เพื่อไทย ให้เกียรติ ก้าวไกล เสนอเงื่อนไขตั้งรัฐบาล จี้ ส.ว. รับเสียง ปชช. ปัดจับขั้วแข่ง

Home » เพื่อไทย ให้เกียรติ ก้าวไกล เสนอเงื่อนไขตั้งรัฐบาล จี้ ส.ว. รับเสียง ปชช. ปัดจับขั้วแข่ง


เพื่อไทย ให้เกียรติ ก้าวไกล เสนอเงื่อนไขตั้งรัฐบาล จี้ ส.ว. รับเสียง ปชช. ปัดจับขั้วแข่ง

ประชุมร่วมระดับพรรคเป็นทางการครั้งแรก เพื่อไทย ให้เกียรติ ก้าวไกล เสนอเงื่อนไขตั้งรัฐบาล จี้ ส.ว. ยอมรับเสียง ปชช. ปัดจับขั้วอื่นตั้ง รบ. แข่ง

17 พ.ค. 66 – ที่สวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลจะมีการนัดประชุมหารือในการจัดตั้งรัฐบาลช่วงเย็นวันนี้ว่า

เป็นการประสานงานพูดคุยกัน ซึ่งเริ่มจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แถลงไปว่าจะมีการติดต่อประสานมาที่ทางพรรคเพื่อไทย และทางพรรคเพื่อไทยได้รับการติดต่อประสาน ซึ่งเป็นการพูดคุยนอกรอบ โดยกระบวนการหลังจากนั้น เราจะตั้งผู้แทน โดยมอบให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้พบปะพูดคุยกับ เลขาพรรคก้าวไกล กันเบื้องต้นแล้ว

เมื่อถามว่า การประชุมที่จะเกิดขึ้น จะมีการตกลงกันในหลักการที่จะร่วมรัฐบาลกันทั้งหมดหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นการประชุมร่วม 6 พรรค ซึ่งประเด็นในข้อหารือหรือกระบวนการวิธีการต่างๆ เราให้สิทธิ์ และให้เกียรติกับพรรคก้าวไกล ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเป็นผู้กำหนด

ฉะนั้นประเด็นที่จะพูดคุยกัน ทางพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้กำหนดว่า เขาต้องการอะไร หรือลงลึกขนาดไหน เพราะถือว่า เป็นการประชุมอย่างเป็นทางการในระดับพรรคเป็นครั้งแรก

เมื่อถามย้ำว่า เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยได้ตั้งเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การตั้งเงื่อนไขตนประกาศไปอย่างชัดเจนในการกำหนดแนวทาง แต่ประเด็นข้อหารือหรือเงื่อนไขต่างๆ เราถือว่าเป็นหน้าที่หลักของพรรคแกนนำจัดตั้ง

ฉะนั้นจะเป็นหน้าที่หลักของเขาเป็นผู้เสนอ เราไม่มีเงื่อนไขเก็บไว้เพื่อที่จะไปต่อรอง เราจะรู้ข้อเสนอในสิ่งที่พรรคแกนนำจัดทำมาว่า เขาทำมาอย่างไร เอาตรงนั้นเป็นตัวตั้ง ส่วนรายละเอียดที่เราจะรับได้หรือไม่นั้น เป็นรายละเอียดเชิงลึกที่ต้องพูดคุยกัน

เมื่อถามถึงกรณี ส.ว.ที่เป็นตัวแปรในการเลือกนายกฯ นพ.ชลน่าน มองว่า เป็นความเห็น จะไปเหมารวมว่าเป็น ส.ว.ทั้งหมดไม่ได้ เพราะความเห็นบุคคลก็หลากหลายไป

แต่สิ่งที่สำคัญและตนเห็นด้วยคือสิ่งที่ นายพิธา แถลงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นฉันทามติ และอาณัติจากพี่น้องประชาชนที่มอบหมายให้ฝ่ายประชาธิปไตยจำนวน 300 กว่าเสียง ซึ่งขณะนี้ 310 เสียงก็ถือว่าเป็นเสียงข้างมาก ฉะนั้นก็ควรเป็นไปตามหลักการ นั่นหมายความว่า ส.ว. เห็นควรจะต้องยอมรับเสียงข้างมากของประชาชน

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลรวบรวมเสียงไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะช่วยพรรคก้าวไกลในการเดินขอคะแนนเสียงหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถือเป็นตัวเลือกในอีกแนวทาง หากได้เสียง ส.ว.ไม่พอ แต่ข้อเท็จจริงจะเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือไม่คงต้องรอดู เพราะมีเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย

ทั้งนี้ หากเราตัดสินใจเข้าร่วมแล้วก็ต้องช่วยกัน ทำให้งานแต่งในครั้งนี้สัมฤทธิ์ผล ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยเจรจากับ ส.ว. หรือ ส.ส. ที่เขามาโหวต โดยฟากฝั่งของ ส.ส.นั้น หลักการโดยทั่วไป คือไม่มีของฟรีในโลก โดยเฉพาะระบบการเมือง ถ้าเขาจะโหวตให้ เขาก็ต้องมีเงื่อนไขที่เขาจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ คือการร่วมรัฐบาลไปผลักดันนโยบาย

เมื่อถามว่า 310 เสียงก็พอต่อการตั้งรัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง และเหมาะสมที่สุด โดยมองว่า หากมากไปกว่านี้จะซ้ำรอยรัฐบาล 377 เสียงในสมัยพรรคไทยรักไทย จนทำให้อีกฝั่งใช้วาทกรรมเผด็จการรัฐสภานำมาเป็นข้อต่อรองเชิงอำนาจ

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ทฤษฎีในการจัดตั้งรัฐบาลขั้วต่างๆ ว่า หากเพื่อไทยไม่ได้จับมือกับก้าวไกล มีแนวโน้มอาจไปจับกับขั้วอื่นๆ ในฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ หากพรรคเพื่อไทยไม่จับกับก้าวไกล พรรคก้าวไกลก็จะขยับไม่ได้เลย แต่เรายอมรับฉันทามติของพี่น้องประชาชน เราไม่มีเงื่อนไขใดๆ

“แม้เราจะเป็นเจ้าสาวสวยๆ แต่เราไม่เคยกำหนดว่า จะต้องเอาสินสอดทองหมั้นจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราไม่เคยเสนอก่อน เราเพียงแค่บอกว่า คุณก็เสนอมาสิ เราจะดูว่าเหมาะสมกับเราหรือไม่เท่านั้นเอง” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่างานแต่งในครั้งนี้จะสำเร็จภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ดูจากความจำเป็นแล้ว ก็ควรสำเร็จเพื่อประเทศชาติ และประชาชน หากช้าไปอีกก็จะมีแต่ความเสียหาย ทุกฝ่ายต้องการความสงบ ซึ่งความสงบต้องช่วยกันสร้าง ยกเว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งต้องการที่จะให้เกิดความไม่สงบ เพื่อใช้เป็นร่องรอยของการใช้อำนาจ ซึ่งเราต้องระมัดระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของเขา

เมื่อถามย้ำว่า จะเกิดสถานการณ์จนทำให้เกิดสุญญากาศในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แม้จะได้เสียงมาท่วมท้น นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะทุกอย่างมีทางออก หากอ้างจากคำให้สัมภาษณ์ของ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ระบุว่าทุกอย่างมีทางออก ขอเพียงทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน

อย่างเราก็ชัดเจน และพร้อมว่าจะช่วยกันประคับประครองอุ้มชู เราพร้อมจะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้ ส่วนคนที่ใส่ร้ายเราว่า ถือมีดซ่อนข้างหลัง ก็ขอเถอะครับ นั่นเป็นการทำลายมากกว่า เพราะเราโดนกระหน่ำมาทุกด้าน ทั้งกระแสและกระสุน

ส่วนที่ นายวิษณุ แนะนำให้ไปคุยกับ ส.ว.นั้น ความคิดเห็นส่วนตัวเป็นอีกประเด็น เราไม่ห้ามว่าคุณจะเลือกด้วยวิธีคิดแบบใด ยึดหลักการไว้ก่อน แล้วคุณค่อยโหวตให้เหมือนสมัยปี 2562 หากคุณจะมองว่า เจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวไม่มีคุณสมบัติ คุณก็ต้องอธิบายเรื่องนี้ สังคมประชาธิปไตยอยู่ด้วยเหตุและผล

ดังนั้นเราต้องใช้เสียงข้างมากมาตัดสิน ดังนั้นสิ่งที่พรรคก้าวไกลคิดขึ้นมา และจะยื่นข้อเสนอมานั่นคือเครื่องมือที่จะบ่งบอกว่า ข้อตกลงร่วมที่จะมีประจักษ์พยานเป็นประชาชนที่เขาต้องรับรู้ และคนที่มีหน้าที่โหวตเลือกนายกฯ ต้องไปดู และพิจารณาว่า สิ่งที่รัฐบาลจะสร้างมีอะไร หากเขารับไม่ได้ก็เป็นคำตอบในตัวของมันเอง

เมื่อถามกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับบ้านภายหลังการเลือกตั้ง นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีความเห็น เพราะสิ่งที่ นายทักษิณ พูดก็ชัดอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย จะเป็นหรือไม่เป็นรัฐบาล ซึ่งขณะนี้เป็นรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รักษาการอยู่

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ