เมธี ลาบานูน เปิดใจ ลงสนามการเมือง โดนด่ายับ ภรรยาเข้าใจ มุ่งหวังสร้างนโยบาย
นักร้องเสียงดี เมธี ลาบานูน ที่วันนี้มาเผยถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ทิ้งวงการเพลง ลงสู่สนามการเมือง ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ลาบานูน ดังมาตลอด อยู่ดีๆ 8 ปีให้หลังหายเลย? เมธี : ลาบานูน จะมีหาย 2 ช่วง ช่วงแรกคือช่วง ยุค 90 ก็ไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย สอนวิชา รัฐศาสตร์ เสร็จแล้วกลับมาอยู่แกรมมี่ ทำอัลบั้ม ที่มีเพลง เชือกวิเศษ, แพ้ทาง, ใจกลางเมือง
ช่วงเวลาที่เป็นอาจารย์กี่ปี? เมธี : ประมาณ 4-5 ปี ครับ
แล้วอะไรที่ทำให้เรากลับมาอีก? เมธี : ต้องเข้าใจว่ายุคนั้น ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วกระแสเพลงมันเปลี่ยนไปเยอะมาก แล้วเราอาจจะคิดไปเองว่าเขาอาจจะไม่ได้ฟังเพลงแบบเราแล้วมั้ง แล้ว 2.เราอยากไปทำในสิ่งที่ตัวเองเรียนมา
ตอนนั้นเราเป็นลาบานูน ตั้งแต่เราเด็กๆ ตอนอายุ 18 ปี ออกมาเพลง ยาม, 191, แฟนเก่า เรารู้สึกว่าพอเราเรียนจบลองกลับไปทำในสิ่งที่อยากทำดูว่ามันเป็นแบบไหนบ้าง ก็ไปทำ พอไปทำเสร็จแล้ว พี่กบ บิ๊กแอส บอกว่ากูคิดถึง ลาบานูน วะ
เบรกแรกคือ 7-8 ปี? เมธี : ใช่ครับ หลังจากนั้นพี่กบบอกว่าคิดถึงลาบานูน มึงกลับมาทำลาบานูนอีกรอบได้ไหม
ช่วง 7-8 ปีตอนนั้นไปทำอะไร? เมธี : เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยแล้วก็เป็นเลขานุการนายก อบจ.แล้วช่วงนั้นช่วงมีลูกคนแรกด้วย
ตอนเป็นอาจารย์ นักศึกษาเดินเข้ามาในห้อง นี่มัน เมธี ลาบานูน นี่? เมธี : ก็แซว อาจารย์ร้องเพลงหน่อย อาจารย์หนูชอบเพลงอาจารย์มากเลย
พอเป็นอาจารย์แล้วกลับไปร้องเพลง เพลงก็ดังมาก? เมธี : กลับมา เชือกวิเศษ
ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง เราหยุดไปหลายปี มีความหวั่นใจไหม? เมธี : แน่นอนอยู่แล้วครับ กลับมาครั้งนี้เรารู้สึกว่า ในเมื่ออยากกลับมาทำลาบานูน ก็ทำในสิ่งที่เราเป็น เหลือเชื่อในยุคนั้นเขายังฟังเพลง เชือกวิเศษ ของลาบานูน อยู่เรารู้สึกตกใจเหมือนกัน ไม่ถึงเดือน 100 กว่าวิว
ตอนปล่อย เชือกวิเศษ คิดไหมถ้าพังหรือคนไม่ฟัง เราจะกลับไปสอน? เมธี : ไม่ๆ เราไม่คิดว่าจะดังอะไรมากมาย เพลง เชือกวิเศษ ตอนที่นั่งคุยอยู่ที่ค่ายเพลง ว่าเราจะปล่อยเพลงอะไรก่อน ผมยังไม่อยากปล่อยเพลงเชือกวิเศษเลย
ทีมงานบอกปล่อยเพลงนี้แหละ แต่โชคดีที่ทาง genie records เขามีทีมที่เก่ง เขาปูพื้นฐาน การกลับมาของ ลาบานูน จำได้ว่า มีรูปพี่ตูน บอดี้สแลม ถือนมแล้วบอกว่าสิ่งที่คุ้นเคยกำลังจะกลับมา หลังจากนั้นก็พี่หนุ่ม กะลา รสชาติที่คุ้นเคยกำลังจะกลับมา เขายิงปูพื้นฐานมาแล้ว
ทุกวันนี้มีลูก 3 คน? เมธี : ใช่ คนโตอยู่ ม.6 แล้วก็คนที่ 2 เป็นผู้ชายเหมือนกัน กำลังจะขึ้น ม.4 แล้วเรารู้สึกอยากได้ลูกผู้หญิงสักคน คนที่ 3 ก็ได้ลูกผู้หญิง ตอนนี้อยู่ ป.1 พอได้ลูกผู้หญิงมันสุดยอดแล้ว เข้าใจเลยว่ามีลูกสาวแล้ว เราเป็นห่วงลูกสาวมากกว่า เราพยายามบอกลูกชายว่า เราเป็นผู้ชายลูกต้องดูแลเขา ลูกต้องดูแลผู้หญิงนะ แต่พอเป็นผู้หญิงเราคิดว่า แล้วใครจะมาดูแลเขาแทนเรา
ลูก 3 คนใครดื้อสุด? เมธี : ผมว่าไม่เหมือนกัน คนละแบบ คนละสไตล์ พี่คนโตค่อยข้างเป็นคนนิ่งๆ เวลาโกรธจะไม่ค่อยแสดงอาการ คนที่สองจะเป็นคนที่เฟรนลี่ แต่เวลาโมโหจะแสดงออกเลย ลูกคนเล็กแสบสุดแล้วมั้ง
สมัยก่อนตอนเรามีลูก เราต้องปิดบังไหม? เมธี : ไม่ครับ ผมเปิดเผย แต่เมื่อก่อนมันไม่ได้มีโซเชียลขนาดนี้
ทำไมผมไม่รู้ว่าเมธีมีลูกแล้ว? เมธี : ส่วนใหญ่แฟนผมจะไม่ค่อยออกสื่อ เขาจะมีมุมส่วนตัวของเขา
กับภรรยาคบมากี่ปีแล้ว? เมธี : ผมจีบเขาตอนที่ทำกิจกรรมมหาวิทยาลัยปี 2 มันเหมือนพี่จีบน้อง ผมอยู่ปี 4 ภรรยาอยู่ปี 2 เวลาเราทำกิจกรรมลงค่ายอาสาต่างๆ รู้สึกว่าเคมีเราตรงกัน ถามว่าจีบยังไง ก็ให้เพื่อนไปขอเบอร์โทรศัพท์ให้หน่อยได้ไหม พอได้เบอร์ผมก็โทรไป หลังจากนั้นก็คุยไป คุยมา ทำกิจกรรมก็คลิกกัน แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีหวานๆ เรานัดทำกิจกรรมด้วยกัน เราทำจิตอาสา คุยทุกอย่างมันลงตัวกัน
เป็นคู่ที่แทบจะไม่ทะเลาะกันเลย เห็นว่าเป็นสามีที่ดีมาก จะขอโทษก่อนเสมอ? เมธี : ไม่ถึงขนาดนั้น ผมแต่งงานกับเขา ผมเป็นลาบานูนแล้ว ก็เลยบอกเขาว่าชีวิตผมอาจจะไม่เหมือนคนทั่วไปนะ เพราะเราทัวร์คอนเสิร์ต เราอาจจะไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน เพราะฉะนั้นอะไรที่เกิดขึ้น เราขออภัยจากใจจริงๆ แล้วก็ขอบคุณมากที่อยู่เคียงข้างเรา เข้าใจเรา
ตอนนั้น ลาบานูน ดังมาก ไปเล่นทุกที่ในประเทศไทย มันต้องมีแฟนๆ ที่สวยๆ โยนทั้งตัวให้กับนักร้องนำ ลาบานูน เราทำยังไงในการตัดหรืออธิบายให้ภรรยาฟัง? เมธี : ผมว่าเขาเข้าใจวิถีชีวิตคนที่อยู่บันเทิง ครอบครัวสิ่งที่ทำให้อบอุ่นที่สุดมันไม่ใช่เรื่องอะไรก็แล้วแต่นะ มันเป็นเรื่องความเข้าใจ
ส่วนใหญ่ทะเลาะกันเรื่องอะไร? เมธี : ไม่ค่อยมีเรื่องใหญ่ มันเหมือนเป็นเพื่อน เข้าใจกัน ตอนแต่งงานแรกๆ เขาทำอาหารไม่เป็น ผมบอกไม่ต้องซีเรียส ถ้าทำไม่เป็นเราก็ไปกินข้างนอก ผมเป็นคนชอบทำอาหาร ก่อนหน้านี้ผมทำอาหารให้เขากิน แต่ทีนี้เขารู้สึกอยากทำ เขาทำซุปเนื้ออร่อยมาก พอเราบอกว่าอร่อยทำก็ทำทุกวัน
ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ อย่างเรื่องงาน เรื่องการเมือง เราปรึกษาภรรยาไหม? เมธี : ปรึกษาครับ เขาเข้าใจนะครับ จริงๆ เขาไม่อยากจะให้ลงหรอก แต่สุดท้ายเขาก็เข้าใจ เขาคงจะคิดว่าผมอยากจะลองอะไรในอีกเส้นทางหนึ่ง
เรื่องการเมืองตัดสินใจนานไหม? เมธี : ก็นานเหมือนกันนะ
แล้วอะไรทำให้เราคิดว่าเราอยากเล่นการเมือง? เมธี : นโยบายมั้งครับ เรารู้สึกว่าประเทศมันจะเปลี่ยนแปลงได้ด้วยมิติการเมืองจริงๆ ตอนนั้นเราทำงานจิตอาสา เราช่วยอะไรต่างๆ ไม่ว่าจะโควิด ตอนโควิด 3 ปี ผมหมดกับถุงยังชีพเยอะมาก แต่เรารู้สึกมันก็ได้แค่จิตอาสา เราว่าถ้าเด็กรุ่นใหม่ๆ ไม่เข้ามาในยุคนี้ อีก 20 ปีข้างหน้า เราจะฝากความหวังที่ใคร และเรารู้สึกว่าบ้านเมืองจะไปได้มันต้องขับเคลื่อนด้วยการเมือง
จุดเริ่มต้นในการสนใจคือเมื่อไหร่? เมธี : ช่วงระหว่างเบรก
อะไรมันจุดไฟให้เราอยากเล่นการเมือง? เมธี : ผมเคยเป็นเลขานุการนายก อบจ.สตูล 1 นโยบายสิ่งที่เราทำมาทั้งหมดมันให้กับคนสามแสนคนได้เกิดประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น เรียนฟรี อยากเห็นเหลือเกินว่าประเทศไทยคนจนๆ คนหนึ่งที่เขาไม่มี แต่เขามีโอกาสจบ ม.6 แล้วเขาไม่มีโอกาสที่จะไปเรียนปริญญาตรีได้ เราแค่ให้ทุนคนเดียวได้ แต่ถ้าปีหนึ่งเด็กจบ 2-3 แสนคน เราไม่สามารถจะให้ได้ เพราะฉะนั้นนโยบายมันทำได้
การเล่นการเมือง มันมีทั้งเสียงบวก และเสียงลบ ซึ่งเสียงลบมันมาดังมาก ทำไมถึงรับได้? เมธี : เราต้องรับ นี่คือมิติของการเมือง บุคคลสาธารณะไม่ว่าจะเป็นทั้งการเมืองทั้งวงการบันเทิง มันต้องยอมรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติในมุมมองผม แต่สุดท้ายเขาจะวิพากษ์วิจารณ์เราขนาดไหน เขาไม่อาจจะเข้าใจเจตนารมณ์เราจริงๆ ว่าเจตนารมณ์ของเรามันคืออะไร ผมเปิดตัวแรกๆ โดนด่าเต็มเลย
ณ ตอนนี้ลาบานูน ยังมีสัญญากับค่ายไหม? เมธี : ยังมี ยังอยู่ด้วยกันปีกว่าๆ
ผู้ใหญ่บ่นไหมเรื่องการเล่นการเมือง? เมธี : ไม่บ่นเขาเข้าใจ ได้นั่งคุยกับพี่อ๊อฟ พี่กบ เขาเข้าใจ เป็นเรื่องที่เมธีอยากจะลองทำอีกทีหนึ่ง
คุยกับพี่อ๊อฟ พี่กบ แสดงว่าตอนนั้น ลาบานูน ยังเซ็นอยู่กับ genie records? เมธี : ครับ ตอนนี้ก็ยังอยู่ genie records อยู่ครับ
เท่ากับว่าเรามาลงการเมืองทุกคนโอเคหมด? เมธี : ทุกคนเข้าใจ ได้คุยกับวง ช่วง 2 เดือนนี้ยังไม่รับงานนะ เพราะต้องลงพื้นที่ ต้องไปเยี่ยมชาวบ้าน ก็เตรียมตัวมาเป็นปี ทุกคนก็เข้าใจ ปกติ ลาบานูน 1 ปีจะทำงาน 10 เดือน อีก 2 เดือนเราจะ Relax เราจะพักหยุดเดือนหนึ่งคือเดือน รอมฎอน อีกเดือนก็ให้ทุกคนไปเที่ยว
มองอนาคตของเราบนเส้นทางการเมืองไว้ยังไงบ้าง? เมธี : ยังไม่ได้มองยาวถึงขนาดนั้น เดือน พฤษภาคม นี้ไม่รู้จะสอบผ่านหรือเปล่า ถ้าสมมติได้เป็นก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด