เมินปุ๋ยแพง! ชาวนาหาทางพ้นทุกข์ รวมกลุ่มผลิตปุ๋ย ยาไล่แมลงใช้เอง ลดต้นทุนกว่าครึ่ง

Home » เมินปุ๋ยแพง! ชาวนาหาทางพ้นทุกข์ รวมกลุ่มผลิตปุ๋ย ยาไล่แมลงใช้เอง ลดต้นทุนกว่าครึ่ง



ชัยนาท ปุ๋ยเคมีขึ้นราคา ผลักต้นทุนสูงขึ้น แต่ข้าวเปลือกราคากลับไม่ขึ้น ขายข้าวไม่เหลือกำไร ชาวนารวมตัวตั้งกลุ่มหาทางออก ผลิตปุ๋ย สารไล่แมลง ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้กว่าครึ่ง

จากสภาวะเศรษฐกิจราคาสินค้าขยับตัวสูงขึ้นเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง แต่ราคาข้าวเปลือกไม่ขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้น ชาวนาทำนาขายข้าวแทบไม่เหลือกำไร ทำให้ชาวนาอยู่ยาก ต้องดิ้นรนหาทางออกเพื่อลดต้นทุน

ชาวนา หมู่ 3 บ้านบางไก่เถื่อน ตำบลตลุก อำเภอสรรพยา รวมตัวตั้งกลุ่มผลิตปุ๋ยและสารไล่แมลงใช้เอง ทำให้สามารถลดต้นทุนการผลิตได้

นายชยัน พิทักษ์พูลศิลป์ ประธานศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนบ้านบางไก่เถื่อน เผยว่า ก่อนที่จะใช้ปุ๋ยสั่งตัด หรือ ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ต้นทุนการทำนาอยู่ที่ตันละ 5,000 บาท เนื่องจากต้องซื้อทั้งปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง โดยเฉพาะปุ๋ยเคมีใช้ไร่ละ 1 กระสอบ (50กก.)

หลังจากได้มีการตั้งกลุ่ม และทำปุ๋ยน้ำหมักใช้เอง เช่น ปุ๋ยยูเรียน้ำจากถั่วเหลือง บวก น้ำตาลทรายแดง น้ำหมักมูลค้างคาว บวก กากน้ำตาล และจุลินทรีย์อีก 3 ชนิด ทำให้สามารถลดปุ๋ยเคมีลงจากเดิมที่ใช้ปุ๋ยเคมี 1 กระสอบต่อไร่ หรือ 50 กก. ลดลงมาเหลือไร่ละ 30 กก.ต่อไร่

ส่วนยาฆ่าแมลงที่เคยซื้อ ก็เปลี่ยนมาทำสารชีวภัณฑ์ไล่แมลงใช้เอง เช่น บิวเวอร์เรีย เมธาไรเซียม และไตรโคเดอร์มา เพื่อลดการซื้อสารเคมีฆ่าแมลง ทำให้สามารถลดต้นทุนจากเดิมเฉลี่ยประมาณ 4,000-5,000 บาท เหลือ 3,000-3,500 บาทต่อไร่

ตอนนี้ชาวนามีความกังวลว่า ราคาปุ๋ยเคมีจะสูงขึ้นไปอีก เพราะหากไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ผลผลิตก็จะไม่ได้เลย ชาวนายังต้องพึ่งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยยูเรียกระสอบละ 1,600 บาท แม่ปุ๋ย 18-46-0 ราคาอยู่ที่กระสอบละ 2,000 บาท จากเดิมราคา 800-900 บาท ขณะที่ ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ 6,000 – 8,000 บาทต่อตัน ชาวนา จึงต้องพยายามหาทางลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด มิฉะนั้นอยู่ไม่ได้ขายข้าวไม่เหลือกำไร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ