีรติพนธ์ กล่าวอีกว่า กรณีนี้จะนำเรียนต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป แต่ในขณะเดียวกันเมื่อย้ายไปแล้ว หากต้องการทำงานอยู่ที่ สภ.เมืองขอนแก่น ก็สามารถยื่นทำเรื่องขอช่วยราชการได้

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ