ในสถานการณ์ตลาดที่มีความผันผวนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ นับเป็นความท้าทายของทุกบริษัทไม่เพียงเฉพาะในไทย แต่รวมถึงทุกภูมิภาคทั่วโลกในขณะนี้ ที่ทุกบริษัทต้องเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับเทรนด์สุขภาพให้เร็วที่สุด ยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดในปี 2563 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากกว่าแต่ก่อน ทั้งการหาข้อมูลดูแลป้องกันตัวเอง ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตแบบใหม่ (New normal) รวมถึงการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น จะเห็นได้ชัดจากการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริ้ง อย่างตลาดเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน และ น้ำดื่มผสมวิตามิน ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา แบรนด์เมจิ ในฐานะผู้นำตลาดนมและผลิตภัณฑ์จากนมพาสเจอร์ไรซ์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าเพื่อส่งเสริมสุขภาพคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง จึงหันมาพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น
คุณสลิลรัตน์ พงษ์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด เปิดเผยว่า “นับเป็นความท้าทายของทุกบริษัทที่ต้องปรับตัวตลอดเวลากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต้องทำให้ไวขึ้น เราเองในฐานะที่มีจุดยืนด้านนวัตกรรมสินค้าที่มีคุณภาพ มุ่งเน้นส่งเสริมสุขภาพคนไทยให้แข็งแรง ได้เล็งเห็นถึงเทรนด์รักสุขภาพนี้มาอย่างต่อเนื่อง เรามีการพัฒนาสินค้าใหม่ของเราในแต่ละปีให้สอดคล้องความต้องการผู้บริโภค และก้าวนำตลาดด้วยการส่งสินค้านวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ ที่ผ่านมาเราเริ่มมีการปรับพอร์ทสินค้าให้ขยายไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์นมที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพเฉพาะอย่าง หรือเรียกว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์นมฟังก์ชันนัล (Functional Milk) มาตั้งแต่ 6 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ “เมจิ ไฮโปรตีน” นมพาสเจอร์ไรซ์ที่มีนวัตกรรมใหม่ให้โปรตีนสูงเหมาะสำหรับคนออกกำลังกาย, “เมจิ แลคโตสฟรี” ตอบโจทย์ผู้ที่แพ้น้ำตาลแลคโตส หรือผู้ที่ดื่มนมสดแล้วมีอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเสีย ซึ่งก็สามารถสร้างยอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์นมแบบไม่มีน้ำตาลแลคโตส และ “เมจิ บี คอมเพล็กซ์” นมพาสเจอร์ไรซ์ผสมวิตามินบีรวม มีจุดขายชัดเจนช่วยบำรุงสมอง
และล่าสุด ส่ง ‘เมจิ โปร-ซี’ โยเกิร์ตพร้อมดื่มช็อต รุกตลาดฟังก์ชันนัลแบบเต็มสูบ รับเทรนด์เสริมภูมิคุ้มกันในช่วงนี้ นับว่าเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่มผสมโพรไบโอติกและมีวิตามินซีสูงรูปแบบช็อตเข้มข้น เจ้าแรกในไทย โดยตั้งใจออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นสูตรเฉพาะของเมจิเท่านั้น เพื่อช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทั้งระบบตั้งแต่ลำไส้ถึงเม็ดเลือดขาว เพื่อให้ได้ประโยชน์การมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างแท้จริง โดย เมจิ โปร-ซี เป็นสูตรที่คิดค้นมาโดยเป็นการรวมกันของ สารสำคัญที่จำเป็นหลายอย่างทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอย่างแท้จริง โดยประกอบด้วย
- จุลินทรีย์โพรไบโอติกสายพันธุ์พิเศษ Bl-04 จากสหรัฐอเมริกา ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนถึง 27% ซึ่งเป็นสาเหตุของไข้หวัด ทำงานโดยตรงต่อระบบภูมิคุ้มกันที่ลำไส้ ในการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
- วิตามินซีสูง 100% ที่ช่วยเสริมการทำงานของโพรไบโอติก วิตามินซีจะช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่เม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อโรค
- และยังมีวิตามินดี สังกะสี ซีลีเนียมสูง ซึ่งล้วนแต่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- นอกจากนี้ยังเป็นสูตรที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะไม่มีไขมัน น้ำตาลน้อย แคลอรี่ต่ำ ได้รับสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ ในรสชาติที่อร่อย สดชื่น ดื่มได้ทุกวัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงทุกวัน
- โดยพัฒนามาในรูปแบบช็อต ขนาด 100 มล. ด้วยปริมาณที่ดื่มง่าย สะดวก รวดเร็ว แต่ได้ประโยชน์เพียงพอที่ร่างกายต้องการเต็มๆ ในขวดเดียว
โดยสินค้า เมจิ โปร-ซี มุ่งตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ต้องออกไปเจอความเสี่ยงนอกบ้านทุกวัน ดังนั้น การดูแลภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรคต่างๆ
เพื่อสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จึงส่งแคมเปญ แจกฟรี! เมจิ โปร-ซี 1 ขวด เมื่อแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีน ณ จุดฉีด โลตัส พระราม 4 เพื่อสนับสนุนคนไทยฉีดวัคซีนหยุดเชื้อเพื่อชาติ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 64 เป็นต้นไปสามารถติดตามรายละเอียดสถานที่แจกและข้อมูลสินค้า ได้ที่ https://www.facebook.com/CPMEIJI
มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ 7-Eleven และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ทั้ง ขวดเดี่ยว ขนาด 100 มล. ราคา 16 บาท และ แพ็ค 3
สุดท้ายนี้ แบรนด์เมจิ ปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาด 55% ในกลุ่มนมพาสเจอร์ไรซ์ , 20% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตถ้วย และ 15% ในกลุ่มโยเกิร์ตพร้อมดื่ม โดยการออกเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรซ์และโยเกิร์ตพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพ น่าติดตามว่าการบุกตลาดฟังก์ชันนัลแบบเต็มตัวครั้งนี้ จะเข้ามาเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อสุขภาพได้มากน้อยเพียงใด
[Advertorial]